เงินลงทุนทะลักอีสานอีกกว่าหมื่นล.กระจุกตัวที่โคราช

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บีโอไอเผยเม็ดเงินลงทุนจ่อทะลักภาคอีสานอีกกว่า 1.52 หมื่นล้าน หลังแห่ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนรวม 61 โครงการทะลุ 2 หมื่นล้าน 7 เดือนแรกของปีอนุมัติส่งเสริมลงทุนแล้ว 36 โครงการ รวม 6,024 ล้าน ส่วนใหญ่ตั้งอยู่โคราชเมืองประตูสู่อีสาน ล่าสุดเดือน ก.ค.ไฟเขียวผุดรง.ไฟฟ้า Bio-massร่วม 500 ล้านที่อุดรฯ

นายสุวิชช์ ฉั่ววิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (จ.นครราชสีมา) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนภาคอีสานล่าสุดว่า สถิติการลงทุนในช่วง 7 เดือน (มกราคม-กรกฎาคม 2552)มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 61 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 21,278 ล้านบาท การจ้างงานกว่า 7,500 คน ในจำนวนนี้มีโครงการได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนแล้วรวม 36 โครงการ เงินลงทุน 6,024 ล้านบาท การจ้างงาน 5,762 คน จึงยังมีโครงการอยู่ในระหว่างรอพิจารณาอีก 25 โครงการ เงินลงทุน 15,254 ล้านบาท การจ้างงาน 1,668 คน โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ประตูสู่อีสาน

เดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา มีโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนรวม 4 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 605 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 145 คน ได้แก่ โครงการเลี้ยงสัตว์(ไก่เนื้อ) โครงการชุดหุ้มเบาะรถยนต์ โครงการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานพาหนะ โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก Bio Mass ทั้งหมดตั้งอยู่ใน จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุดรธานี และเลย

ทั้งนี้ 2 ใน 4 โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (จ.นครราชสีมา) ประกอบด้วย 1.โครงการเลี้ยงสัตว์(ไก่เนื้อ) ของบริษัท นครรัฐ ฟาร์ม จำกัด มีกำลังการผลิตไก่เนื้อ ปีละประมาณ 2,100,000 ตัว/ปี เงินลงทุน 75 ล้านบาท ที่ตั้ง จ.บุรีรัมย์

2.โครงการผลิตชุดหุ้มเบาะรถยนต์ ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค คอมโพเน้นท์ส จำกัด มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 130,000 ชุด/ปี เงินลงทุน 15.5 ล้านบาท ร่วมหุ้น (ไทยและอเมริกา) ที่ตั้ง จ.นครราชสีมา

ส่วนอีก 2 โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 (จ.ขอนแก่น) ได้แก่ 1.โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก Bio-mass ของบริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 9,000 กิโลวัตต์ /ปี เงินลงทุน 490 ล้านบาท หุ้นไทยทั้งสิ้น ที่ตั้ง จ.อุดรธานี และ 2.โครงการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานพาหนะ ในนาม นางสาวนันทิกา จิระเวคิน สามารถการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานพาหนะปีละประมาณ 12,870 ตัน/ปี เงินลงทุน 24 ล้านบาท ที่ตั้ง จ. เลย