xs
xsm
sm
md
lg

ละครการเมือง “สารขัน” ยุค “วรนุส” ผยอง..ตอน...มะเร็งไข่ผยอง..กินสมอง “บิ๊กเหลี่ยม”!!!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ทุกข์ของ “พระราชา” คือ ทุกข์ของ “ปวงประชา”!

ยามใด..ที่ “พระราชา” เมืองสารขันถูกจาบจ้วงย่ำยีหยามเหยียดทำลาย ยามนั้น..ปวงประชาสารขันจะทุกข์ทบเท่าทวีคูณ ยิ่งกว่าทุกข์ของ “พระราชา” นับล้านๆ เท่า!!

ยุควรนุสผยอง 2009 “ฎีกาแดงเหลี่ยม” ไร้ความสุจริต เต็มไปด้วยกับดักและเล่ห์กลการเมือง เพราะมีเป้าหมายมุ่งกดดัน “พระราชา” สารขันอย่างเหิมเกริมสุดประมาณ!!!

สัมภาษณ์โคตรพิเศษ “บิ๊กเหลี่ยม” ณ ประเทศดูไบดูดอก (สี) ทอง (ด้วย)!

นักข่าวถาม -
ท่านคิดอย่างไรที่ทำผิดกฎหมายและจาบจ้วงด้วยการถวายฎีกาไม่ถูกต้องเช่นนี้?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ - เอ้อ..อ้า..ผมจะบอกความลับให้คุณรู้นะ งานนี้ผมจ่ายเงินเยอะมาก ผมต้องจ้างพวก 3 เกลอหัวขวด-ตะกวดเมิน ผมยังต้องจ้างพวก ส.ส. “พรรคเพื่อใคร” จ้างพวกรากหญ้าผสมรากฝอยจากต่างจังหวัดมาชุมนุมกัน อ้อ..ที่สำคัญครั้งนี้..ผมยังจ้างพวกหัวโล้นมาร่วมชุมนุมด้วยอีก 2 พันคน ทีแรกผมอยากให้ไอ้โล้นพวกนี้ เปลี่ยนจีวรจากสีเหลืองมาเป็นสีแดงเสียเลย แต่พวกนั้นบอกใส่สีเหลืองแบบนี้ ชาวสารขันจะได้หลงว่าเป็น “พระโชว์” หรือเป็นการโชว์พลังของ “พระ” ไงล่ะ แต่ใครจะโง่ไหว้ไอ้โล้นพวกนี้ก็ไหว้ไปเถอะ แต่ผมไม่ไหว้ให้เสียมือหรอก เพราะรู้ไส้ว่า..พวก “จิ้งเหลือง” กลุ่มนี้มันไม่ใช่พระแล้วล่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า...

นักข่าวชายถาม - (ทำหน้างง) ถ้างั้นท่านก็รู้แก่ใจว่า..ฎีกาไม่ถูกกฎเกณฑ์และผิดกฎหมายนี้ ไม่มีทางจะอภัยโทษให้ท่านได้..โดยเฉพาะคนเซ็นฎีกาไม่มีลูกของท่าน มีแต่พวกไม่ได้เป็นญาติโกโหติกากับท่านทั้งนั้นเลย?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ - โอ้ย..กู..เอ๊ย..อั้ว..เอ๊ย..ผมรู้อยู่แล้วว่า ฎีกายื่นให้พระราชาครั้งนี้มีเรื่องไม่ถูกต้องมากมาย แถมขัดกับรัฐธรรมนูญสารขันด้วยซ้ำไป ผมตายจนปีนต้นงิ้ว-ลงกระทะทองแดงแช่น้ำมันเดือดฉ่า ปีนต้นงิ้วและโดนนกแร้งกับอีกาปากเหล็กลากไส้ออกมากองเป็นขดๆ โดนทรมานในนรกขุมไหนก็ตามทั้งชาตินี้-ชาติหน้า-ชาติไหนๆ ผมก็รู้ว่า..การอภัยโทษจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน..เพราะมันผิด..

นักข่าวหญิงถาม - (ทำหน้างงอีกครั้ง) อ้าว..แล้วทำหาเตี่ย..เอ๊ย..หาพระแสงอะไรของท่านล่ะค่ะ?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ - (ทำหน้าเอ๋อกะทันหัน) เอ้อ..อ้า...ฎีกาครั้งนี้คือยุทธการ “ฎีกาวรนุสหางแดงเทือกทั้งแผ่นดิน” ยุทธวิธี..ง่ายๆ แต่ใช้เงินเยอะ..ใช้มวลชนปลอม..เอ๊ย..มวลชนเป็น 10 ล้านคน กดดันพระราชาของสารขันไงล่ะ! งานยื่นฎีกาเถื่อนครั้งนี้..เป็นเรื่องทางการเมืองโดยตรง เพื่อให้ผมและพวกใช้พูดโกหกหลอกลวงว่า พระราชาแห่งเมืองสารขันนั้น..บัดนี้ทรงไร้ความยุติธรรมแล้ว ทรงแกล้งผมและทรงมี 2 มาตราฐาน นั่นจะได้เป็นข้ออ้างที่ผมกับพวกลูกน้องคนสนิท ที่เป็นอดีตหัวแดง “คอมมิวนิด-หน่อย” จะได้ชอบธรรมในการล้มล้างสถาบันพระราชาสารขันไงล่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า..

นักข่าวชายถาม - เอ๊ะ..งี้..ท่านก็ให้ร้ายป้ายสีพระราชาสารขันน่ะสิ เอ้อ..แล้วท่านกับพวกจะล้มสถาบันพระราชาสารขันทำไมล่ะ?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ - เอ้อ..อ้า..ผมจะตอบคุณแบบออฟเรคคอร์ดนะ พวกหัวแดงที่ผมสนิทสนมต้องการล้มสถาบันนี้ให้ได้ เพราะสถาบันนี้ล้าสมัย..ไม่เข้ากับยุคดิจิตอลที่ผมทำมาหากินอยู่ พระราชาสารขันนั้น..ที่สำคัญที่สุดคือ..ท่านทรงทศพิธราชธรรมมากเกินไป รักประชาชนและประชาชนก็รักท่านมากเกินไป จึงเป็นศัตรูถ่วงความเจริญเติบโตของระบอบทุนนิยมผูกขาดโกงชาติอย่างสามานย์ ที่ผมเป็นหัวหน้าโจร..เอ๊ย..หัวหน้าใหญ่ไงล่ะ..เข้าใจหรือยัง..หือ..?

บิ๊กเหลี่ยม (ยกน้ำอุ่นขึ้นดื่มแล้วพูดต่อ) เอ้อ..แต่คุณต้องรู้นะว่า นั่นเป็นหนึ่งในยุทธวิธีที่ผมใช้ป่วนสังคมสารขัน ใช้ต่อรอง-กดดันทั้งพระราชาและประชาชนเมืองสารขันว่า หากอยากอยู่กันอย่างสันติ-สมานฉันท์-ปูดอง..เอ๊ย..ปรองดองล่ะก็ ต้องยกเลิกความผิดอันชั่วช้าทั้งหมดของผม และต้องคืนเงินโกงที่ถูกอายัดให้ผมด้วย รวมทั้งต้องให้ผมกลับมาซื้อเสียงโกงการเลือกตั้ง เพื่อผมจะได้กลับมาเป็นใหญ่ในแผ่นดินอีกครั้ง อ้อ..เพื่อผมจะได้ทำให้เศรษฐกิจผมดีขึ้น..เอ๊ย..เศรษฐกิจของสารขันดีขึ้นไงล่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า..

ผมไม่ได้ขู่นะ..ถ้าไม่ทำตามที่ผมต้องการ บ้านเมืองสารขันจะมีแต่ความวุ่นวาย สถาบันพระราชาจะถูกบ่อนเซาะทำลายลงไปเรื่อยๆ สังคมสารขันจะมีแต่สาละวันเตี้ยลง..เตี้ยลง ผมมีเงินโกงชาติอีกเยอะไว้จ้างพวกหัวแดงหางแดง ที่หิวเงินไว้เผาบ้านเผาเมืองไปเรื่อยๆ นะคุณ ส่วนที่คุณนักข่าวถามว่า..จะเป็นการให้ร้ายป้ายสี เป็นการกระทำที่ไม่ดีต่อพระราชา และประชาชนชาวสารขันหรือไม่นั้น..ผมไม่สนใจโว้ย..เอ๊ย..ครับ

นักข่าวหญิง (กลอกตาไปมาด้วยความงงซ้ำซาก) แต่ท่าน..ท่าน..ทำแบบนั้นมัน..

บิ๊กเหลี่ยม (พูดสวนทันที) มันไม่ถูก-ไม่ควรทำใช่ไหมล่ะ? เฮ้ย..อย่าคิดแทนผม..มีคนในสารขันบางคนว่า..ผมเสียสติ ผมไม่ได้เสียสติ ผมแค่กำลังจะเสียไข่..เอ๊ย..กำลังเป็นมะเร็ง..เอ๊ย..กำลังเลือดขึ้นหน้าสี่เหลี่ยมน่ะ ดังนั้นผมจะทำทุกอย่างทุกวิธีการที่เงินซื้อได้จ้างได้ เพื่อจะทำให้ผมได้กลับไปเป็นใหญ่ในแผ่นดินสารขันอีกครั้งหนึ่ง

นักข่าวอย่างคุณสองคนฉลาด..ไม่ได้โง่นี่นา ดูสิ..ว่าผมเสียสติหรือเปล่า? อ้อ..แต่ผมขอบอกความลับให้คุณรู้ไว้ตรงนี้เลยว่า ถึงผมจะทำชั่วแค่ไหน..สื่อก็ต้องเข้าข้างผมอยู่ดี เพราะผมใช้เงินแอบจ้างนักข่าวบางกลุ่มในเมืองสารขัน ให้ทำตัวโง่-เซ่อ-ชั่วเหมือนผมอย่างถาวรแล้ว ที่สำคัญสื่อพวกนี้..จะซ่อนตัวอยู่ตามสื่อต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และต้องทำตัวเป็น “ร้านอาหารตามสั่ง” ต้องเขียนและเสนอข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับผม-เข้าข้างผมตลอดไป..ฮ่าฮ่าฮ่า ว่าแต่..เอ้อ..คุณสองคนจะมาเป็นลูกจ้างผม เหมือนสื่อมวลชนพวกนั้นไหมล่ะ? ผมจ่ายเงินสูง..ราคาค่างวดแล้วแต่คุณพอใจ..เสนอมาได้เลยนะจะบอกให้..โอเคไหม?

นักข่าวหญิง - เอ้อ..ขอบคุณค่ะท่าน..แต่ดิฉันกับเพื่อนไม่หิวเงินเหมือนสื่อบางคนค่ะ ดิฉันขอถามต่อนะคะว่า วันยื่นถวายฎีกานั้น..ท่านจะโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์ไปยังเมืองสารขันไหมค่ะ?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ - แน่นอน..ผมจัดฉากเตรียมไว้แล้ว ถึงแม้นผมจะเสียเงินจ้างพวกมันมาชุมนุม แต่ฉากแรกต้องพูดชมพวกหางแดงหัวแดงก่อน ดูสิ..เป็นลูกนอกไส้แท้ๆ..แต่ดันสิ้นคิดทะลึ่ง..เอ๊ย..ยังมาลงชื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ผม จากนั้นผมต้องโมเมพูดใส่ความว่า ศาลสารขันมาจากเผด็จการทหารตั้ง-ไม่ยุติธรรม-สองมาตรฐาน-แกล้งผม ส่วนฉากสุดท้ายนั้น..ผมต้องได้รางวัลตุ๊กตาทองแน่นอน เพราะคราวนี้ผมลงทุนเป็นตอ..เอ้อ..ตอแหลเอง ด้วยการแสดงนำในฉากถวายสัตย์ปฏิญาณหลอกคนทั้งเมืองสารขันว่า ผมกับครอบครัว “ชิงนาวัด” นั้น..ยังจงรักภักดีต่อพระราชาสารขันไงล่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า..

นักข่าวชายถาม - โอ..ท่านครับ..ผมไม่เชื่อว่าชาวสารขันจะให้ท่านหลอกง่ายดายอย่างนั้นนะ?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ (ทำเสียงไม่พอใจ) เฮ้ย..คุณอย่าสู่รู้แทนผมเลย ผมน่ะ..เคยต้มชาวสารขันจนสุกมาแล้วว่า ผมเป็นคนดี-ผมรวยแล้วไม่โกง-ผมรักชาติ-ผมจะทำเพื่อชาวสารขัน ขำกลิ้งเลยว่ะ..พวกสารขันหน้าโง่หลงเชื่อโกหกคำโตของผมหมดเมืองเลย ทำให้ผมซื้อเสียงพวกรากหญ้า-รากฝอย-รากเน่าง่ายขึ้น ผมโกงการเลือกตั้งจนชนะขาดลอย ได้เป็นนายกฯ-ได้บ้าอำนาจ-ได้โกงชาติสารขันอยู่หลายปี ก่อนจะถูกไอ้แป๊ะลิ้มและพวกพันธมิตรฯ สารขันรู้ทัน แล้วชุมนุมไล่ผมลงจากเก้าอี้นายกฯ อืม..คิดถึงแป๊ะลิ้มแล้วแค้นฝังอก..ตกนรกกี่ครั้ง..ก็จะจองเวรจองกรรมมัน เสียดายเพื่อนผมไอ้...อุ๊บ..ไม่บอก..ดันยิงถล่มมันไม่ตาย..เฮ้อ...

ที่สำคัญ..โชคดีสำหรับพวกผม..ชาวสารขัน เป็นพวกเจ็บแล้วไม่รู้จักจำ-เป็นพวกรักสงบ-เป็นพลังเงียบ..เงียบจริงๆ เงียบจนพวกผมเรียกว่า..พวกชอบงอมืองอตีน เพราะชาวเมืองสารขันเป็นแบบนี้..จึงทำให้สังคมสารขันกลียุค คนดีตกอับ..คนชั่วกลับเป็นใหญ่ วรนุสอย่างพวกผม..ถึงครองบ้านครองเมืองได้ไงล่ะ..ฮ่าฮ่าฮ่า...เหอเหอเหอ..เอิ้ก..อ๊าก..

นักข่าวชายถาม - ท่านวิเคราะห์สถานการณ์เมืองสารขันจะจบลงอย่างไร?

บิ๊กเหลี่ยมตอบ - อืม..บิ๊กหล่อเป็นนายกฯ ที่เข้าทางผมเลย เป็นรัฐบาล “นกนางแอ่น” ที่ใช้แต่น้ำลาย ..จ้อเก่งแต่ทำไม่เก่ง ปากแข็งแต่อย่างอื่นไม่แข็ง..อ่อนปวกเปียกด้วยซ้ำไป ที่สำคัญ..พรรคการเมืองของบิ๊กหล่อนั้น ไร้มวลชนเป็นกำลังรองรับ..แป๊ะลิ้มก็เริ่มไม่เอากับมันแล้ว ถึงขนาดไปตั้งพรรคการเมืองใหม่จริงขึ้นมา บิ๊กหล่อจึงเล่นเกมได้แค่ในสภาเท่านั้นเอง ต่างกับผม..ผมใช้วิธีลับ-ล้วง..เอ๊ย..ลวง-พราง..ป่วนทั้งในสภานอกสภา เรื่องถวายฎีกา..เดี๋ยวผมจะป้ายสีต่อว่า อำมาตย์ใหญ่บ้านมีเสาและรัฐบาลบิ๊กหล่อ เป็นคนขัดขวางไม่ให้อภัยโทษกับผมเท่านั้นแหละ..ผมก็มีประเด็นไว้ป่วนเมืองสารขัน จนกว่าจะเกิดรัฐประหารเงียบหรือไม่เงียบก็ได้ แล้วตั้งรัฐบาลปูดอง..เอ๊ย..ปรองดองแห่งชาติวรนุส..เอ๊ย..สารขัน จากนั้นก็นิรโทษกรรมให้ผม..คืนเงินที่กว่าจะโกงมาได้เหนื่อยแทบตาย..ให้ผม อ้อ..หรือไม่ก็ยุบสภาให้รู้แล้วรู้แรดไปเลย...

นับแต่นี้..ผมจะทุ่มเงินไม่อั้น เพื่อจ้างนักรบ “วรนุสหางแดงหัวแดง” ทำเมืองสารขันให้กลายเป็นสนามรบ ทำสงครามโค่นล้มอำมาตย์ทุกชนชั้นที่เป็นศัตรูของผมและพวกให้ได้

สงครามวรนุชหางแดง-หัวแดง..จงเจริญ-จงเจริญ-จงเจริญ! พวกอำมาตย์ทุกคน..จงพินาศ-พินาศ-พินาศ..เอ๊ะ..เอ้อ..คุณว่าผมเสียสติหรือเปล่านะคุณนักข่าว..?

นักข่าวชาย (พูดยิ้มๆ ที่มุมปาก) เอ้อ..ไม่แค่เสียสติธรรมดาแล้วล่ะ ผมไม่ใช่หมอ..แต่พอจะมองออกว่าอีกไม่นานนี้แหละ..ท่านจะได้กลับบ้าน ท่านจะต้องจากดูไบดูดอก (สี) ทองกลับสู่เมืองสารขันเสียที อ้อ..แต่ท่านต้องเตรียมภาพถ่าย กระถางธูป ตะเกียง ให้“โอ๊กอ๊าก-อุ๊งอิ๊งเอ้ออ้า-เอมอิ่มเอ๋ออ๋า” ด้วยนะ ที่สำคัญงานนี้ท่านคงต้องจ้างแพงหน่อย จ้างให้พวก 3 เกลอหัวขวด-ตะกวดเมินกับชนเผ่าแดงเดือดเลือดพล่านมาร้องไห้กระจองอแงที่สนามบิน “สุวรรณภูมิใจใคร” ที่ท่านเคยจูบไงล่ะ..

นักข่าวหญิง (ทำตาโต) อุ๊ย..เกือบลืมค่ะ..อีกพวกที่ต้องจ้าง..ก็พวกหัวโล้นสวมชุดเหลือง 2 พันคน ที่ไปร่วมชุมนุมถวายฎีกา..ให้มาเดินนำหน้าตอนท่านกลับบ้านด้วยนะคะ..ฮิฮิฮิ..

นักข่าวชาย (พูดเสริมทันที) เอ้อ..เพราะผมรู้สึกว่า..มะเร็งจากไข่ผยองกำลังขึ้นกินสมองท่านแล้วครับ

บิ๊กเหลี่ยม (โกรธจนหน้าสี่เหลี่ยมแดงก่ำ) มึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้..แค่มะเร็งไข่..กูก็จะบ้าตายก่อนเวลาอันสมควรแล้ว พวกมึงยังมาแช่งซ้ำเติมกูอีก โอ้..มะเร็งไยมาเยือน..ไม่ติงเตือนล่างหน้า..แม้นกูจะมากเงินตรา..แต่คงตายห่าอีกไม่นาน..ฮือฮือฮือ ใครวะมาหาว่ากูบ้า..ถึงกูบ้า..แต่กูไม่โง่นะมึง..กูเป็นมะ..มะเร็งไข่โว้ย..ไม่ได้เป็นบ้า..ฮือฮือฮือ..

นักข่าวสองคน..แจ้นออกจากบ้านนักโทษชาย “บิ๊กเหลี่ยม” ที่ดูไบดูดอก (สี) ทองแทบไม่ทัน เพราะบี๊กเหลี่ยมกลายเป็นคนบ้า ร้องไห้ไปขว้างข้าวของอย่างเสียสติไปเสียแล้ว...คร๊าบ..
กำลังโหลดความคิดเห็น