ASTVผู้จัดการรายวัน – ตลาดหลักทรัพย์เดินหน้าขยายฐานนักลงทุนต่างชาติ ล่าสุดตุลาคมนี้เตรียมเปลี่ยนระบบรับส่งข้อมูลคำสั่งซื้อขายหุ้นเป็น Fix Protocal ไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ ชี้เพิ่มความสะดวก และลดต้นทุน ยืนยันจะหารือกับบริษัทสมาชิกก่อน โดยอาจต้องแก้ไขหรือออกเกณฑ์ใหม่เพิ่มเติม ด้านนายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างชาติ แจง แม้ค่าคอมเทรดหุ้นถูกลง แต่เชื่อต่างชาติยังคงส่งผ่านมาร์เกตติ้งควบคู่กัน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้รีบาวน์กลับมา 8 จุด ส่วนภาพรวมยังอยู่ในช่วงขาลง
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเปลี่ยนระบบไอทีในการรับส่งข้อมูลคำสั่งการซื้อขายหลักทรัพย์เป็น (Fix Protocal)ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถส่งคำสั่งซื้อขายระหว่างประเทศได้โดยตรง เพราะระบบดังกล่าวเป็นระบบสากลที่ใช้กันอยู่ในหลายประเทศ อีกทั้งเป็นการรองรับการเชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นต่างประเทศในอนาคต
“เหตุที่เราจะมาใช้ระบบการซื้อขายดังกล่าว เพื่อรองรับคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเข้ามาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯได้โดยตรงในรูปแบบ Direct Market Access หรือ DMA โดยไม่ต้องผ่านระบบของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์ ) ซึ่งปัจจุบัน DMAที่ใช้อยู่นั้นนักลงทุนจะต้องส่งคำสั่งซื้อขายยังคงต้องผ่านระบบของโบรกเกอร์ก่อนที่จะเข้ามาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ”
สำหรับแผนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะให้มีการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นตรงมาที่ระบบของตลท.โดยไม่ผ่านระบบของโบรกเกอร์ นั้นจะช่วยทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความสะดวกมากขึ้นในการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้น และทำให้มีต้นทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯลดลง นอกจากนี้ยังเป็นการขยายฐานนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นนั่นเอง
นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเริ่มใช้ระบบคำสั่งการซื้อขายหลักทรัพย์โดยตรงที่ไม่ต้องผ่านระบบของโบรกเกอร์ได้เมื่อไร เพราะ เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการหารือและทำความเข้าใจกับโบรกเกอร์ในเรื่องรายละเอียดต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ทั้งในเรื่องค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (ค่าคอมมิชชั่น)และการอนุญาตให้ส่งคำซื้อขายดังกล่าวจะอนุญาตให้นักลงทุนสถาบันในประเทศด้วยหรือไม่ รวมถึง อาจจะต้องมีการแก้เกณฑ์ หรือ ออกเกณฑ์เพิ่มเติมในเรื่องการส่งคำสั่งซื้อขาย โดยจะต้องไปดูว่าจะต้องมีการแก้เกณฑ์ใดบ้าง แต่ระบบไอทีในเรื่องการซื้อขายนั้นจะพร้อมในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้แม้จะมีการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เข้ามาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯโดยตรงได้นั้น แต่ในเรื่องการชำระราคาหุ้นนั้นจะต้องผ่านโบรกเกอร์เหมือนปกติ ปัจจุบันมีโบรกเกอร์กว่า 10 แห่ง ที่มีลูกค้านักลงทุนต่างประเทศที่ส่งคำสั่งการซื้อขายผ่านระบบDMA และมีโบรกเกอร์ 4-5 ราย ที่มีลูกค้าต่างประเทศส่งคำสั่งซื้อขายอนุพันธ์ ผ่านระบบDMA
นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการสำรวจความคิดเห็นกับโบรกเกอร์เกี่ยวกับการใช้ระบบ Fix Protocal เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นทำเพื่อรองรับคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯยังคงใช้ระบบการซื้อขายเดิมในส่วนนักลงทุนที่มีการซื้อขายปัจจุบันอยู่
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการลงทุน Fix Protocal นั้น จะช่วยทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความสะดวกในการส่งคำสั่งขายเข้ามาระบบโดยตรง และยังช่วยให้โบรกเกอร์ประหยัดต้นทุนได้โดยที่ไม่ต้องลงเองในการแปลงสัญญาณส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเพื่อส่งต่อมาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่หันมาใช้ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเก็บค่าใช้บริการ ในอัตราเท่าไรนั้น จะต้องมีการหารือกับโบรกเกอร์อีกที
โบรกฯเชื่อต่างชาติยังซื้อผ่าน
นายทองมกุฎ ทองใหญ่ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้ กรุ๊ป(ประเทศไทย)และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า จะช่วยให้นักลงทุนต่างประเทศมีความสะดวกในการส่งคำสั่งการซื้อขายได้เอง และทำให้มีต้นทุนในการซื้อขายที่ลดลง แต่ส่วนตัวเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะไม่หันมาส่งคำสั่งซื้อขายเองผ่านระบบDMAโดยตรงหมด แต่ยังคงมีการให้เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)ในการส่งคำสั่งซื้อขายให้ แต่อาจมีบางคำสั่งที่ไม่ต้องการให้มาร์เกตติ้งทราบก็จะมีการส่งคำสั่งซื้อขายเอง เช่นกัน
หุ้นไทยรีบาวน์กลับ8จุด
สำหรับ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18ส.ค.) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ระดับ 640.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.20 จุด(+1.30%) มูลค่าการซื้อขาย 19,812 ล้านบาท ซึ่งดัชนีผันผวนขึ้นลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ
โดยระหว่างวันแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 640.25 จุด และต่ำสุดที่ 625.83 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนขึ้นลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังช่วงบ่ายตลาดหุ้นฮั่งเส็งรีบาวน์ขึ้นมาเกือบ 200 จุด ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้มีแรงบวกเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นด้วย อีกทั้งจะสังเกตหุ้นในภูมิภาคฟื้นตัวส่วนใหญ่ปรับขึ้นมาบวกกันหมดในช่วงสั้นจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงความกังวลว่าทางการจีนอาจจะคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เก็งกำไรจึงทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้กับฮั่งเส็งค่อนข้างแกว่งผันผวนมากและพลอยส่งผลข้างเคียงต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคด้วยเช่น
ส่วนแนวโน้มนี้เนื่องจากหุ้นไทยเพิ่งหลุดแนวรับสำคัญไปถึงแม้ว่าวันนี้จะมีกระเตื้องบ้าง อย่างไรก็ดี ยังอยู่ในทิศทาง sideway down ที่จะซึมลง คงต้องแกว่งสร้างฐานสักระยะหนึ่งก่อนอาจจะไปสร้างฐานแถว 620 จุด
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและงานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเปลี่ยนระบบไอทีในการรับส่งข้อมูลคำสั่งการซื้อขายหลักทรัพย์เป็น (Fix Protocal)ในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถส่งคำสั่งซื้อขายระหว่างประเทศได้โดยตรง เพราะระบบดังกล่าวเป็นระบบสากลที่ใช้กันอยู่ในหลายประเทศ อีกทั้งเป็นการรองรับการเชื่อมโยงระหว่างตลาดหุ้นต่างประเทศในอนาคต
“เหตุที่เราจะมาใช้ระบบการซื้อขายดังกล่าว เพื่อรองรับคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเข้ามาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯได้โดยตรงในรูปแบบ Direct Market Access หรือ DMA โดยไม่ต้องผ่านระบบของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์ ) ซึ่งปัจจุบัน DMAที่ใช้อยู่นั้นนักลงทุนจะต้องส่งคำสั่งซื้อขายยังคงต้องผ่านระบบของโบรกเกอร์ก่อนที่จะเข้ามาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ”
สำหรับแผนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะให้มีการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นตรงมาที่ระบบของตลท.โดยไม่ผ่านระบบของโบรกเกอร์ นั้นจะช่วยทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความสะดวกมากขึ้นในการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้น และทำให้มีต้นทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯลดลง นอกจากนี้ยังเป็นการขยายฐานนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะมีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นนั่นเอง
นางสาวโสภาวดี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเริ่มใช้ระบบคำสั่งการซื้อขายหลักทรัพย์โดยตรงที่ไม่ต้องผ่านระบบของโบรกเกอร์ได้เมื่อไร เพราะ เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการหารือและทำความเข้าใจกับโบรกเกอร์ในเรื่องรายละเอียดต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ทั้งในเรื่องค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (ค่าคอมมิชชั่น)และการอนุญาตให้ส่งคำซื้อขายดังกล่าวจะอนุญาตให้นักลงทุนสถาบันในประเทศด้วยหรือไม่ รวมถึง อาจจะต้องมีการแก้เกณฑ์ หรือ ออกเกณฑ์เพิ่มเติมในเรื่องการส่งคำสั่งซื้อขาย โดยจะต้องไปดูว่าจะต้องมีการแก้เกณฑ์ใดบ้าง แต่ระบบไอทีในเรื่องการซื้อขายนั้นจะพร้อมในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้แม้จะมีการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เข้ามาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯโดยตรงได้นั้น แต่ในเรื่องการชำระราคาหุ้นนั้นจะต้องผ่านโบรกเกอร์เหมือนปกติ ปัจจุบันมีโบรกเกอร์กว่า 10 แห่ง ที่มีลูกค้านักลงทุนต่างประเทศที่ส่งคำสั่งการซื้อขายผ่านระบบDMA และมีโบรกเกอร์ 4-5 ราย ที่มีลูกค้าต่างประเทศส่งคำสั่งซื้อขายอนุพันธ์ ผ่านระบบDMA
นางนงราม วงษ์วานิช รองผู้จัดการ สายงานปฏิบัติการและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการสำรวจความคิดเห็นกับโบรกเกอร์เกี่ยวกับการใช้ระบบ Fix Protocal เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นทำเพื่อรองรับคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯยังคงใช้ระบบการซื้อขายเดิมในส่วนนักลงทุนที่มีการซื้อขายปัจจุบันอยู่
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการลงทุน Fix Protocal นั้น จะช่วยทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความสะดวกในการส่งคำสั่งขายเข้ามาระบบโดยตรง และยังช่วยให้โบรกเกอร์ประหยัดต้นทุนได้โดยที่ไม่ต้องลงเองในการแปลงสัญญาณส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นเพื่อส่งต่อมาที่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่หันมาใช้ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการเก็บค่าใช้บริการ ในอัตราเท่าไรนั้น จะต้องมีการหารือกับโบรกเกอร์อีกที
โบรกฯเชื่อต่างชาติยังซื้อผ่าน
นายทองมกุฎ ทองใหญ่ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้ กรุ๊ป(ประเทศไทย)และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า จะช่วยให้นักลงทุนต่างประเทศมีความสะดวกในการส่งคำสั่งการซื้อขายได้เอง และทำให้มีต้นทุนในการซื้อขายที่ลดลง แต่ส่วนตัวเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะไม่หันมาส่งคำสั่งซื้อขายเองผ่านระบบDMAโดยตรงหมด แต่ยังคงมีการให้เจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)ในการส่งคำสั่งซื้อขายให้ แต่อาจมีบางคำสั่งที่ไม่ต้องการให้มาร์เกตติ้งทราบก็จะมีการส่งคำสั่งซื้อขายเอง เช่นกัน
หุ้นไทยรีบาวน์กลับ8จุด
สำหรับ ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18ส.ค.) ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ระดับ 640.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.20 จุด(+1.30%) มูลค่าการซื้อขาย 19,812 ล้านบาท ซึ่งดัชนีผันผวนขึ้นลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ
โดยระหว่างวันแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 640.25 จุด และต่ำสุดที่ 625.83 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวนขึ้นลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังช่วงบ่ายตลาดหุ้นฮั่งเส็งรีบาวน์ขึ้นมาเกือบ 200 จุด ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้มีแรงบวกเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นด้วย อีกทั้งจะสังเกตหุ้นในภูมิภาคฟื้นตัวส่วนใหญ่ปรับขึ้นมาบวกกันหมดในช่วงสั้นจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงความกังวลว่าทางการจีนอาจจะคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เก็งกำไรจึงทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้กับฮั่งเส็งค่อนข้างแกว่งผันผวนมากและพลอยส่งผลข้างเคียงต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคด้วยเช่น
ส่วนแนวโน้มนี้เนื่องจากหุ้นไทยเพิ่งหลุดแนวรับสำคัญไปถึงแม้ว่าวันนี้จะมีกระเตื้องบ้าง อย่างไรก็ดี ยังอยู่ในทิศทาง sideway down ที่จะซึมลง คงต้องแกว่งสร้างฐานสักระยะหนึ่งก่อนอาจจะไปสร้างฐานแถว 620 จุด