ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไตรมาส 2 ปีนี้ร่วง 31% ส่วนใหญ่กำไรหดหรือบางบริษัทขาดทุน เหตุรับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ยอดขายตกกำไรขั้นต้นต่ำ รวมทั้งขาดทุนจากค่าเงินที่ผันผวน METCO หนักสุดเหตุยอดขายวูบ ขณะ KCE ฟื้นตัวส่วนหนึ่งจากกำไรส่วนต่างขายที่ดิน ด้าน CCET ใจดีแม้กำไรทรุดยังปันผลกลางปีหุ้นละ 5 สต.
METCO อ่วมสุดจากกำไรเป็นขาดทุน
บริษัทมูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ METCO งวดนี้เป็นรอบไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 52 โดยพบว่า จากงวดนี้ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิกว่า 169 ล้านบาท เป็นขาดทุน 121 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าลดลง อันเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ แม้ตัวเลขขาดทุนขั้นต้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำลง รวมทั้งขาดทุนจากค่าเงินลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน
DELTA หรือบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แจ้งผลงานงวดนี้พบว่ากำไรสุทธิลดลงกว่า 50% ผลจากค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนารวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น แม้กำไรขั้นต้นจะเพิ่มแต่ยอดขายกลับลดลง อันเป็นผลมาจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกที่ถดถอยมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรวมที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการบริโภครวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยอดขายลดลง 15 %
HANA หรือบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าผลงานไตรมาสนี้กำไรตกเกือบ 8% เพราะรายได้จากการขายกลุ่มของบริษัทลดลง 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 51 โดยเฉพาะยอดขายในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐในทุกหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ บวกกับความผันผวนของค่าเงินส่งผลให้ผลงานตก แม้บริษัทจะหันมาเน้นลดต้นทุนการด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำลง
บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ( ประเทศไทย ) จากัด (มหาชน) ( CCET ) งวดนี้กำไร 459.77 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 621.64 ล้านบาท หรือลดลง 26.04% แม้รายได้จากการขายจากสินค้าแผ่น PC Board และ Hard Disk Drive ของบริษัทฯ จะสูงขึ้น แต่สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยต่ำประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจผลิตสินค้าอีเล็คโทรนิคส์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจของโลกได้ชะลอตัวทำให้บริษัทฯไม่สามารถที่จะผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้ ขณะยอดขายไตรมาสนี้เพิ่มเล็กน้อย สวนทางกำไรขั้นต้นลดลงจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนธุรกิจแผงวงจร PCB ซึ่งมีกำไรต่อหน่วยต่ำและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง แต่คณะกรรมการบริษัทยังให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.05บาท กำหนดจ่ายวันที่ 31 สิงหาคม 2552
DRACO หรือ บริษัท ดราโก้ พีซีบี จำกัด (มหาชน) แจ้งงวดนี้ขาดทุน 0.39 ล้านบาท ขณะงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 19.64 ล้านบาท หรือวูบ 101.98% จากยอดขายลดลง เนื่องจากการขายลดลงของแผ่นพิมพ์วงจรไฟฟ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์อย่างต่อเนื่อง แม้ไตรมาส 2 คำสั่งซื้อแผ่นพิมพ์วงจรไฟฟ้าสำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์เริ่มมีปริมาณมากขึ้น คาดว่าจะช่วยทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ในไตรมาสต่อไปดีขึ้น ขณะต้นทุนขายและต้นทุนผลิตสูง รวมทั้งขาดทุนจากค่าเงิน
บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC งวดนี้ร่วงเกือบ 15% ผลจากขาดทุน 14.58 ล้านบาท ขณะงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 27.36 ล้านบาท อันเป็นผลจากยอดขายต่ำลงจากวิฤตเศรษฐกิจการเงินโลกที่มี ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกำไรขั้นต้นต่ำจากยอดขายลดลง อีกทั้งการยกเลิกสัญญาคลังสินค้ากับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส่งผลให้บริษัทไม่มีการรับรู้รายได้จากค่ารับฝากสินค้านับตั้งแต่ไตรมาส 2/2552 เป็นต้นไป รวมทั้งขาดทุนค่าเงิน และะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น
SVI หรือ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลงานไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 138.87 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 141.21 ล้านบาท หรือลดลงเกือบ 2% เนื่องจากยอดขายลดลงมูลค่า 46.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 1,606 ล้านบาทหรือลดลง 9.2% เทียบกับยอดขายไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาลูกค้าจึงลดปริมาณการสั่งซื้อ และปรับลดการเก็บสินค้าคงคลัง รวมทั้งกำไรขั้นต้นต่ำลง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
TEAM-SPPT กำไรยังเติบโต
TEAM หรือบริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) งวดนี้มีกำไรสุทธิ 15.36 ล้านบาท เพิ่้มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 28% เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดอเมริการ อันเป็นผลจากกลยุทธในการเจาะตลาดและขยายไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่บริษัทวางแผนไว้ สำหรับยอดขายจากตลาดในภาคพื้นยุโรปและเอเชียของบริษัท มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสนี้กำไรขั้นต้นขยับเพิ่ม ด้วยสภาวะของการแข่งขัน การขอลดราคาค่าสินค้าจากลูกค้า ตลอดจนความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยังคงสร้างความท้าทายแก่บริษัทในการผลักดันให้มีกำไรขั้นต้นคงอยู่ในเกณฑ์ภายใต้สภาพเศรษฐกิจ
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE งวดนี้ฟื้นกำไรกว่า 104% ผลจากยอดขายที่สูงถึง 1,292.1 ล้านบาท บวกกับกำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้น ผลจากการใช้กำลังการผลิตแบบเต็มกำลัง และในการผลิตได้ใช้วัตถุดิบที่ซื้อเข้ามาใหม่ซึ่งมีราคาถูกลงด้วย รวมทั้งมีการใช้มาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างจริงจัง บวกกับกำไรจากการขายที่ดินอีก 41 ล้านบาท
SPPT หรือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) งวดนี้กำไรยังโตจาก 7.13 ล้านบาทในปี 51 เป็น 9.71 ล้านบาทปีนี้หรือเพิ่มขึ้น 36.18% แม้รายได้รวมของบริษัทจะลดลง แต่ต้นทุนขายต่ำจากประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบได้ดี ต้นทุนค่าจ้างแรงงานลดเนื่องจากการให้พนักงานสมัครใจลาออกในไตรมาสก่อน ค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลงเพราะไตรมาสนี้มีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้นและสัมพันธ์กันกับขนาดการผลิตที่เหมาะสมและประหยัด ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบได้ดี ต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง พร้อมกันนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.06 บาท กำหนดจ่ายเงินวันที่ 10 กันยายน 2552
METCO อ่วมสุดจากกำไรเป็นขาดทุน
บริษัทมูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ METCO งวดนี้เป็นรอบไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 52 โดยพบว่า จากงวดนี้ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิกว่า 169 ล้านบาท เป็นขาดทุน 121 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายสินค้าลดลง อันเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ แม้ตัวเลขขาดทุนขั้นต้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำลง รวมทั้งขาดทุนจากค่าเงินลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน
DELTA หรือบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แจ้งผลงานงวดนี้พบว่ากำไรสุทธิลดลงกว่า 50% ผลจากค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนารวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น แม้กำไรขั้นต้นจะเพิ่มแต่ยอดขายกลับลดลง อันเป็นผลมาจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกที่ถดถอยมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรวมที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการบริโภครวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยอดขายลดลง 15 %
HANA หรือบริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าผลงานไตรมาสนี้กำไรตกเกือบ 8% เพราะรายได้จากการขายกลุ่มของบริษัทลดลง 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 51 โดยเฉพาะยอดขายในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐในทุกหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ บวกกับความผันผวนของค่าเงินส่งผลให้ผลงานตก แม้บริษัทจะหันมาเน้นลดต้นทุนการด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่ำลง
บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ( ประเทศไทย ) จากัด (มหาชน) ( CCET ) งวดนี้กำไร 459.77 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 621.64 ล้านบาท หรือลดลง 26.04% แม้รายได้จากการขายจากสินค้าแผ่น PC Board และ Hard Disk Drive ของบริษัทฯ จะสูงขึ้น แต่สินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยต่ำประกอบกับการแข่งขันในธุรกิจผลิตสินค้าอีเล็คโทรนิคส์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจของโลกได้ชะลอตัวทำให้บริษัทฯไม่สามารถที่จะผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังลูกค้าได้ ขณะยอดขายไตรมาสนี้เพิ่มเล็กน้อย สวนทางกำไรขั้นต้นลดลงจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนธุรกิจแผงวงจร PCB ซึ่งมีกำไรต่อหน่วยต่ำและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง แต่คณะกรรมการบริษัทยังให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.05บาท กำหนดจ่ายวันที่ 31 สิงหาคม 2552
DRACO หรือ บริษัท ดราโก้ พีซีบี จำกัด (มหาชน) แจ้งงวดนี้ขาดทุน 0.39 ล้านบาท ขณะงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 19.64 ล้านบาท หรือวูบ 101.98% จากยอดขายลดลง เนื่องจากการขายลดลงของแผ่นพิมพ์วงจรไฟฟ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์อย่างต่อเนื่อง แม้ไตรมาส 2 คำสั่งซื้อแผ่นพิมพ์วงจรไฟฟ้าสำหรับชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์เริ่มมีปริมาณมากขึ้น คาดว่าจะช่วยทำให้ยอดขายของบริษัทฯ ในไตรมาสต่อไปดีขึ้น ขณะต้นทุนขายและต้นทุนผลิตสูง รวมทั้งขาดทุนจากค่าเงิน
บริษัท อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC งวดนี้ร่วงเกือบ 15% ผลจากขาดทุน 14.58 ล้านบาท ขณะงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 27.36 ล้านบาท อันเป็นผลจากยอดขายต่ำลงจากวิฤตเศรษฐกิจการเงินโลกที่มี ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกำไรขั้นต้นต่ำจากยอดขายลดลง อีกทั้งการยกเลิกสัญญาคลังสินค้ากับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส่งผลให้บริษัทไม่มีการรับรู้รายได้จากค่ารับฝากสินค้านับตั้งแต่ไตรมาส 2/2552 เป็นต้นไป รวมทั้งขาดทุนค่าเงิน และะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น
SVI หรือ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลงานไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 138.87 ล้านบาท ลดจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 141.21 ล้านบาท หรือลดลงเกือบ 2% เนื่องจากยอดขายลดลงมูลค่า 46.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 1,606 ล้านบาทหรือลดลง 9.2% เทียบกับยอดขายไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาลูกค้าจึงลดปริมาณการสั่งซื้อ และปรับลดการเก็บสินค้าคงคลัง รวมทั้งกำไรขั้นต้นต่ำลง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง
TEAM-SPPT กำไรยังเติบโต
TEAM หรือบริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) งวดนี้มีกำไรสุทธิ 15.36 ล้านบาท เพิ่้มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 28% เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดอเมริการ อันเป็นผลจากกลยุทธในการเจาะตลาดและขยายไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่บริษัทวางแผนไว้ สำหรับยอดขายจากตลาดในภาคพื้นยุโรปและเอเชียของบริษัท มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาสนี้กำไรขั้นต้นขยับเพิ่ม ด้วยสภาวะของการแข่งขัน การขอลดราคาค่าสินค้าจากลูกค้า ตลอดจนความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยังคงสร้างความท้าทายแก่บริษัทในการผลักดันให้มีกำไรขั้นต้นคงอยู่ในเกณฑ์ภายใต้สภาพเศรษฐกิจ
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE งวดนี้ฟื้นกำไรกว่า 104% ผลจากยอดขายที่สูงถึง 1,292.1 ล้านบาท บวกกับกำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้น ผลจากการใช้กำลังการผลิตแบบเต็มกำลัง และในการผลิตได้ใช้วัตถุดิบที่ซื้อเข้ามาใหม่ซึ่งมีราคาถูกลงด้วย รวมทั้งมีการใช้มาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างจริงจัง บวกกับกำไรจากการขายที่ดินอีก 41 ล้านบาท
SPPT หรือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) งวดนี้กำไรยังโตจาก 7.13 ล้านบาทในปี 51 เป็น 9.71 ล้านบาทปีนี้หรือเพิ่มขึ้น 36.18% แม้รายได้รวมของบริษัทจะลดลง แต่ต้นทุนขายต่ำจากประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนการผลิตและวัตถุดิบได้ดี ต้นทุนค่าจ้างแรงงานลดเนื่องจากการให้พนักงานสมัครใจลาออกในไตรมาสก่อน ค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลงเพราะไตรมาสนี้มีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้นและสัมพันธ์กันกับขนาดการผลิตที่เหมาะสมและประหยัด ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบได้ดี ต้นทุนการผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง พร้อมกันนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.06 บาท กำหนดจ่ายเงินวันที่ 10 กันยายน 2552
