ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์เกียรตินาคินมั่นใจทั้งปีสินเชื่อของธนาคารโต 5% ตามที่ตั้งเป้าไว้ โดย 7 เดือน โตแล้ว 3% พร้อมคุมเอ็นพีแอลทั้งปีให้อยู่ที่ 6% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% ใช้วิธีปรับโครงสร้างหนี้และเจรจาให้ลูกหนี้ทยอยขายทรัพย์เพื่อนำเงินมาชำระหนี้กับธนาคาร
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK) เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมาสินเชื่อปล่อยใหม่ของธนาคารการเติบโตประมาณ 3% โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารจะเน้นขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเพื่อให้การปล่อยสินเชื่อทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 5% โดยพอร์ตสินเชื่อสุทธิของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 82,000 ล้านบาท แบ่งเป็นพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1,000 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อโครงการ 15,000 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ 57,000 ล้านบาท
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถควบคุมระดับเอ็นพีแอลทั้งปีไว้ไม่ให้เกิน 6% โดยธนาคารจะใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งการเจรจาให้ลูกหนี้ทยอยขายทรัพย์บางส่วนออกไปเพื่อนำเงินที่ได้มาชำระหนี้บางส่วนกับทางธนาคาร
นายธวัชชัยกล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมานั้น ดอกเบี้ยระยะยาวเริ่มมีการขยับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5-1% และเชื่อว่าในระยะต่อไปอัตราดอกเบี้ยระยะกลางและระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีการแข่งขันเพื่อระดมเงินฝากมากขึ้น เพื่อใช้รองรับความต้องการของรัฐบาลที่เตรียมขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ รวมทั้งความต้องการเงินกู้จากผู้ประกอบการที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หลังภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณกลับมาฟื้นตัว
ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(บตท.)ออกแคมเปญสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยคงที่ 4 รูปแบบ คือ คงที่ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.99% คงที่ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.99% คงที่ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.59% และคงที่ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.09% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR -0.5% สำหรับระยะเวลากู้ไม่เกิน 30 ปี และอายุผู้กู้กับระยะเวลากู้ไม่เกิน 70 ปี โดยกำหนดวงเงินกู้ขั้นต่ำรายละ 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
โดยธนาคารจะเป็นผู้ปล่อยกู้ตามเกณฑ์การให้สินเชื่อ ซึ่งในเบื้องต้น บตท. จะรับซื้อสินเชื่อดังกล่าวจากธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนที่กำลังมองหาสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้มีทางเลือกใหม่ในการวางแผนทางการเงิน รวมทั้งช่วยลดภาระความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยได้ ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าในช่วง 6 เดือนแรกของแคมเปญดังกล่าวจะสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ประมาณ 100 ล้านบาท ของวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารลงนาม กับ บตท.
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK) เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมาสินเชื่อปล่อยใหม่ของธนาคารการเติบโตประมาณ 3% โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ธนาคารจะเน้นขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเพื่อให้การปล่อยสินเชื่อทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 5% โดยพอร์ตสินเชื่อสุทธิของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 82,000 ล้านบาท แบ่งเป็นพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัย 1,000 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อโครงการ 15,000 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ 57,000 ล้านบาท
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถควบคุมระดับเอ็นพีแอลทั้งปีไว้ไม่ให้เกิน 6% โดยธนาคารจะใช้วิธีการปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งการเจรจาให้ลูกหนี้ทยอยขายทรัพย์บางส่วนออกไปเพื่อนำเงินที่ได้มาชำระหนี้บางส่วนกับทางธนาคาร
นายธวัชชัยกล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมานั้น ดอกเบี้ยระยะยาวเริ่มมีการขยับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5-1% และเชื่อว่าในระยะต่อไปอัตราดอกเบี้ยระยะกลางและระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งมีการแข่งขันเพื่อระดมเงินฝากมากขึ้น เพื่อใช้รองรับความต้องการของรัฐบาลที่เตรียมขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์เพื่อใช้ในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ รวมทั้งความต้องการเงินกู้จากผู้ประกอบการที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หลังภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณกลับมาฟื้นตัว
ล่าสุด ธนาคารได้ร่วมมือกับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย(บตท.)ออกแคมเปญสินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยคงที่ 4 รูปแบบ คือ คงที่ 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.99% คงที่ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.99% คงที่ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.59% และคงที่ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.09% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR -0.5% สำหรับระยะเวลากู้ไม่เกิน 30 ปี และอายุผู้กู้กับระยะเวลากู้ไม่เกิน 70 ปี โดยกำหนดวงเงินกู้ขั้นต่ำรายละ 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
โดยธนาคารจะเป็นผู้ปล่อยกู้ตามเกณฑ์การให้สินเชื่อ ซึ่งในเบื้องต้น บตท. จะรับซื้อสินเชื่อดังกล่าวจากธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนที่กำลังมองหาสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้มีทางเลือกใหม่ในการวางแผนทางการเงิน รวมทั้งช่วยลดภาระความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยได้ ทั้งนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายว่าในช่วง 6 เดือนแรกของแคมเปญดังกล่าวจะสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ประมาณ 100 ล้านบาท ของวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารลงนาม กับ บตท.