ธอส.ขยายเวลาดอกเบี้ยสวัสดิการอัตราพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ MRR-2.0 ออกไปจนถึงสิ้นเดือนนี้ พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมจัดการสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายเก่าที่สิ้นสุดโปรโมชันดอกเบี้ยคงที่เลือกใช้อัตราพิเศษนี้แทน ระบุอนาคตหากดอกเบี้ยปรับตัวลดลงลูกค้ามีแต่ได้กับได้ ไม่หวั่น 4 เดือนแรกสินเชื่อพลาดเป้าเหตุคอร์แบงกิ้งทำสะดุด แต่เชื่อครึ่งปีหลังยอดสินเชื่อวิ่งฉิวเข้าเป้าแน่นอน
นางจามรี เศวตจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายระยะเวลาจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าสวัสดิการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรเอกชนอื่นๆ ที่มีสัญญาเงินกู้สวัสดิการสำหรับพนักงานกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยพิเศษดังกล่าวธนาคารจะคิดกับลูกค้าเงินกู้รายย่อยทั่วไป (MRR) -2.0 โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธอส.อยู่ที่ 7.50% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติจะอยู่ที่ 5.50%
สำหรับลูกค้ารายเดิมที่ได้รับสินเชื่อกับธอส.ในอัตราดอกเบี้ยคงที่รูปแบบต่างๆ ที่จะหมดระยะเวลาดอกเบี้ยคงที่หากต้องการเปลี่ยนมาใช้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ MRR – 2.0 กับโครงการสินเชื่อสวัสดิการธนาคารจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอัตราดอกเบี้ยจากคงที่มาเป็นลอยตัวพิเศษเนื่องจากการแข่งขันรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านนั้นสูงมากธอส.จึงต้องงัดกลยุทธ์ยกเว้นค้าธรรมเนียมมาใช้เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการสินเชื่อของธนาคารต่อไป
“อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ธอส.ให้กับลูกค้าสวัสดิการนี้จะสามารถยื่นขอได้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม เพราะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาธนาคารได้เปิดกว้าให้สำหรับลูกค้าทั่วไปขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้แล้ว โดยลูกค้าที่ขอสินเชื่อสวัสดิการมีอัตราความเสี่ยงค่อนข้างน้อยกว่าลูกค้าทั่วไปเพราะธนาคารสามารถหักเงินค่างวดจากต้นสังกัดได้เลยจึงได้ขยายเวลาการยื่นกู้ในแคมเปญใหม่ออกไปให้ลูกค้ากลุ่มนี้ออกไปอีก 1 เดือน” นางจามรีกล่าว
นางจามรีกล่าวว่า สำหรับยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้นัก โดยในเดือนมกราคมสามารถอนุมัติสินเชื่อได้เพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้นและยอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมายอดปล่อยสินเชื่อขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7 พันล้านบาทถือว่าเป็นที่น่าพอใจและอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายสินเชื่อต่อเดือน
ทั้งนี้ ธอส.น่าจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ได้เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ และยังมีโครงการพิเศษต่างๆ ทั้งโครงการสินเชื่อสำนักงานประกันสังคม และโครงการสินเชื่อธอส.-กบข.รุ่นที่ 5 เข้ามาเสริม การปล่อยสินเชื่อในปีนี้จึงน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
“จะเห็นว่าในเดือนมกราคมเราปล่อยสินเชื่อได้น้อยเพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ธอส.เพิ่งปรับเปลี่ยนระบบคอร์แบงกิ้งของธนาคารใหม่ทำให้ระบบงานยังไม่เข้าที่มากนักและได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนแก้ไขมาจนสามารถใช้งานได้ตามปกติในปัจจุบัน ส่วนยอดสินเชื่อที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้นนอกจากได้รับผลกระทบจากระบบคอร์แบงกิ้งแล้วยังถือเป็นเรื่องปกติของการปล่อยสินเชื่อที่จะมียอดเข้ามามากในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายจึงไม่ค่อยหนักใจกับเป้าสิ้นเชื่อมากนัก” นางจามรีกล่าว
นางจามรี เศวตจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายระยะเวลาจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าสวัสดิการของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรเอกชนอื่นๆ ที่มีสัญญาเงินกู้สวัสดิการสำหรับพนักงานกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยพิเศษดังกล่าวธนาคารจะคิดกับลูกค้าเงินกู้รายย่อยทั่วไป (MRR) -2.0 โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธอส.อยู่ที่ 7.50% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของลูกค้าที่ได้รับอนุมัติจะอยู่ที่ 5.50%
สำหรับลูกค้ารายเดิมที่ได้รับสินเชื่อกับธอส.ในอัตราดอกเบี้ยคงที่รูปแบบต่างๆ ที่จะหมดระยะเวลาดอกเบี้ยคงที่หากต้องการเปลี่ยนมาใช้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ MRR – 2.0 กับโครงการสินเชื่อสวัสดิการธนาคารจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอัตราดอกเบี้ยจากคงที่มาเป็นลอยตัวพิเศษเนื่องจากการแข่งขันรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านนั้นสูงมากธอส.จึงต้องงัดกลยุทธ์ยกเว้นค้าธรรมเนียมมาใช้เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการสินเชื่อของธนาคารต่อไป
“อัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ธอส.ให้กับลูกค้าสวัสดิการนี้จะสามารถยื่นขอได้จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม เพราะเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาธนาคารได้เปิดกว้าให้สำหรับลูกค้าทั่วไปขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้แล้ว โดยลูกค้าที่ขอสินเชื่อสวัสดิการมีอัตราความเสี่ยงค่อนข้างน้อยกว่าลูกค้าทั่วไปเพราะธนาคารสามารถหักเงินค่างวดจากต้นสังกัดได้เลยจึงได้ขยายเวลาการยื่นกู้ในแคมเปญใหม่ออกไปให้ลูกค้ากลุ่มนี้ออกไปอีก 1 เดือน” นางจามรีกล่าว
นางจามรีกล่าวว่า สำหรับยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้นัก โดยในเดือนมกราคมสามารถอนุมัติสินเชื่อได้เพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้นและยอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมายอดปล่อยสินเชื่อขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7 พันล้านบาทถือว่าเป็นที่น่าพอใจและอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายสินเชื่อต่อเดือน
ทั้งนี้ ธอส.น่าจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ได้เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ และยังมีโครงการพิเศษต่างๆ ทั้งโครงการสินเชื่อสำนักงานประกันสังคม และโครงการสินเชื่อธอส.-กบข.รุ่นที่ 5 เข้ามาเสริม การปล่อยสินเชื่อในปีนี้จึงน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
“จะเห็นว่าในเดือนมกราคมเราปล่อยสินเชื่อได้น้อยเพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่ธอส.เพิ่งปรับเปลี่ยนระบบคอร์แบงกิ้งของธนาคารใหม่ทำให้ระบบงานยังไม่เข้าที่มากนักและได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนแก้ไขมาจนสามารถใช้งานได้ตามปกติในปัจจุบัน ส่วนยอดสินเชื่อที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้นนอกจากได้รับผลกระทบจากระบบคอร์แบงกิ้งแล้วยังถือเป็นเรื่องปกติของการปล่อยสินเชื่อที่จะมียอดเข้ามามากในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายจึงไม่ค่อยหนักใจกับเป้าสิ้นเชื่อมากนัก” นางจามรีกล่าว