xs
xsm
sm
md
lg

อเบอร์ดีนชวนขนเงินลุยหุ้นจีน เฟ้นหาของดีท่ามกลางศก.ร้อนแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 เศรษฐกิจและการเติบโตที่ร้อนแรงของจีนนั้น เป็นแรงดึงดูการลงทุนที่น่าสนใจอย่างมากแก่นักลงทุนทั่วโลก หลายฝ่ายต่างมองสภาพเศรษฐกิจของจีนกันไปในทิศทางเดียวกันว่า เป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ในเรื่องของความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับการลงทุนในจีนก็ยังคงมีอยู่ เพราะบริษัทในจีนส่วน
ใหญ่ดำเนินนโยบายตอบสนองรัฐบาลเป็นหลัก


ดังนั้น การเลือกลงทุนหุ้นในจีนนั้นจึงต้องเลือกหุ้นที่ค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ เพื่อผลประโยชน์ของนักลงทุนเอง วันนี้จึงพานักลงทุนไปรู้จักกับบริษัทหนึ่งที่ "กลุ่มอเบอร์ดีน" ได้เข้าไปลงทุนอยู่และ บลจ.อเบอร์ดีน (ไทย) เตรียมที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนให้แก่นักลงทุนในบานเราได้เข้าไปลงทุนในจีนกัน  เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจสำหรับการลงทุนในประเทศจีน

 ชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์  หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด อาสาพาไปรู้จักกับบริษัทหนึ่งที่  "กลุ่มอเบอร์ดีน" ได้เข้าไปลงทุนอยู่และมีความน่าสนใจมากนั่นคือ  บริษัท สไวร์ แปซิฟิก (SWIRE PACIFIC)
เขาบอกว่า บริษัทนี้ เป็นบริษัทที่มีทีมผู้บริหารมีความเป็นมืออาชีพและมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่อสังหาริมทรัพย์ สายการบิน เดินเรือ ค้าปลีก เป็นต้น โดยธุรกิจส่วนใหญ่มีฐานอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีงบดุลในการบริหารงานที่ค่อนข้างดี และมีการขยายการลงทุนไปที่จีนอย่างชัดเจน โดยที่เม็ดเงินกว่า 75% ได้เข้าไปลงทุนอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ฯ

 "ดังนั้น ต้องถือว่า เป็นบริษัทที่มีความน่าสนใจและเป็นไปตามนโยบายของทาง อเบอร์ดีน ในการเลือกลงทุนในบริษัทต่างๆ"

 นอกจากนี้ ยังแนะนำนักลงทุนด้วยว่า บริษัท สไวร์ แปซิฟิก นั้นมีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี ซึ่งถือว่าน่าสนใจมากทาง อเบอร์ดีน เอง ให้เข้าไปลงทุนอยู่ในบริษัทนี้ 8.8% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมดที่อยู่ประมาณ 37 บริษัท
 หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน ยังเน้นยํ้าว่า

การลงทุนในจีนนั้นต้องระวังในเรื่องของความโปร่งใสในการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ ในจีน เพราะส่วนใหญ่บริษัทในจีนนั้นไม่ได้มีความเป็นอิสระจากรัฐบาลและแม้ว่าจะมีหลายบริษัทเกิดขึ้นมาใหม่แต่ก็ยังไม่รู้จักมากพอที่จะเข้าไปลงทุนซึ่งในเรื่องนี้เป็นเองที่สำคัญ เพราะส่งผลมาถึงผลประโยชน์ของนักลงทุน
ด้าน มร. นิโคลัส โยว  ผู้จัดการกองทุนตราสารทุน-เอเชีย Aberdeen International Fund Managers Limited ในฮ่องกง กล่าวถึงเกณฑ์การเลือกลงทุนในหุ้นของตลาดจีนว่า อเบอร์ดีน เน้นลงทุนในบริษัทที่มีรายได้หรือสินทรัพย์อย่างน้อย 50% อยู่ในประเทศจีนหรือฮ่องกงโดย ให้ความสำคัญกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นของฮ่องกงและ H-Shares   ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทที่ก่อตั้งในจีนและจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยทำการซื้อขายด้วยเงินเหรียญสหรัฐฯและเงินเหรียญฮ่องกง

 เนื่องจากเราพิจารณาว่า ทีมผู้บริหารมีความรู้และประสบการณ์ มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการ และโครงสร้างบรรษัทภิบาลนั้นมีคุณภาพสูง รวมถึง ตลาดหุ้นฮ่องกงนั้นมีกฏเกณฑ์ในการควบคุมดูแลผลประโยชน์ของนักลงทุนที่เป็นมาตรฐานสากล

 ทั้งนี้ กองทุนของอเบอร์ดีนยังเลือกลงทุนในหุ้นประเภท B-Shares (หุ้นของบริษัทที่ก่อตั้งในจีนและจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเซินเจิ้น โดยทำการซื้อขายด้วยเงินเหรียญสหรัฐฯและเงินเหรียญฮ่องกง), Red Chips (หุ้นของบริษัทที่ก่อตั้งในฮ่องกงและจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง

ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลจีน หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน และดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่), และ P-Chips (หุ้นของบริษัทเอกชนจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง) แต่เป็นไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากบริษัทของจีนส่วนใหญ่เป็นบริษัทใหม่ที่อาจจะยังคงต้องปรับปรุงเรื่องความโปร่งใสในการบริหารจัดการ และยังคงขาดประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับ กระบวนการลงทุนของอเบอร์ดีนนั้น เริ่มต้นจากการเลือกลงทุนในบริษัทที่ดีเป็นสิ่งแรกเสมอ ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนจริงๆแล้วคือผลลัพธ์ของการเลือกลงทุนในแต่ละบริษัทรวมกัน ซึ่งต่อมา เมื่อได้พอร์ตการลงทุนจากการเลือกบริษัทที่ดีแล้ว จึงจะมาพิจารณาถึงความสมดุลของกลุ่มอุตสาหกรรมในพอร์ตการลงทุน

แม้ว่าผู้จัดการกองทุนบางแห่งเริ่มต้นการลงทุนด้วยการเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ดูว่าน่าจะเติบโตได้ดี เช่น กลุ่มพลังงานหรือก่อสร้าง แล้วค่อยมาพิจารณาตัวบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ แต่นี้ไม่ใช่วิธีการของอเบอร์ดีนที่เราจะเริ่มต้นจากพิจารณาลงทุนที่ตัวบริษัทก่อนเสมอ

 อเบอร์ดีนไม่ได้หลีกเลี่ยงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมใดเป็นพิเศษ แต่หลีกเลี่ยงบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตเกินความต้องการ ไม่มีอำนาจในการต่อรองราคาหรือมีการบริหารจัดการที่ไม่โปร่งใส เป็นต้น 

 มร.นิโคลัส  ยังบอกด้วยว่า  การลงทุนในจีนนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะปานกลางถึงระยะยาวให้ได้สูงกว่าดัชนีอ้างอิง  และสร้างผลตอบแทนรวมที่น่าพอใจ โดยเป็นการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจในประเทศจีนอย่างมีนัยสำคัญ  โดยเชื่อว่าแนวทางการลงทุนที่ยืดหยุ่นนี้ทำให้ได้รับประโยชน์จากโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจที่สุดในทุกสถานการณ์

เนื่องจากภูมิภาคเอเชีย มีรัฐบาลที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด มีความเสี่ยงด้านการเมือง และทิศทางการเติบโตที่ยังผันผวน จึงต้องสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีจำนวนบริษัทไม่มากคือประมาณ 35 บริษัท ซึ่งล้วนเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ และดำเนินธุรกิจที่เข้าใจอย่างแท้จริง ซึ่งแนวทางของอาจส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนแตกต่างจากเกณฑ์อ้างอิงมาก แต่ก็มีความผันผวนที่อยู่ในระดับต่ำ หรือค่า Beta ที่ต่ำกว่า 1
กำลังโหลดความคิดเห็น