ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ภาวะลงทุนไตรมาสแรกอีสานไม่เลวร้าย ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ 36 โครงการ ร่วม 7 พันล้าน อนุมัติแล้ว 21โครงการรวมมูลค่าลงทุนกว่า 3.4 พันล้าน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วกว่าเท่าตัว เผยเกษตร-พลังงานทดแทนเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นแรงต่อเนื่อง แห่ผุดโรงงาน “Bio mass” พุ่ง 1,800 ล้านยึดแท่นอันดับ 1 สัดส่วนนักธุรกิจไทยลงทุนสูงสุดและต่างชาติยังเชื่อมั่น ชี้อีสานสวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลกผุดเขตอุตสาหกรรมแห่งใหม่ ขยายพื้นที่รองรับการลงทุนกว่า 500 ไร่ คาดเม็ดเงินลงทุนตลอดทั้งปีสูงกว่าปีที่ผ่านมา
นายสุวิชช์ ฉั่ววิเชียร ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (จ.นครราชสีมา) คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงภาวะการส่งเสริมการลงทุนภาคอีสานไตรมาสแรกของปี 2552 (มกราคม-มีนาคม ) ว่า มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 36 โครงการ รวมเงินลงทุน 6,864 ล้านบาท การจ้างงานกว่า 6,000 คน
สำหรับโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 21 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 3,481 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 4,732 คน และ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการรอพิจารณาอีก 15 โครงการ เงินลงทุน 3,383 ล้านบาท การจ้างงาน 1,219 คน โครงการลงทุนส่วนใหญ่ เป็น อุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป ได้แก่ กิจการเลี้ยงสัตว์ (ไก่เนื้อ ไข่ไก่) กิจการผลิตสิ่งปรุงแต่งอาหาร กิจการคัดคุณภาพข้าว อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค ได้แก่ กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล กิจการเขตอุตสาหกรรม กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง
ทั้งนี้ เป็นการลงทุนโดยคนไทยทั้งสิ้น 13 โครงการ ร่วมหุ้นระหว่างไทยกับต่างชาติ ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน อิตาลี ฝรั่งเศส สวีเดน และเยอรมนี จำนวน 7 โครงการ ลงทุนโดยต่างชาติทั้งสิ้น 1 โครงการ ได้แก่ ประเทศเดนมาร์ก และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกปี 2551 พบว่า มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว แต่จำนวนโครงการลงทุนเท่ากัน คือ ไตรมาสแรกปี 2551 ภาคอีสานได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจำนวน 21 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 1,771 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกปีนี้ ได้รับส่งเสริมจำนวน 21 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนเพิ่มเป็น 3,481 ล้านบาท
นายสุวิชช์กล่าวต่อว่า โดยภาพรวมแล้วการลงทุนภาคอีสาน 3 เดือนแรกปีนี้ อุตสาหกรรมอันดับ 1 ยังอยู่ที่อุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสูงสุด ส่วนพลังงานทดแทนพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล (Bio mass) ยังเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นของภูมิภาคนี้ ได้อนุมัติส่งเสริมลงทุนรวมกว่า 1,800 ล้านบาท
แยกเป็นประเภทอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตผลทางการเกษตร ได้รับส่งเสริมการลงทุนรวม 8 โครงการ เงินลงทุน 574 ล้านบาท การจ้างงาน 343 คน ได้แก่ กิจการผลิตสิ่งปรุงแต่งอาหาร 2 โครงการ กิจการเลี้ยงสัตว์ (ไก่เนื้อ ไข่ไก่) กิจการผลิตอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน กิจการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ กิจการบรรจุผักและผลไม้ กิจการคัดคุณภาพข้าว โดยโครงการทั้งหมดตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา อุบลราชธานี ขอนแก่น สกลนคร นครพนม และหนองคาย
รองลงมา เป็นอุตฯ บริการและสาธารณูปโภค ได้รับส่งเสริมลงทุนรวม 6 โครงการ เงินลงทุน 2,114 ล้านบาท การจ้างงาน 251 คน ได้แก่ กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล (Bio mass) 4 โครงการ เงินลงทุนรวม 1,806 ล้านบาท กำลังการผลิตรวม 38,400 กิโลวัตต์ ได้แก่ บริษัท บัวสมหมายไบโอแมส จำกัด 3 โครงการ ตั้งอยู่ จ.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด และ บริษัท ภูเขียว ไบโอ - เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ตั้งอยู่ จ.ชัยภูมิ กิจการเขตอุตสาหกรรม บริษัท ชัยโกมลธุรกิจ จำกัด จ.ขอนแก่น บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ และ กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง โดยโครงการทั้งหมดตั้งอยู่ใน จ.ชัยภูมิ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ขอนแก่น และร้อยเอ็ด
อุตสาหกรรมเบา รวม 3 โครงการ เงินลงทุน 573 ล้านบาท การจ้างงาน 3,902 คน ได้แก่ กิจการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป 2 โครงการ กิจการผลิตกระเป๋าหรือชิ้นส่วน โครงการตั้งอยู่ใน จ.นครราชสีมา ขอนแก่น และหนองบัวลำภู อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 2 โครงการ เงินลงทุน 40 ล้านบาท การจ้างงาน 97 คน ได้แก่ กิจการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และ กิจการผลิตซอฟต์แวร์ โดยโครงการตั้งอยู่ที่ จ.อุดรธานี
อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ กระดาษ พลาสติก 1 โครงการ เงินลงทุน 98 ล้านบาท การจ้างงาน 120 คน คือ กิจการผลิตกระสอบพลาสติกสาน ตั้งอยู่ จ.นครราชสีมา และ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง 1 โครงการ เงินลงทุน 82.4 ล้านบาท การจ้างงาน 19 คน คือ กิจการผลิตระบบเบรกรถยนต์ โดย ตั้งอยู่ จ.นครราชสีมา
“มีนาคมล่าสุด ถือว่าเป็นเดือนที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนมากสุดของไตรมาสนี้ รวมถึง 11 โครงการ เงินลงทุน 2,986 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 2,522 คน และเป็นมูลค่าลงทุนสูงกว่าเดือนเดียวกันของปี 2551 ที่มีมูลค่าการลงทุนเพียง 409 ล้านบาทเท่านั้น” นายสุวิชช์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการลงทุนไตรมาสแรกดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่อีสานตอนล่าง 8 จังหวัด ในเขตรับผิดชอบของศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (จ.นครราชสีมา) ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี รวมจำนวน 10 โครงการ เงินลงทุน 1,884 ล้านบาท การจ้างงาน 1,962 คน และ ที่เหลืออยู่ในพื้นที่อีสานตอนบน 11 จังหวัด เขตรับผิดชอบของศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 3 (จ.ขอนแก่น) รวม 11 โครงการ เงินลงทุน 1,586 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 2,770 คน
นายสุวิชช์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนภาคอีสานในปี 2552 อุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป ยังจะคงเป็นโครงการที่นักลงทุนทั้งไทยต่างประเทศให้ความสนใจมากเป็นพิเศษและ มีการลงทุนมากที่สุดของภาคอีสาน เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน โดยเฉพาะกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล (Bio mass) ซึ่งไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับส่งเสริมการลงทุนสูงเป็นอันดับ1 มูลค่าลงทุน 1,800 ล้านบาท เนื่องจากภาคอีสานเป็นแหล่งผลิตของอุตสาหกรรมเกษตร ฯ มีวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตรเป็นจำนวนมาก ประกอบกับความต้องการใช้พลังงานในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้จะมีแหล่งผลิตพลังงานใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และกระจายสู่หลายจังหวัดในภาคอีสาน
“คาดว่าสิ้นปีจะมีเม็ดเงินจากการลงทุนตลอดทั้งปีสูงขึ้นกว่าปี 2551” นายสุวิชช์ กล่าว
