ธอส.เห็นใจลูกค้ายุคค่าครองชีพแพง เผยพร้อมเจรจาผ่อนปรนการจ่ายค่างวดสำหรับลูกค้าที่มีปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง “ขรรค์ ประจวบเหมาะ” ระบุงัดทุกมาตรการทั้งพักดอกเบี้ย ยืดเวลาชำระค่างวด ยินดีเปิดรับลูกค้าทุกรายที่มีปัญหาเข้ามาเจรจา โดยเฉพาะช่วงเปิดเทอมที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของลูกค้าโดยตรง
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้เตรียมมาตรการสำหรับช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาด้านการเงินในช่วงภาวะค่าครองชีพสูงในปัจจุบัน ซึ่งหากลูกค้ารายใดเริ่มประสบปัญหาทางด้านการเงินธอส.ยินดีให้คำปรึกษา โดยให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อ ที่สาขาของธนาคาร เพื่อเจรจาแก้ปัญหาที่ลูกค้าได้รับ
นอกจากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบันนี้แล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงเปิดภาคการศึกษาซึ่งลูกค้าที่มีบุตร ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นมากกว่าลูกค้าทั่วไป และปัญหาของลูกค้าแต่ละรายจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นธนาคารจึงได้มอบนโยบายให้แต่ละสาขาเจรจากับลูกค้าเป็นรายๆ ไปไม่สามารถใช้มาตรการเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าแต่ละรายได้
“ปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อลูกค้าของธนาคารบ้างแล้ว ทั้งค่าน้ำมันที่ยังไม่มีวี่แววจะลดลง ค่าสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วเดือนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น ธอส.ต้องการช่วยลูกค้าหาทางออกในเรื่องดังกล่าวโดยหากใครมีปัญหา ในการผ่อนชำระค่างวดก็ให้เข้ามาเจรจาได้ธอส.ยินดีรับฟังและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าทุกราย” นายขรรค์กล่าว
นายขรรค์กล่าวว่า สำหรับแนวทางที่ธอส.จะนำมาแก้ปัญหาให้กับลูกค้านั้น ธอส.จะคำนึงถึงปัญหาของลูกค้าแต่ละราย ที่มีความแตกต่างกันตามสภาพพื้นฐานของแต่ละครอบครัว ซึ่งอาจมีทั้งการพักชำระดอกเบี้ยให้ชั่วคราวการยืดเวลาการชำระหนี้ออกไป การลดเงินค่างวดในการผ่อนชำระให้น้อยลงกว่างวดปกติ จนกว่าลูกค้าจะมีความสามารถในการชำระเงินกลับมาเป็นปกติ
โดยเท่าที่ธอส.ประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้นแล้วยังไม่พบว่าปัญหาค่าครองชีพนี้ส่งผลกระทบต่อธนาคารในภาพกว้างแต่อย่างใด แต่ธอส.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะทุกปีในช่วงเปิดภาคการศึกษาก็จะมีปัญหาประเภทนี้เกิดขึ้น ซ้ำในปีนี้มีปัญหาค่าครองชีพเข้ามาเพิ่มอีก ธอส.จึงได้เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหานี้ไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้งกับลูกค้าและธอส.เอง
“ลูกค้าต้องรีบมาคุยว่าตอนนี้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพื่อให้ธอส.ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที เพราะยิ่งทิ้งระยะเวลาให้ห่างไปดอกเบี้ยก็จะขยับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อตัวลูกค้าและผลกระทบนั้น ก็จะกลับมาสู่ธนาคารทำให้เกิดเอ็นพีแอลขึ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวธนาคารและลูกค้าจะต้องหาทางป้องกันปัญหานี้โดยเร็ว” นายขรรค์กล่าว
สำหรับยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้นัก โดยในเดือนมกราคมสามารถอนุมัติสินเชื่อได้เพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้นและยอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดปล่อยสินเชื่อขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7 พันล้านบาท ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายสินเชื่อต่อเดือน
ทั้งนี้ ธอส.น่าจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ได้ เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ออกมาจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ และเร็วๆ นี้ลูกค้าทั่วไปจะต้องรอฟังข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ธอส.เสนอให้กับกระทรวงการคลังเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติซึ่งน่าจะมีส่วนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้เตรียมมาตรการสำหรับช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาด้านการเงินในช่วงภาวะค่าครองชีพสูงในปัจจุบัน ซึ่งหากลูกค้ารายใดเริ่มประสบปัญหาทางด้านการเงินธอส.ยินดีให้คำปรึกษา โดยให้ลูกค้าเข้ามาติดต่อ ที่สาขาของธนาคาร เพื่อเจรจาแก้ปัญหาที่ลูกค้าได้รับ
นอกจากปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบันนี้แล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงเปิดภาคการศึกษาซึ่งลูกค้าที่มีบุตร ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาจะได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นมากกว่าลูกค้าทั่วไป และปัญหาของลูกค้าแต่ละรายจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นธนาคารจึงได้มอบนโยบายให้แต่ละสาขาเจรจากับลูกค้าเป็นรายๆ ไปไม่สามารถใช้มาตรการเดียวกันเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าแต่ละรายได้
“ปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อลูกค้าของธนาคารบ้างแล้ว ทั้งค่าน้ำมันที่ยังไม่มีวี่แววจะลดลง ค่าสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วเดือนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น ธอส.ต้องการช่วยลูกค้าหาทางออกในเรื่องดังกล่าวโดยหากใครมีปัญหา ในการผ่อนชำระค่างวดก็ให้เข้ามาเจรจาได้ธอส.ยินดีรับฟังและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าทุกราย” นายขรรค์กล่าว
นายขรรค์กล่าวว่า สำหรับแนวทางที่ธอส.จะนำมาแก้ปัญหาให้กับลูกค้านั้น ธอส.จะคำนึงถึงปัญหาของลูกค้าแต่ละราย ที่มีความแตกต่างกันตามสภาพพื้นฐานของแต่ละครอบครัว ซึ่งอาจมีทั้งการพักชำระดอกเบี้ยให้ชั่วคราวการยืดเวลาการชำระหนี้ออกไป การลดเงินค่างวดในการผ่อนชำระให้น้อยลงกว่างวดปกติ จนกว่าลูกค้าจะมีความสามารถในการชำระเงินกลับมาเป็นปกติ
โดยเท่าที่ธอส.ประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้นแล้วยังไม่พบว่าปัญหาค่าครองชีพนี้ส่งผลกระทบต่อธนาคารในภาพกว้างแต่อย่างใด แต่ธอส.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะทุกปีในช่วงเปิดภาคการศึกษาก็จะมีปัญหาประเภทนี้เกิดขึ้น ซ้ำในปีนี้มีปัญหาค่าครองชีพเข้ามาเพิ่มอีก ธอส.จึงได้เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหานี้ไว้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทั้งกับลูกค้าและธอส.เอง
“ลูกค้าต้องรีบมาคุยว่าตอนนี้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพื่อให้ธอส.ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที เพราะยิ่งทิ้งระยะเวลาให้ห่างไปดอกเบี้ยก็จะขยับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อตัวลูกค้าและผลกระทบนั้น ก็จะกลับมาสู่ธนาคารทำให้เกิดเอ็นพีแอลขึ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวธนาคารและลูกค้าจะต้องหาทางป้องกันปัญหานี้โดยเร็ว” นายขรรค์กล่าว
สำหรับยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้นัก โดยในเดือนมกราคมสามารถอนุมัติสินเชื่อได้เพียง 3 พันล้านบาทเท่านั้นและยอดเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดปล่อยสินเชื่อขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7 พันล้านบาท ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเป้าหมายสินเชื่อต่อเดือน
ทั้งนี้ ธอส.น่าจะปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ได้ เนื่องจากมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ออกมาจะมีส่วนช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ และเร็วๆ นี้ลูกค้าทั่วไปจะต้องรอฟังข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ธอส.เสนอให้กับกระทรวงการคลังเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติซึ่งน่าจะมีส่วนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น