“...จากการพิจารณาและพยานหลักฐานต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ปรากฏโดยชัดแจ้งว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบตร.(มค) และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ได้ร่วมกันกระทำการอันเป็นความผิด 1. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 18(6) และข้อ 2”
ทันทีที่ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่รัฐบาลได้หารือในประเด็นข้อกฎหมาย เกี่ยวกับ กรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ถูกกล่าวหาว่าทำผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2538, ประกาศกระทรวงการคลังเรื่องหลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์, พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151, 157 ประกอบด้วยมาตรา 83, 84, 86, 90 และ 91 สำนักงานตำรวจแห่งชาติในยุค พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผลสรุปออกมาคณะกรรมการเห็นว่าผิดวินัยร้ายแรง และเรื่องนี้ ถูกเมินเฉยอยู่นานในยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ต่อเนื่องมาถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
โดยรายงาน(ลับ)ผลหารือกฤษฎีกา ระบุว่า รายงานสรุปข้อเท็จจริงและความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่ว่า ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำความผิดวินัยตามข้อกล่าวหาของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และเห็นสมควรยุติเรื่อง ที่ได้เสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี(นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประกอบการพิจารณาสั่งการ นั้น เป็นการดำเนินการที่มิได้อยู่ในกระบวนการหรือขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ จึงไม่อาจถือเอาความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นที่ยุติได้
และเนื่องจากเรื่องนี้ยังมีข้อกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจผู้นี้กระทำผิดวินัย นายกรัฐมนตรีหรือผู้ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้รับผิดชอบกำกับการบริหารราชการและสั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีสำหรับราชการสำนักตำรวจแห่งชาติในเวลาต่อมา จึงยังคงมีหน้าที่ตามมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ที่จะต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป
**ลำดับขั้นตอนร่วมทุจริต
ความเดิม...จากการตรวจสอบ พบว่า ในปีงบประมาณ 2548 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับงบประมาณค่าโฆษณาและเผยแพร่ จำนวนเงิน 114,000,000 บาท เพื่อใช้บริหารงานในหมวดการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอำนวยการจราจร ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจ้างผลิตรายการต่าง ๆ ไว้เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาโดยตลอด จนกระทั่งงบประมาณคงเหลือจำนวน 18,766,000 บาท พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ ผบก.พธ.(ขณะนั้น )จึงได้เสนอขอให้นำงบประมาณดังกล่าวมาดำเนินการจัดจ้างรายการใหม่จำนวน 3 รายการ ต่อ พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) (ขณะนั้น) และพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. (ขณะนั้น) ซึ่งต่อมาในวันที่ 2 ก.ย. 2548 พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.ได้อนุมัติหลักการให้นำงบประมาณดังบกล่าวไปดำเนินการจัดจ้างรายการใหม่ จำนวน 3 รายการ ตามที่ พล.ต.ต.สัจจะ เสนอ
ต่อมาวันที่ 6 ก.ย.2548 พล.ต.ต.สัจจะ ผบก.พธ.ได้เสนอต่อ พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.พัชรวาท ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) ขอนุมัติจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ จำนวน 3 รายการด้วยการจ้างโดยวิธีพิเศษ และขออนุมัติแต่งตั้ง พล.ต.ต.บุญเรือง ผลพาณิชย์ รอง ผบช.สนว.(ขณะนั้น) เป็นประธานกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ซึ่ง พล.ต.ท.พัชรวาท ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 ก.ย.2548 และในวันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.ได้อนุมัติให้จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยให้ พล.ต.ต.บุญเรือง เป็นประธานกรรมการจัดจ้างฯ
ในวันรุ่งขึ้น (8 ก.ย.2548) พ.ต.ท.พิทักษ์ ท้วมเกร็ด รอง ผกก.ฝ่ายพลาธิการ 1 กรรมการ ทำการแทนประธานกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ได้มีหนังสือที่ ตช 0034 เรียน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ขอให้ยื่นข้อเสนอรายละเอียดของการดำเนินการโฆษณาเผยแพร่และเสนอราคาต่อคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ในวันที่ 13 ก.ย. 2548 เวลา 10.00-11.00 น.และได้ส่งขอบเขตโดยละเอียดของการดำเนินการโฆษณาเผยแพร่ฯ ไปให้พิจารณาด้วย
วันที่ 13 ก.ย.2548 นายสุรศักดิ์ มุกประดับ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ได้มีหนังสือที่ อม.030/2548 เรียน ประธานคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษเสนอการผลิตพร้อมเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ เป็นเงินทั้งสิ้น 18,697,500 บาท (สิบแปดล้านหกแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยบาทถ้วน)
วันเดียวกัน พล.ต.ต.บุญเรือง ประธานคณะกรรมการ ได้มีบันทึกที่ 0034/4229 ลงวันที่ 13 ก.ย.2548 เรียน พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.ว่า บริษัท เอ็นเอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด เสนอรายละเอียดการดำเนินการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของ ตร.จำนวน 3 รายการเป็นเงินทั้งสิ้น 18,697,500 บาท ซึ่งคณะกรรมการได้พิจารณาเห็นว่า บริษัทมีผลงานที่น่าเชื่อถือในการผลิตรายการและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ของ ตร.ตามงบประมาณที่ตั้งไว้ ราคาค่าใช้จ่ายที่บริษัทเสนอเป็นราคาที่พอสมควร และไม่เกินวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ เห็นควรจ้างบริษัทดำเนินการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ตร.จำนวน 3 รายการ เป็นเงิน 18,697,500 บาท
วันรุ่งขึ้น พล.ต.ต.สัจจะ ผบก.พธ.ได้มีบันทึกที่ 0009.22/2133 ลงวันที่ 14 ก.ย. 2548 เรียน พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.ผ่าน พล.ต.ท.พัชรวาท ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) ว่า ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ได้ดำเนินตามระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วยการพัสดุ ปี 2535 ซึ่ง พล.ต.ท.พัชรวาท ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) ได้ให้ความเห็นชอบในวันที่ 15 ก.ย.2548 และ พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.ได้อนุมัติให้จ้างบริษัทดำเนินการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของ ตร.ทั้ง 3 รายการ เป็นเงิน 18,697,500 บาท ในวันที่ 16 ก.ย.2548
วันเดียวกันนั้นเอง พล.ต.ต.สัจจะ ผบก.พธ.ได้ลงนามเป็นผู้สั่งจ้างตามที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร. ตามใบสั่งจ้างของ สตช.ที่ 01(2)/14/2548 ลงวันที่ 16 ก.ย.48 จ้างบริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ดำเนินการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของ ตร.จำนวน 3 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 18,697,500 บาท
จากข้อเท็จจริงประกอบพยานเอกสารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร. พล.ต.ท.พัชรวาท ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) และ พล.ต.ต.บุญเรือง รอง ผบช.สนว.(ทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานของ พล.ต.ท.พัชรวาท) ในฐานะประธานกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ที่ผู้ถูกร้องเรียนทั้ง 3 นายได้กระทำขึ้นทั้งสิ้นแล้วกระผมมีความเห็นว่า ในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2548 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับงบประมาณค่าโฆษณาและเผยแพร่ จำนวน 114,000,000 บาท เพื่อใช้บริหารงานในหมวดการป้องกันปราบปรามอาชญาการรมและอำนวยการจราจร เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปบางส่วนแล้ว
จนกระทั่งวันที่ 31 ส.ค.2548 พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ ผบก.พธ.ได้มีหนังสือถึง พล.ต.อ.โกวิท ผบ.ตร.ผ่าน พล.ต.ท.พัชรวาท ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล สั่งการการดำเนินการด้านงบประมาณด้านการดำเนินการจัดจ้างเอกชนโฆษณาและเผยแพร่รายการใหม่ จำนวน 3 รายการ ซึ่ง พล.ต.ท.พัชรวาท ได้ให้ความเห็นชอบ และนำเสนอ ต่อ พล.ต.อ.โกวิท ในวันที่ 2 ก.ย.2548 และในวันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ก็ได้อนุมัติให้นำเงินจำนวน 18,766,000 บาท มาดำเนินการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ มาตั้งแต่เริ่มตันเสนอโครงการ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ได้มีการเสนอและอนุมัติใช้งบประมาณรายจ่ายในหมวดนี้จากยอดเงินงบประมาณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับ 114,000,000 บาท ไปบางส่วนแล้ว โดยมี พล.ต.ท.พัชรวาท เป็นผู้เห็นชอบเสนอ และ พล.ต.อ.โกวิท เป็นผู้อนุมัติให้ใช้งบประมาณในหมวดดังกล่าวไปแล้วหลายรายการ
ต่อมาวันที่ 6 ก.ย.2548 ผบก.พธ.ได้เสนอต่อ พล.ต.อ.โกวิท ผ่าน พล.ต.ท.พัชรวาท ขออนุมัติจัดจ้างเอกชนโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของตร.ด้วยงบประมาณ 187,766,000 บาทด้วยการจ้างโดยวิธีพิเศษ และขออนุมัติแต่งตั้ง พล.ต.ต.บุญเรือง ผลพานิชย์ เป็นประธานกรรมการจัดจ้างฯ ตามที่ พล.ต.ท.พัชรวาท เห็นชอบเสนอ และ พล.ต.อ.โกวิท อนุมัติไว้ก่อนแล้ว ซึ่งในวันรุ่งขึ้น (7 ก.ย.2548) พล.ต.ท.พัชรวาทฯ ได้ลงนามเสนอ พล.ต.อ.โกวิท เพื่อขออนุมัติตามที่ ผบก.พธ.เสนอ และในวันเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ก็ได้อนุมัติให้จัดจ้างด้วยวิธีพิเศษการดำเนินการตามเอกสารที่แนบจึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 18(6) และข้อ 21 ที่ได้กำหนดไว้ว่า การจัดจ้างซึ่งมีวงเงินรวมเกินกว่า 2 ล้านบาท ต้องดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด จะดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ด้วยการอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ มิได้ เป็นการฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเฉพาะ พล.ต.ท.พัชรวาท และ พล.ต.อ.โกวิท มีเจตนามาตั้งแต่ต้น ที่จะนำงบประมาณ จำนวน 18,766,000 บาท มาจัดจ้างผลิตรายการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ จำนวน 3 รายการ ด้วยวิธีพิเศษ
สำหรับคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษชุดดังกล่าว เมื่อได้รับทราบคำสั่งและมีเจตนาสุจริต ต้องรักษาผลประโยชน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ สำนักนายกฯ ว่าด้วยการพัสดุ ปี 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัด แต่ปรากฏว่า คณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษนอกจากจะไม่ได้เสนอความเห็นโต้แย้งแล้ว ยังได้เร่งรัดดำเนินการด้วยการมีหนังสือเชิญ บริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด เพียงรายเดียวให้มายื่นเสนอราคา และเมื่อคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ได้รับเอกสารการเสนอราคาจากบริษัทดังกล่าวในวันที่ 13 ก.ย.2548 เวลา 10.00 -11.00 น.ในวันเดียวกันนั้นคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษก็ได้จัดทำบันทึก รายงานผลการพิจารณาจัดจ้าวง ว่า เห็นควรจ้างบริษัทเอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ดำเนินการโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของ ตร. จำนวน 3 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 18,697,000 บาท การกระทำของ พล.ต.ต.บุญเรือง และกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย เพราะ พล.ต.อ.โกวิท ไม่มีอำนาจอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เนื่องจากวงเงินรวมเกินกว่า 2 ล้านบาท และเมื่อพิจารณาลักษณะงานที่จะต้องจัดจ้างผลิตโฆษณาและเผยแพร่จำนวน 3 รายการดังกล่าวแล้ว ไม่ใช้เป็นงานที่จะต้องจ้างช่างฝีมือโดยเฉพาะ หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ หรือเป็นงานที่ต้องกระทำโดยเร่งด่วน หากล่าช้าจะเสียหายแก่ราชการแต่อย่างใด
การกระทำดังกล่าวของ พล.ต.ต.บุญเรือง กับคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ได้กระทำโดยมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคามา (บริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด) เพียงรายเดียว มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกัดผู้เสนอราคารายใด มิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคา ถือเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11
**ผลสอบสรุปชี้ชัดผิดชัดแจ้ง
จากการพิจารณาและพยานหลักฐานต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ปรากฏโดยชัดแจ้งว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบตร.(มค) และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.ได้ร่วมกันกระทำการอันเป็นความผิด 1. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 18(6) และข้อ 2
2.ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องหลักเกณฑ์การซื้อและการจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเลกทรอนิกส์ (ออกตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2547) ข้อ 6 ข้อ 12 ข้อ 13 และ ข้อ 16
3.พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และ มาตรา 12
4.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 มาตรา 157 ประกอบ มาตรา 83, 84, 86, 90, 91
5.พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 86 และมาตรา 79(1)
ลงนามในบันทึกข้อความ โดย พล.ต.ท.ทวีพร นามเสถียร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (ทนท.บริหารและควบคุมให้เป็นไปตามนโยบาย ศปก.ตร.) ลงวันที่ 27 ก.พ.2551