xs
xsm
sm
md
lg

ธอส. ลดส่วนต่างดอกเบี้ยช่วยลูกค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - หมอเลี้ยบบีบได้ผล ธอส.กัดฟันขึ้นดอกเบี้ยฝากแต่ไม่ขึ้นดอกเบี้ยกู้ ส่งผลสเปรดลดลงทันที พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวบรวมข้อมูลทบทวนแผนธุรกิจหลังประเมินพบครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการดำเนินงานสูง ระบุบ้านเอื้ออาทรเป็นตัวชี้ขาดฉุดยอดสินเชื่อหลุดเป้า

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. เป็นต้นไป ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และตั๋วสัญญาใช้เงิน เพิ่มขึ้นอีก 0.25 - 1 เปอร์เซ็นต์ โดยเงินฝากประจำ 6 เดือน จากร้อยละ 2.75 เป็นร้อยละ 3 เงินฝากประจำ 12 เดือน จากร้อยละ 3 เป็น 3.5 เงินฝากประจำ 24 เดือน จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 4 เงินฝากประจำ 36 เดือน จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 4.25 และเงินฝากประจำ 60 เดือน จากร้อยละ 3.75 เป็นร้อยละ 4.5 ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธอส.ยังคงอัตราดอกเบี้ย MRR ที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี ต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าต้องการเห็นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (สเปรด) ธนาคารลดลง โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาล

นายขรรค์เปิดเผยว่า การดำเนินงานของธอส.ในช่วงครึ่งปีหลังจะต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับปัจจัยลบที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานมากขึ้นทั้งปัญหาเรื่องเงินเฟ้อที่หลายฝ่ายวิตกกังวลอันมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนทั่วไปรวมถึงลูกค้าของธนาคารที่มีภาระผ่อนส่งค่างวดกับธนาคาร เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อได้เริ่มส่งผลต่อความสามารถในการชำระเงินของลูกค้าในบางส่วนและธนาคารก็ได้เตรียมมาตรการเพื่อรองรับมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว โดยนอกจากปัญหานี้แล้วยังมีเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันที่ทำให้ลูกค้าของธนาคารเริ่มมีความกังวลว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้

สั่งรวมข้อมูลทบทวนแผนครึ่งปีหลัง

รายงานข่าวข่าวจาก ธอส.ระบุว่า ขณะนี้คณะกรรมการธนาคารรวมทั้งผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละฝ่ายรวบรวมข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาทบทวนแผนการดำเนินงานของธนาคารในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัญหาเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาน้ำมันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อประชาชนที่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มสูงขึ้นในขณะที่รายได้ของประชาชนกลับไม่เพิ่มขึ้นตาม

โดยธนาคารได้พยายามหามาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือกลูกค้าทั้งการผ่อนปรนการจ่ายค่างวดน้อยลง พักการชำระดอกเบี้ยชั่วคราวและมาตรการต่างๆ ที่ออกมาในช่วงก่อนหน้านี้เพื่อลดผลกระทบต่อลูกค้าของธนาคาร เพราะหากลูกค้าสามารถผ่อนชำระค่างวดกับธนาคารอยู่ในสถานะปกติแล้วก็จะลดผลกระทบต่อภาพรวมในการดำเนินงานของธนาคารได้ในระดับหนึ่ง

“ลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือกลุ่มลูกค้าที่กำลังสิ้นสุดระยะเวลาการจ่ายดอกเบี้ยคงที่ (Fix Rate) และเข้าสู่การผ่อนชำระค่างวดแบบดอกเบี้ยลอยตัว( Float Rate) ธนาคารจึงพยายามหามาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเฉพาะกลุ่มโดยเฉพาะลูกค้าสวัสดิการที่ธนาคารจัดแคมเปญพิเศษให้สามารถกลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่(Re-fix) ได้ในอัตราพิเศษอีกครั้งเนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีความเสี่ยงในการผ่อนชำระค่างวดต่ำกว่ากลุ่มอื่น” รายงานข่าวระบุ

สำหรับเป้าหมายการขยายสินเชื่อของธนาคารในปีนี้จากต้นปีที่ตั้งไว้จำนวน 9.5 หมื่นล้านบาทอาจมีการทบทวนปรับลดเป้าลงบ้างภายหลังการรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ภายในธนาคารเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้นแล้วอาจมีการปรับลดลงในส่วนของสินเชื่อโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่การเคหะแห่งชาติ(กคช.) เป็นผู้ส่งมาให้ธนาคาร จากเป้าหมายเดิมที่จะส่งมาประมาณ 2 หมื่นราย อาจปรับลดลงเหลือเพียง 1 หมื่นรายเท่านั้นโดยยอดสินเชื่อรวมประมาณ 1 พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น