ASTVผู้จัดการรายวัน-“พลังงาน” เตรียมถกแนวทางชดเชยราคาเอ็นจีวีให้ปตท.ในการประชุมกพช. 24 ส.ค.นี้ คาดใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ชดเชย 300 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมเร่งรัดให้ปตท. ลงทุนขยายท่อส่งก๊าซฯ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท เน้นสายเหนือ-อีสาน ส่วนลงใต้เบรกไว้ก่อน ขณะเดียวกัน เตรียมส่งหนังสือขอความร่วมมือเอกชนชะลอการส่งออกเอทานอลชั่วคราว หวั่นปริมาณไม่พอใช้
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินการขยายบริการและส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (เอ็นจีวี) ว่า วันที่ 24 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อหารือรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการชดเชยราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หลังมีมติให้ตรึงราคาเอ็นจีวีที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัมออกไปอีก 1 ปี ทำให้ ปตท.ต้องรับภาระขายขาดทุนอยู่ประมาณ 4-6 บาทต่อกิโลกรัม โดยเบื้องต้นจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชยให้กับ ตท. 300 ล้านบาทต่อเดือน แต่อัตราชดเชยจะเป็นเท่าใด จะมากกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัมหรือไม่นั้นจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป
“การประชุม กพช.จันทร์นี้ จะมีการพิจารณาราคาเอ็นจีวีและการจ่ายเงินชดเชยให้กับปตท.เพื่อเร่งให้ ปตท.ขยายการลงทุนสร้างท่อส่งก๊าซเอ็นจีวีและขยายปั๊มเอ็นจีวีให้เพิ่มมากขึ้น โดยจะให้อำนาจคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้ดูแล เพื่อจะได้ดำเนินการได้รวดเร็วและทันสถานการณ์”นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ จะได้เร่งรัดให้ ปตท.ลงทุนขยายท่อส่งก๊าซเอ็นจีวีอีก 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการลงทุนขยายท่อส่งก๊าซเอ็นจีวีสายเหนือและอีสาน คือ จากอยุธยาถึงนครสวรรค์ ระยะทาง 200 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท และจากแก่งคอยถึงนครราชสีมาระยะทาง 150 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนการลงทุนขยายท่อส่งก๊าซฯ สายใต้ที่จะขยายไปประจวบคีรีขันธ์นั้นยกเลิกไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าการใช้รถบรรทุกขนส่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า โดยจะนำก๊าซฯจากโรงไฟฟ้าจะนะและขนอมมาแทน
ปัจจุบันสถานีบริการเอ็นจีวีมีอยู่ 337 แห่ง คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 404 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะมีอยู่ 400 แห่ง โดยยอดขายก๊าซเอ็นจีวีล่าสุดอยู่ที่ 3.6 พันตันต่อวัน คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายก๊าซเอ็นจีวีจะเพิ่มเป็น 4.6 พันตันต่อวัน ส่วนมาตรการช่วยเหลือรถแท็กซี่เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวีนั้น กระทรวงพลังงานยังมั่นใจว่าจะได้ตามแผน เพราะล่าสุดยอดการติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 100 คัน จากช่วงต้นปีที่มียอดติดตั้งเพียงวันละ 30 คัน
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงสมาคมผู้ผลิตเอทานอลขอความร่วมมือให้บริษัท เอกรัฐพัฒนา จำกัด ที่ผลิตเพื่อการส่งออกกำลังการผลิต 2 แสนตัน ชะลอการส่งออกเอทานอลไปจนถึงไตรมาส 4 เพื่อช่วงแก้ปัญหาเอทานอลขาดแคลน อีกทั้ง ขณะนี้โรงงานผลิตเอทานอล 3 โรงได้ปรับระบบการผลิตให้สามารถใช้วัตถุดิบในการผลิตเอทานอลทั้งจากกากน้ำตาลและแป้งมันสำปะหลังแล้ว และจะเข้าร่วมประมูลซื้อแป้งมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 2.8 แสนตันด้วย
สำหรับโรงงานผลิตเอทานอลทั้ง 3 แห่งที่จะเข้าร่วมประมูลซื้อแป้งมันสำปะหลัง ได้แก่ บริษัท เพโทรเรีน จำกัด กำลังผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน บริษัท ขอนแก่นแอลกอฮอล์ จำกัด กำลังผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน และบริษัท ไทยแอลกอฮอล์ กำลังผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน กำลังการผลิตรวม 5.5 แสนลิตรต่อวัน โดยผู้ผลิตทั้ง 3 รายนี้จะเสนอประมูลราคาแป้งมันสำปะหลังจากกระทรวงพาณิชย์ในวันจันทร์นี้
นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังที่จะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตในปีนี้อีก 3 โรง กำลังการผลิตรวม 6.4 แสนลิตรต่อวัน ได้แก่ บริษัท พี.เอส.ซี.สตาร์ช โปรดักส์ กำลังผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน บริษัท ไท่ผิง เอทานอล จำกัด กำลังผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน และบริษัท ที.พี.เค.เอทานอล จำกัด เฟส1 กำลังผลิต 3.4 แสนลิตรต่อวัน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาเอทานอลขาดแคลนเหมือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการใช้เอทานอลที่อยู่ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินการขยายบริการและส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (เอ็นจีวี) ว่า วันที่ 24 ส.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อหารือรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการชดเชยราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวีให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หลังมีมติให้ตรึงราคาเอ็นจีวีที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัมออกไปอีก 1 ปี ทำให้ ปตท.ต้องรับภาระขายขาดทุนอยู่ประมาณ 4-6 บาทต่อกิโลกรัม โดยเบื้องต้นจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจ่ายชดเชยให้กับ ตท. 300 ล้านบาทต่อเดือน แต่อัตราชดเชยจะเป็นเท่าใด จะมากกว่า 2 บาทต่อกิโลกรัมหรือไม่นั้นจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป
“การประชุม กพช.จันทร์นี้ จะมีการพิจารณาราคาเอ็นจีวีและการจ่ายเงินชดเชยให้กับปตท.เพื่อเร่งให้ ปตท.ขยายการลงทุนสร้างท่อส่งก๊าซเอ็นจีวีและขยายปั๊มเอ็นจีวีให้เพิ่มมากขึ้น โดยจะให้อำนาจคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เป็นผู้ดูแล เพื่อจะได้ดำเนินการได้รวดเร็วและทันสถานการณ์”นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ จะได้เร่งรัดให้ ปตท.ลงทุนขยายท่อส่งก๊าซเอ็นจีวีอีก 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการลงทุนขยายท่อส่งก๊าซเอ็นจีวีสายเหนือและอีสาน คือ จากอยุธยาถึงนครสวรรค์ ระยะทาง 200 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท และจากแก่งคอยถึงนครราชสีมาระยะทาง 150 กิโลเมตร มูลค่าลงทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนการลงทุนขยายท่อส่งก๊าซฯ สายใต้ที่จะขยายไปประจวบคีรีขันธ์นั้นยกเลิกไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าการใช้รถบรรทุกขนส่งมีต้นทุนที่ถูกกว่า โดยจะนำก๊าซฯจากโรงไฟฟ้าจะนะและขนอมมาแทน
ปัจจุบันสถานีบริการเอ็นจีวีมีอยู่ 337 แห่ง คาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 404 แห่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งเป้าว่าจะมีอยู่ 400 แห่ง โดยยอดขายก๊าซเอ็นจีวีล่าสุดอยู่ที่ 3.6 พันตันต่อวัน คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายก๊าซเอ็นจีวีจะเพิ่มเป็น 4.6 พันตันต่อวัน ส่วนมาตรการช่วยเหลือรถแท็กซี่เปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวีนั้น กระทรวงพลังงานยังมั่นใจว่าจะได้ตามแผน เพราะล่าสุดยอดการติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 100 คัน จากช่วงต้นปีที่มียอดติดตั้งเพียงวันละ 30 คัน
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงสมาคมผู้ผลิตเอทานอลขอความร่วมมือให้บริษัท เอกรัฐพัฒนา จำกัด ที่ผลิตเพื่อการส่งออกกำลังการผลิต 2 แสนตัน ชะลอการส่งออกเอทานอลไปจนถึงไตรมาส 4 เพื่อช่วงแก้ปัญหาเอทานอลขาดแคลน อีกทั้ง ขณะนี้โรงงานผลิตเอทานอล 3 โรงได้ปรับระบบการผลิตให้สามารถใช้วัตถุดิบในการผลิตเอทานอลทั้งจากกากน้ำตาลและแป้งมันสำปะหลังแล้ว และจะเข้าร่วมประมูลซื้อแป้งมันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 2.8 แสนตันด้วย
สำหรับโรงงานผลิตเอทานอลทั้ง 3 แห่งที่จะเข้าร่วมประมูลซื้อแป้งมันสำปะหลัง ได้แก่ บริษัท เพโทรเรีน จำกัด กำลังผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน บริษัท ขอนแก่นแอลกอฮอล์ จำกัด กำลังผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน และบริษัท ไทยแอลกอฮอล์ กำลังผลิต 2 แสนลิตรต่อวัน กำลังการผลิตรวม 5.5 แสนลิตรต่อวัน โดยผู้ผลิตทั้ง 3 รายนี้จะเสนอประมูลราคาแป้งมันสำปะหลังจากกระทรวงพาณิชย์ในวันจันทร์นี้
นอกจากนี้ ยังมีโรงงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังที่จะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตในปีนี้อีก 3 โรง กำลังการผลิตรวม 6.4 แสนลิตรต่อวัน ได้แก่ บริษัท พี.เอส.ซี.สตาร์ช โปรดักส์ กำลังผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน บริษัท ไท่ผิง เอทานอล จำกัด กำลังผลิต 1.5 แสนลิตรต่อวัน และบริษัท ที.พี.เค.เอทานอล จำกัด เฟส1 กำลังผลิต 3.4 แสนลิตรต่อวัน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาเอทานอลขาดแคลนเหมือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปริมาณความต้องการใช้เอทานอลที่อยู่ 1.2 ล้านลิตรต่อวัน
