ผู้จัดการรายวัน - ธอส.จับมือสปส.ปล่อยสินเชื่อบ้านสมาชิกประกันสังคม ประเดิมวงเงิน 3,000 ล้านบาท คาดสมาชิกจะได้สิทธิประมาณ 5,000 ราย ดอกเบี้ย 4.5% กำหนดรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ระบุปรับเงื่อนไขใหม่ มาก่อนได้สิทธิก่อน ด้านสปส.จีบธอส.เข้าโครงการ 1506 ปล่อยกู้ผู้ประกอบการต่อ
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยภายหลังการลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการบ้านมิตรภาพ สปส.-ธอส. ระหว่าง ธอส.และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการเป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งนี้ได้ปรับเงื่อนไขใหม่ในหลายข้อ ที่เป็นปัญหาและอุปสรรค์ในโครงการแรก เช่น 1.กำหนดผู้ประกันตนต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งจะสามารถกู้สูงสุดได้ไม่เกิน 1.7-1.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้กู้ แต่ไม่เกิน 85% ของราคาประเมิน
2. การได้สิทธิมาก่อนมีสิทธิก่อน จากเดิมสุ่มเลือก (แลนดอม) ซึ่งมีปัญหาผู้ได้สิทธิบางรายไม่ยอมมาทำนิติกรรม ทำให้ผู้ประกันตนรายอื่นไม่สามารถมาใช้สิทธิแทนได้ โดยมีผู้มาเบิกเงินเพียง 2,500 ล้านบาท ประมาณ 3,800 ราย จากวงเงินที่ตั้งไว้ทั้งหมด 3,000 ล้านบาท, 3. ลูกค้าเก่าสามารถปรับโครงสร้างหนี้ (รีไฟแนนท์)ได้ ไม่สามารถกู้ซื้อที่ดินเปล่าได้
สำหรับผู้ประกันตนที่สนใจสามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.5% คงที่ 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR แต่หากบริษัทต้นสังกัดของผู้กู้หักเงินส่งให้คิดอัตราดอกเบี้ย MRR – 1
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในครั้งนี้สปส.จะนำวงเงินมาฝากไว้กับธอส.จำนวน 3,000 ล้านบาท โดยทยอยจ่ายให้ล็อตแรกทันทีหลังเซ็นสัญญา 1,000 ล้านบาท และทยอยจ่ายให้ อีก 1,500 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน หากผู้ประกันตนมาขอใช้สิทธิครบวงเงิน 3,000 ล้านบาท สปส.จะจ่ายให้อีก 500 ล้านบาท หากผู้ประกันตนแสดงความจำนงเกินกว่าวงเงินดังกล่าว สปส.จะพิจารณาเพิ่มวงเงินกู้ให้ในภายหลัง โดยคาดว่าวงเงิน 3,000 ล้านบาทดังกล่าว สามารถปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตนได้ประมาณ 5,000 ราย ขณะที่ทางสปส.จะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากธอส.ประมาณ 3.25% ระยะเวลา 3 ปี
ด้านนายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. กล่าวว่า สาเหตุที่สปส.กำหนดเพดานเงินเดือนของผู้ประกันตนไม่เกิน 30,000 บาท นั้น ซึ่งพิจารณาจากโครงการแรกที่ผู้ใช้สิทธิกว่า 80% มีเงินเดือนไม่เกิน 30,000 บาท ปัจจุบันสปส.มีสมาชิกประกันตนอยู่ประมาณ 9.2 ล้านคน มีวงเงินในปัจจุบันประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งการดำเนินโครงการนี้จะทำให้ผู้ประกันตนสามารถลดภาระค่าครองชีพลงได้ประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน
ส่วนความคืบหน้าโครงการบ้าน 1506 ที่จะปล่อยกู้สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาบ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ประกันตนโดยผ่านธนาคารพาณิชย์นั้น ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 แต่ปรากฏว่าไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ เนื่องจากปัญหาของคุณสมบัติของผู้ประกอการไม่ผ่านเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ โดยมีการปล่อยสินเชื่อไปเพียง 172 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ยังปฏิเสธที่จะรับเงินจากสปส. โดยจะใช้วงเงินของธนาคารเอง อย่างไรก็ตามทาง สปส.จะต้องทบทวนโครงการดังกล่าวอีกครั้งถึงปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ และปรับปรุงแก้ไขเงื่อนไขใหม่ และยังมีแผนที่จะเชิญธอส.เข้าร่วมโครงการด้วย แต่จะต้องคุยเงื่อนไขกันอีกครั้ง
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยภายหลังการลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการบ้านมิตรภาพ สปส.-ธอส. ระหว่าง ธอส.และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการเป็นครั้งที่ 2 โดยในครั้งนี้ได้ปรับเงื่อนไขใหม่ในหลายข้อ ที่เป็นปัญหาและอุปสรรค์ในโครงการแรก เช่น 1.กำหนดผู้ประกันตนต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งจะสามารถกู้สูงสุดได้ไม่เกิน 1.7-1.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้กู้ แต่ไม่เกิน 85% ของราคาประเมิน
2. การได้สิทธิมาก่อนมีสิทธิก่อน จากเดิมสุ่มเลือก (แลนดอม) ซึ่งมีปัญหาผู้ได้สิทธิบางรายไม่ยอมมาทำนิติกรรม ทำให้ผู้ประกันตนรายอื่นไม่สามารถมาใช้สิทธิแทนได้ โดยมีผู้มาเบิกเงินเพียง 2,500 ล้านบาท ประมาณ 3,800 ราย จากวงเงินที่ตั้งไว้ทั้งหมด 3,000 ล้านบาท, 3. ลูกค้าเก่าสามารถปรับโครงสร้างหนี้ (รีไฟแนนท์)ได้ ไม่สามารถกู้ซื้อที่ดินเปล่าได้
สำหรับผู้ประกันตนที่สนใจสามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.5% คงที่ 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR แต่หากบริษัทต้นสังกัดของผู้กู้หักเงินส่งให้คิดอัตราดอกเบี้ย MRR – 1
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในครั้งนี้สปส.จะนำวงเงินมาฝากไว้กับธอส.จำนวน 3,000 ล้านบาท โดยทยอยจ่ายให้ล็อตแรกทันทีหลังเซ็นสัญญา 1,000 ล้านบาท และทยอยจ่ายให้ อีก 1,500 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน หากผู้ประกันตนมาขอใช้สิทธิครบวงเงิน 3,000 ล้านบาท สปส.จะจ่ายให้อีก 500 ล้านบาท หากผู้ประกันตนแสดงความจำนงเกินกว่าวงเงินดังกล่าว สปส.จะพิจารณาเพิ่มวงเงินกู้ให้ในภายหลัง โดยคาดว่าวงเงิน 3,000 ล้านบาทดังกล่าว สามารถปล่อยกู้ให้ผู้ประกันตนได้ประมาณ 5,000 ราย ขณะที่ทางสปส.จะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากจากธอส.ประมาณ 3.25% ระยะเวลา 3 ปี
ด้านนายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. กล่าวว่า สาเหตุที่สปส.กำหนดเพดานเงินเดือนของผู้ประกันตนไม่เกิน 30,000 บาท นั้น ซึ่งพิจารณาจากโครงการแรกที่ผู้ใช้สิทธิกว่า 80% มีเงินเดือนไม่เกิน 30,000 บาท ปัจจุบันสปส.มีสมาชิกประกันตนอยู่ประมาณ 9.2 ล้านคน มีวงเงินในปัจจุบันประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งการดำเนินโครงการนี้จะทำให้ผู้ประกันตนสามารถลดภาระค่าครองชีพลงได้ประมาณ 1,500 บาทต่อเดือน
ส่วนความคืบหน้าโครงการบ้าน 1506 ที่จะปล่อยกู้สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาบ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ประกันตนโดยผ่านธนาคารพาณิชย์นั้น ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 แต่ปรากฏว่าไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ เนื่องจากปัญหาของคุณสมบัติของผู้ประกอการไม่ผ่านเกณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ โดยมีการปล่อยสินเชื่อไปเพียง 172 ล้านบาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ยังปฏิเสธที่จะรับเงินจากสปส. โดยจะใช้วงเงินของธนาคารเอง อย่างไรก็ตามทาง สปส.จะต้องทบทวนโครงการดังกล่าวอีกครั้งถึงปัญหาและอุปสรรค์ต่างๆ และปรับปรุงแก้ไขเงื่อนไขใหม่ และยังมีแผนที่จะเชิญธอส.เข้าร่วมโครงการด้วย แต่จะต้องคุยเงื่อนไขกันอีกครั้ง
