“เอสเอ็มอีแบงก์” ขยายเวลาโครงการฟื้นกิจการลูกหนี้เอ็นพีแอล เพื่อช่วยลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ระบุพร้อมเข้าช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอดและเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารได้อนุมัติขยายระยะเวลาและปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการพลิกฟื้นกิจการลูกหนี้เพิ่มเติมจากปีที่แล้ว เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง อันเกิดจากภาวะราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้น ตลอดจนด้านสภาพแวดล้อมที่เป็นปัจจัยเชิงลบ ทั้งด้านการเมือง การลงทุน ภัยธรรมชาติ เป็นต้น โดยธนาคารดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่มีปัญหาที่มีโอกาสพลิกฟื้นกิจการได้ ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้จะต้องเป็นลูกหนี้ที่มีความตั้งใจจริงในการประกอบธุรกิจ ซึ่งหลังจากเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อใหม่เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือลงทุนในโครงการที่ยังดำเนินไม่แล้วเสร็จ โดยวงเงินกู้ใหม่ จะพิจารณาตามความจำเป็นและความเหมาะสมแต่ละราย
“เงินกู้โครงการพลิกฟื้นกิจการลูกหนี้ จะมีทั้งแบบลงทุนและเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจได้แก่ วงเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Term Loan) คิดอัตราดอกเบี้ย MLR +1 % ต่อปี และวงเงินตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) คิดอัตราดอกเบี้ย MLR+2% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ ธนาคารจะต้องใช้ความพยายามในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ประกอบการพยุงกิจการของตนเองให้ผ่านวิกฤตไปได้ด้วยการบาดเจ็บน้อยที่สุด และหากลูกค้ารายใดที่แสดงอาการทรุดตัว แต่ยังมีใจสู้ มีความต้องการที่จะพลิกฟื้นกิจการของตนเอง เอสเอ็มอี แบงก์ พร้อมจะให้ความช่วยเหลือผ่านโครงการฯดังกล่าว ซึ่งจะเป็นโครงการหนึ่งที่ช่วยผู้ประกอบการ NPL ในด้านเงินทุนให้ฟื้นสภาพกลับมาธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ และลูกค้ารายใดที่เข้าข่ายเมื่อทราบข่าวนี้ และมีความต้องการให้ธนาคารช่วยเหลือสามารถติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ สาขา หรือ สำนักงานใหญ่ ฝ่ายสินเชื่อ โทร 02-265-3000 หรือ Call Center 1357 เพื่อให้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อให้ต่อไป
