สนธิ- สวัสดีครับท่านผู้ชมครับ คงจะประหลาดใจใช่ไหมครับ วันนี้เดิมทีเป็นรายการ คนในข่าว แต่วันนี้ผมได้ขออนุญาตทางผู้อำนวยการสถานี ASTV ขอมาจัดรายการพิเศษ เพื่อจะมาพูดกับเรื่องบางเรื่อง กับพ่อแม่พี่น้องและท่านผู้ชมทางบ้าน เพราะเรื่องบางเรื่องที่ผมพูดนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และเมื่อวานนี้กำลังจะก้าวไปสู่จุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างมหาศาล
วันนี้เป็นวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2552 วันนี้เป็นวันที่เราอยู่ในช่วงของรัฐบาลในระบอบประชาธิปัตย์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นช่วงที่รัฐบาลเป็นมาประมาณ 7 - 8 เดือนแล้ว
ใน 7 - 8 เดือนที่ผ่านมานี้ สิ่งเราเห็นก็คือ การพยายามที่จะใช้ หรือทำให้ประเทศไทยมีหลักนิติรัฐให้ได้ แต่การพยายามเช่นนั้น ยังขาดซึ่งความกล้าหาญที่จะกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากท่านนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ผมจำเป็นที่จะต้องออกมาพูดในเรื่องนี้ที่ผมพยายามจะเก็บเนื้อเก็บตัว เนื่องจากว่าสุขภาพยังไม่หายดี 100 เปอร์เซ็นต์ ยังมีอาการเจ็บศีรษะ ปวดศีรษะเป็นบางครั้งบางคราว ต้องพักผ่อน แต่ผมจำเป็นต้องออกมาพูดวันนี้ และต้องพูดให้ได้วันนี้ รอไปพรุ่งนี้ก็รอไม่ไหว เพราะมันจะช้าเกินไป ทั้งที่มันก็ช้ามานานแล้ว ที่ผมต้องพูดวันนี้คือ เรื่องราวของภยันอันตรายที่รัฐบาลชุดนี้ และชุดก่อนๆ จะจงใจหรือเจตนา หรือว่าไม่เจตนาหรือไม่ได้ตั้งใจ หรือทำงานไม่เป็น กำลังปล่อยให้สถาบันพระมหากษัตริย์นั้นสั่นสะเทือน และถูกจาบจ้วง ถูกท้าทายอย่างชนิดที่ไม่เคยมีการท้าทายแบบไหนเกิดขึ้นมาเลยในประวัติศาสตร์ไทย ตั้งแต่ผมมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งถึง 62 ปีวันนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่หัวหิน ที่วังไกลกังวล มันมีนัยที่ลึกซึ้งมาก มีนัยซึ่งส่อให้เห็นถึงระบอบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือว่าเป็นเครื่องมือ หรือว่าจงใจที่จะเป็นส่วนร่วมในการสั่นคลอนทำลายระบอบสถาบันกษัตริย์
ท่านผู้ชมครับ ผมเป็นคนนิยมกษัตริย์รึเปล่า เป็นครับ ทำไมผมถึงนิยมกษัตริย์ เพราะผมเชื่อมั่น เชื่อว่าประเทศไทยและสังคมไทยนั้นขาดซึ่งสถาบันกษัตริย์ไม่ได้ ส่วนพระมหากษัตริย์นั้น แน่นอนที่สุด องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ เป็นมหาราชกษัตริย์ที่สุดยอด แต่ต่อจากพระองค์ท่านจะเป็นผู้ใดนั้น ถ้าเป็นกษัตริย์ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนก็ยอมรับ เพราะพวกเรายอมกันว่า ประเทศไทยนั้นจำเป็นต้องมีสถาบันกษัตริย์ ส่วนกษัตริย์องค์ต่อๆ ไปนั้น อีกหลายๆ พระองค์นั้น จะเป็นกษัตริย์ที่ดีหรือไม่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับที่ พระองค์ท่านจะมีทศพิธราชธรรมหรือไม่ และวันนั้นประชาชนจะต้องเป็นคนตัดสิน
บทบาทของสถาบันกษัตริย์นั้นจะเป็นบทบาทที่ปฏิรูปตัวเอง หรือพัฒนาตัวเองเพื่อให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยวิธีใดนั้น เป็นเรื่องราวที่จะต้องปล่อยให้ทำกัน และต้องปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ใช่พยายามมีกระบวนการมาทำลายล้างสถาบันกษัตริย์ สร้างความคิดที่ผิดๆให้กับประชาชน แล้วทำให้ประชาชนตกเป็นเครื่องมือของเงินของทอง เอาเงินเอาทองไปซื้อบัตรประชาชนมา แล้วมาลงชื่ออย่างกรณีการถวายฎีกาให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่บรรดาคนเสื้อแดงพยายามจะกระทำอยู่ ถ้าอย่างนี้แล้ว ผมถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่มีคนบุกเข้าไปถึงเขตพระราชฐานที่หัวหิน ไปเช่าสถานที่ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อมาถวายฎีกา เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นให้พระราชทานอภัยโทษกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือปัจจุบันนี้ คือ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
ท่านผู้ชมครับ เราแบ่งแยกเรื่องออกเป็น 2 เรื่องให้เห็นชัดเจน เรื่องแรกนั้น การถวายฎีกานั้น วันนี้มีการประชุมสัมมนากันทางวิชาการของ คุณธงทอง จันทรางศุ ซึ่งคุณธงทอง ท่านคืออดีตคนซึ่งมากล่าวหาผม สมัยที่ผมทำรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อยู่ที่ช่อง 9 หาว่าผมไปพูดถึงเรื่องสถาบันกษัตริย์ และเอาการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ดึงกษัตริย์ลงมาเล่นการเมือง
ท่านผู้ชมครับ ถ้าท่านผู้ชมติดตามการต่อสู้ของผมมาตั้งปี 2548 ผมพูดไว้ว่าอย่างไร ผมพูดว่าเราจะสู้เพื่อในหลวง ทำไมเราจะต้องสู้เพื่อในหลวง เพราะในหลวงถูกคนชั่ว คนที่รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไม่สามารถที่จะตอบโต้อะไรได้ พระองค์ท่านมีความรู้สึกอย่างไร พระองค์ท่านต้องเก็บ พระองค์ท่านโดนจาบจ้วงแบบไหนก็ตาม พระองค์ท่านต้องเก็บเงียบ เมื่อเก็บเงียบแล้วถ้าเรามีรัฐบาลที่ดี ถ้าเรามีนายกรัฐมนตรีที่จงรักภักดีจริง และถ้าเรามีข้าราชการที่จงรักภักดีจริงๆ พระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็คงจะไม่ช้ำพระทัย เหมือนที่พระองค์ท่านช้ำพระทัยอยู่ในทุกวันนี้
พ่อแม่พี่น้องครับ ท่านผู้ชม การเป็นกษัตริย์นั้น ขัตติยะของพระองค์ท่านนั้นต้องรักประชาชนเท่าเทียมกันหมด ไม่มีแบ่ง พระองค์ท่านไม่แบ่งหรอก เสืเหลือง หรือเสื้อแดง พระองค์ท่านไม่เคยแบ่งใครเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะทุกคนเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน แต่คนที่เริ่มมาแบ่งนั้น เริ่มแบ่งจากสมัยรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ.2544 เป็นต้นมา พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากทฤษฎีทางการเมือง และเหตุผลทางการเมืองที่ต้องการมีเสียงข้างมาก ก็เลยใช้นโยบายประชานิยมลงไปสู่รากหญ้า เอาเงินเอาทองไปซื้อชาวบ้าน ในขณะซึ่งในหลวง พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ เอาน้ำพระทัยและความจริงใจไปช่วยประชาชน เมื่อประชาชนบางส่วนซึ่งด้อยปัญญา ซึ่งขาดซึ่งความรู้ ถูกซื้อด้วยเงิน ถูกซื้อด้วยนโยบายเรียนฟรี ถูกซื้อด้วยนโยบาย 1, 2, 3, 4 โดยเอาเงินภาษีอากรของรัฐไปแจก พี่น้องครับ เพียงเพื่อหวังให้ประชาชนนั้นมาเลือกตัวเอง เลือกพรรคตัวเอง แต่ในกระบวนการที่ทำเพื่อให้ประชาชนเข้ามาเลือกตัวเอง หรือเลือกพรรคตัวเองนั้น เป็นกระบวนการที่แอบแฝงไปในการแสดงให้ประชาชนเห็นว่า ตัวเองนั้นคือคนซึ่งรักประชาชน เห็นไหม พรรคการเมืองพรรคนี้เอาของไปให้ประชาชน เอาเงินไปให้ประชาชน เอาปลาไปให้ประชาชนกิน แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ท่านทรงไปสอนประชาชนให้รู้จักตกปลา การแบ่งแยกประชาชนให้เข้าใจผิด ให้หลงคิดว่านักการเมืองนั้นคือคนซึ่งมีบุญคุณต่อประชาชน มีบุญคุณมากกว่าพระเจ้าอยู่หัว
ก็เลยเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2544 พออำนาจวาสนามีมากขึ้น มีเสียงข้างมากมากขึ้น ก็เลยเถิดไปทำอะไรก็ตามที่เป็นการละเมิดประเพณี ซึ่งเขาไม่ทำกัน พี่น้องยังจำเรื่องแรกได้ไหม ที่ผมพูดที่ช่อง 9 อสมท ในยุคที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นผู้อำนวยการ ในยุคที่นายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานกรรมการบริหาร แล้วในยุคที่ อดีตอัยการสูงสุดคนหนึ่ง เป็นประธานกรรมการ ผมได้เอาเรื่องของการเข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่บังควร ไม่เคยมีใครเขาทำกันมาก่อน ปรากฎว่าผมโดนโจมตีหนัก ทั้งนักวิชาการที่มีความรู้ ที่อ้างว่าใกล้ชิดกับวัง หรือตลอดจนทหารบางคน ถึงกับตบเท้าส่งลูกน้องมาที่ที่ทำงานผม มาข่มขู่ผม บอร์ด อสมท โดยผ่านประธาน โดยผ่านนายธงทอง จันทรางศุ ผ่านนายมิ่งขวัญ ปลดรายการผมออกไป แล้วกล่าวหาผมมาตลอดเวลาว่าผมดึงพระเจ้าอยู่หัวมาเล่นการเมือง
พ่อแม่พี่น้องครับ จุดนั้นเป็นจุดเปลี่ยนของสังคมไทยจุดแรก แล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนของการต่อสู้ของผม ผมมามองรอบตัวผมแล้ว ผมบอกว่า ผมเป็นข้าของแผ่นดิน ถึงแม้ผมจะเป็นลูกเจ๊กลูกจีน แต่ทำไมนายทักษิณ ชินวัตร ไปทำพิธีอยู่ในวัดพระแก้ว แล้วไม่มีใครกล้าพูด ทำไม ทำไมไม่มีปราชญ์ของแผ่นดินออกมาพูด ทำไมไม่มีนักวิชาการออกมาขวาง ทำไมไม่มีคอลัมนิสต์ สื่อมวลชนออกมาเตือนสตินายทักษิณ ที่ไม่มีเพราะว่านายทักษิณมีอำนาจ ยิ่งใหญ่ เป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนได้ผลประโยชน์จากนายทักษิณหมด นี่คืออันตรายพี่น้อง นี่คืออันตราย ถ้าคนเราเห็นแก่ลาภยศ เห็นแก่อามิสสินจ้าง ทหารที่ควรจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ไม่ใช่เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตำรวจที่ควรจะเป็นตำรวจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ไม่เป็นตำรวจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ข้าราชการซึ่งควรจะเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ไม่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แม้แต่ศาลบางคน หรือแม้แต่พระบางองค์
พี่น้องเห็นหรือยัง แล้วสังคมไทยจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อมีการรุกคืบจากการจัดเข้าไปนั่งทำพิธีในวัดพระแก้ว ล่วงล้ำไปจนถึง การต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วมีคนเอาธงทรงพระเจริญมาโบกให้ดู รัฐบาลไม่ได้แก้ไข ไม่ได้ชี้แจง ไม่ได้หาทางยุติ รวมไปจนการจัดประชุม ครม.ที่ปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งเป็นเทวสถาน เปรียบเสมือนเจ้าเหนือหัว แล้วไปประชุมกันที่นั่น ไล่ไปเรื่อยๆ ตลอดจนเป็นคำพูดที่จาบจ้วง เมื่อมีการแต่งตั้งทหารแล้ว มีคนถามบอกว่า ถ้ายังไม่โปรดเกล้าฯ ลงมาแล้วจะมีปัญหาไหม ถึงกับมีคนพูด ซึ่งเป็นถึงอดีตพลเอก ที่เคยได้รับพระราชทานกระบี่แตะบ่า ออกมาบอกว่า ถ้านายกฯ เซ็นแล้วใครจะกล้าเปลี่ยน โดยไม่คำนึงถึงบทบาทพระองค์ท่าน ในฐานะที่เป็นจอมทัพ หรือการตั้งรักษาการพระสังฆราช เอาสมเด็จวัดสระเกศ สมเด็จเกี่ยว ซึ่งรองเจ้าอาวาสของท่าน วันนี้ก็ได้เผยโฉมออกมาชัดเจนแล้ว ว่าเป็นคนทำพิธีตัดกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมารักษาการสมเด็จพระสังฆราช ขณะที่สมเด็จพระสังฆราชยังมีชีวิตอยู่
พี่น้องครับ ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ ผู้นำทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นคริสต์ อิสลาม ผู้นำทางศาสนา ไม่ว่าจะบาดเจ็บ ไม่สบาย หรืออายุมากแค่ไหนก็ตาม แก่ขนาดไหนก็ตาม หากยังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ตั้งใครมารักษาการ หรือตั้งใครมาซ้อนเด็ดขาด แต่นี่ตั้งขึ้นมาในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหตุผลก็เพราะว่า คนบางคนอยากมีสังฆราชของตัวเอง เพราะสมเด็จญาณฯ เป็นสังฆราชของประเทศไทย สมเด็จญาณฯทรงเป็นพระพี่เลี้ยงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ เรื่องราวที่จาบจ้วง เรื่องราวที่ละเมิดพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน มีมาตลอดพี่น้อง จนกระทั่งปี 2548 ปลายปีที่ผมลุกขึ้นมาสู้ เพราะว่าผมทนไม่ได้ ที่ผมจำเป็นต้องสู้ เพราะผมเห็นว่า พวกนี้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ นั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกมาโต้แย้ง หรือแสดงความรู้สึกของพระองค์ท่านให้รู้ว่า เรื่องนี้ไม่ควรทำนะ มันไม่ดี เพราะพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ และเป็นราชินี พวกนี้ก็เลยถือโอกาส ฉวยโอกาสจากการที่พระองค์ท่านไม่สามารถจะพูด หรือแสดงออกได้กระทำการที่รุกคืบไปตลอด ประกอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีที่ปรึกษาที่เป็นฝ่ายซ้ายอยู่ในป่า ที่เจตนารมณ์ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เพราะฉะนั้นแล้วทิศทางทุกทิศทางของการบริหารประเทศ ของการประพฤติปฏิบัติ คือทิศทางของการที่พยายามที่จะลบหลู่พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ลบหลู่โดยตรง หรือจาบจ้วงทางอ้อม ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม กระซิบข้างๆหูผม แล้วผมจะลาออก ต่างๆเหล่านี้เป็นต้น
คนพวกนี้ไม่ได้ยุติขบวนการที่ล้มเจ้า ทุกคนมองว่าเจ้านี้เป็นคนที่ล้าหลัง ในขณะซึ่งผมมองว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเราเป็นคนที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก วันนี้กระบวนทัศน์ หรือ Concept ของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคำตอบของโลก เป็นแม้กระทั่งรางวัล ได้แม้กระทั่งรางวัลจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นกระบวนทัศน์ที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แล้วจะไม่เรียกว่าพระเจ้าอยู่หัวของเรา หรือเจ้าของเราทันสมัยที่สุดในโลกได้อย่างไร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่เคยเสด็จฯ ออกไปต่างประเทศ อยู่แต่ในประเทศไทย เป็นห่วงเป็นใยประชาชน มีเวลาก็ออกไปเยี่ยมชาวบ้าน ออกไปสอนชาวบ้าน สอนวิธีทำไร่ทำนา สอนเรื่องน้ำ สอนวิชาชีพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ สร้างศูนย์ศิลปาชีพ เอาช่างฝีมือทั่วประเทศไทย มารวมตัวเพื่อผลิตวัตถุต่างๆ ที่ต้องใช้งานฝีมือ กษัตริย์และราชินีของประเทศอื่นเขาไม่ทำกันอย่างนี้ มีแต่ของประเทศไทยทำ พระองค์ท่านทำมา 60 กว่าปี จากอายุยังไม่ทัน 20 จนกระทั่งพระองค์ท่านอายุเกือบ 80 เมื่อวัยมากขึ้น เรี่ยวแรงก็ถดถอย การออกไปข้างนอกของพระองค์ท่านนั้นก็ย่อมน้อยลงเป็นธรรมดา
นั่นคือช่วงของการซึ่งนักการเมืองเสียบเข้ามา แต่ถ้านักการเมืองเสียบเข้ามาแล้วเอานโยบายประชานิยมไป และอธิบายให้ประชาชนฟัง โดยใช้พระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว หรือว่าใช้ปรัชญาของพระองค์ท่านสอนให้ประชาชนรู้จักพอเพียง สอนให้ประชาชนรู้จักพึ่งตัวเอง ปัญหาก็ย่อมไม่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากนักการเมืองบางคมีความทะเยอทะยาน ตัวเองอยากจะสร้างราชวงศ์ของตัวเองขึ้นมา แล้วจะสร้างราชวงศ์ตัวเองขึ้นมาได้อย่างไรถ้าตัวเองไม่ล้มล้างราชวงศ์ที่มีอยู่ด้วยวิธีการต่างๆ และจะล้มล้างได้อย่างไรถ้าไม่เริ่มเอาเงิน เอาลาภ เอายศนั้นไปล่อ ไปซื้อ
พี่น้องผมเคยพูดเรื่องบางเรื่องให้ฟัง พี่น้องฟัง ท่านผู้ชมฟังแล้วก็เข้าใจ แต่พอผ่านไปสักพักก็ลืม ใครก็ตามที่ติดตามผมพูดอยู่ ต้องเข้าใจว่า ผมเคยบอกว่า ในอดีตนั้นเราเรียกข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพราะเป็นข้าราชการ ข้าราชการ แต่คนบางคนไม่ต้องการให้ข้าราชการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เปลี่ยนคำพูดว่า ข้าราชการ เป็น เจ้าหน้าที่รัฐ เขาทำทุกวิถีทาง รวมไปจนถึง จำได้ไหม เขาทำแม้กระทั่งแต่งเพลง พยายามเอาพรรคพวกเขาซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลง มาแต่งเพลงชาติซะใหม่ แต่เมื่อมีเสียงคัดค้านมากขึ้นเขาก็ถอย แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามตลอดเวลาที่จะจุดไฟเผาสถาบันกษัตริย์ ที่จะเลื่อยฐานของสถาบันกษัตริย์ให้ล่ม หรือที่จะสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ ด้วยทุกวิถีทาง แม้กระทั่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเนปาล ซึ่งกลุ่มมาร์กซิสต์ คอมมิวนิสต์มาร์กซิสต์ ได้โค่นล้มสถาบันกษัตริย์แล้วไล่กษัตริย์ออกจากวัง พวกนี้ พวกฝ่ายซ้ายทั้งหลายซึ่งอยู่เบื้องหลังที่ปรึกษาของนักการเมืองบางคน ถึงกลับกระดี้กระด๊าเอาประเทศไทยนั้นเดินตามตุ๊กตาของประเทศเนปาล บางคนถึงกับฝันเฟื่องว่า ในระยะเวลาไม่กี่ปีนี้สถาบันกษัตริย์ต้องล่มสลาย
ยุคไหนครับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นยุคที่มีเว็บไซต์ มีวิทยุชุมชนที่จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ ออกมาตลอดเวลา พูดจาอย่างไม่เกรงอกเกรงใจใคร จาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว จาบจ้วงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พี่น้องจำได้ ผมเคยพูดว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่อุดรธานี มีรูปพระองค์ท่านติดอยู่หน้าศาลากลาง ปรากฎว่ามีคนเอาสีไปสาดรูปพระองค์ท่าน พี่น้องเคยเห็นไหมเรื่องแบบนี้ นายกฯ ก็เฉย รัฐมนตรีก็เฉย ตำรวจก็เฉย เฉยกันหมดทุกคน ไม่รู้สึกอะไร เหมือนกับว่าพรุ่งนี้ถ้าสถาบันกษัตริย์ต้องล่มไปเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่อะไรที่ได้ประโยชน์จากการอ้างว่าผมจงรักภักดี ก็จะพูดทันทีว่า ผมจงรักภักดี แล้วพี่น้องครับ แล้วใครล่ะที่ลุกขึ้นมาสู้ให้พระเจ้าอยู่หัว ถ้าไม่ใช่พวกเรา ถ้าไม่ใช่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พวกเสื้อเหลือง ลุกขึ้นมาสู้ให้พระองค์ท่าน ทำไมถึงต้องลุกขึ้นมาสู้ให้พระองค์ท่าน เพราะว่าพระองค์ท่านไม่มีใครสู้ให้ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เอาหลักฐานให้ดูว่าทำไมถึงไม่มีใครสู้ให้ แล้วพวกที่เก่งแต่ปากว่าจงรักภักดี วันนี้ทำอะไรกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ เว็บไซต์ที่จาบจ้วงพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลดน้อยลงเลย มีแต่เพิ่มมากขึ้น
พี่น้องครับ ประเดี๋ยวพักกันสักครู่หนึ่งแล้วค่อยกลับมา ผมจะเล่าเรื่องนี้ต่อไป อย่าเพิ่งไปไหนครับ
วันนี้เป็นวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2552 วันนี้เป็นวันที่เราอยู่ในช่วงของรัฐบาลในระบอบประชาธิปัตย์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เป็นช่วงที่รัฐบาลเป็นมาประมาณ 7 - 8 เดือนแล้ว
ใน 7 - 8 เดือนที่ผ่านมานี้ สิ่งเราเห็นก็คือ การพยายามที่จะใช้ หรือทำให้ประเทศไทยมีหลักนิติรัฐให้ได้ แต่การพยายามเช่นนั้น ยังขาดซึ่งความกล้าหาญที่จะกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากท่านนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ผมจำเป็นที่จะต้องออกมาพูดในเรื่องนี้ที่ผมพยายามจะเก็บเนื้อเก็บตัว เนื่องจากว่าสุขภาพยังไม่หายดี 100 เปอร์เซ็นต์ ยังมีอาการเจ็บศีรษะ ปวดศีรษะเป็นบางครั้งบางคราว ต้องพักผ่อน แต่ผมจำเป็นต้องออกมาพูดวันนี้ และต้องพูดให้ได้วันนี้ รอไปพรุ่งนี้ก็รอไม่ไหว เพราะมันจะช้าเกินไป ทั้งที่มันก็ช้ามานานแล้ว ที่ผมต้องพูดวันนี้คือ เรื่องราวของภยันอันตรายที่รัฐบาลชุดนี้ และชุดก่อนๆ จะจงใจหรือเจตนา หรือว่าไม่เจตนาหรือไม่ได้ตั้งใจ หรือทำงานไม่เป็น กำลังปล่อยให้สถาบันพระมหากษัตริย์นั้นสั่นสะเทือน และถูกจาบจ้วง ถูกท้าทายอย่างชนิดที่ไม่เคยมีการท้าทายแบบไหนเกิดขึ้นมาเลยในประวัติศาสตร์ไทย ตั้งแต่ผมมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งถึง 62 ปีวันนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่หัวหิน ที่วังไกลกังวล มันมีนัยที่ลึกซึ้งมาก มีนัยซึ่งส่อให้เห็นถึงระบอบราชการที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือว่าเป็นเครื่องมือ หรือว่าจงใจที่จะเป็นส่วนร่วมในการสั่นคลอนทำลายระบอบสถาบันกษัตริย์
ท่านผู้ชมครับ ผมเป็นคนนิยมกษัตริย์รึเปล่า เป็นครับ ทำไมผมถึงนิยมกษัตริย์ เพราะผมเชื่อมั่น เชื่อว่าประเทศไทยและสังคมไทยนั้นขาดซึ่งสถาบันกษัตริย์ไม่ได้ ส่วนพระมหากษัตริย์นั้น แน่นอนที่สุด องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ เป็นมหาราชกษัตริย์ที่สุดยอด แต่ต่อจากพระองค์ท่านจะเป็นผู้ใดนั้น ถ้าเป็นกษัตริย์ผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนก็ยอมรับ เพราะพวกเรายอมกันว่า ประเทศไทยนั้นจำเป็นต้องมีสถาบันกษัตริย์ ส่วนกษัตริย์องค์ต่อๆ ไปนั้น อีกหลายๆ พระองค์นั้น จะเป็นกษัตริย์ที่ดีหรือไม่ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับที่ พระองค์ท่านจะมีทศพิธราชธรรมหรือไม่ และวันนั้นประชาชนจะต้องเป็นคนตัดสิน
บทบาทของสถาบันกษัตริย์นั้นจะเป็นบทบาทที่ปฏิรูปตัวเอง หรือพัฒนาตัวเองเพื่อให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยวิธีใดนั้น เป็นเรื่องราวที่จะต้องปล่อยให้ทำกัน และต้องปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ใช่พยายามมีกระบวนการมาทำลายล้างสถาบันกษัตริย์ สร้างความคิดที่ผิดๆให้กับประชาชน แล้วทำให้ประชาชนตกเป็นเครื่องมือของเงินของทอง เอาเงินเอาทองไปซื้อบัตรประชาชนมา แล้วมาลงชื่ออย่างกรณีการถวายฎีกาให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่บรรดาคนเสื้อแดงพยายามจะกระทำอยู่ ถ้าอย่างนี้แล้ว ผมถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่มีคนบุกเข้าไปถึงเขตพระราชฐานที่หัวหิน ไปเช่าสถานที่ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อมาถวายฎีกา เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นั้นให้พระราชทานอภัยโทษกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือปัจจุบันนี้ คือ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
ท่านผู้ชมครับ เราแบ่งแยกเรื่องออกเป็น 2 เรื่องให้เห็นชัดเจน เรื่องแรกนั้น การถวายฎีกานั้น วันนี้มีการประชุมสัมมนากันทางวิชาการของ คุณธงทอง จันทรางศุ ซึ่งคุณธงทอง ท่านคืออดีตคนซึ่งมากล่าวหาผม สมัยที่ผมทำรายการเมืองไทยรายสัปดาห์อยู่ที่ช่อง 9 หาว่าผมไปพูดถึงเรื่องสถาบันกษัตริย์ และเอาการเมืองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ดึงกษัตริย์ลงมาเล่นการเมือง
ท่านผู้ชมครับ ถ้าท่านผู้ชมติดตามการต่อสู้ของผมมาตั้งปี 2548 ผมพูดไว้ว่าอย่างไร ผมพูดว่าเราจะสู้เพื่อในหลวง ทำไมเราจะต้องสู้เพื่อในหลวง เพราะในหลวงถูกคนชั่ว คนที่รู้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไม่สามารถที่จะตอบโต้อะไรได้ พระองค์ท่านมีความรู้สึกอย่างไร พระองค์ท่านต้องเก็บ พระองค์ท่านโดนจาบจ้วงแบบไหนก็ตาม พระองค์ท่านต้องเก็บเงียบ เมื่อเก็บเงียบแล้วถ้าเรามีรัฐบาลที่ดี ถ้าเรามีนายกรัฐมนตรีที่จงรักภักดีจริง และถ้าเรามีข้าราชการที่จงรักภักดีจริงๆ พระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็คงจะไม่ช้ำพระทัย เหมือนที่พระองค์ท่านช้ำพระทัยอยู่ในทุกวันนี้
พ่อแม่พี่น้องครับ ท่านผู้ชม การเป็นกษัตริย์นั้น ขัตติยะของพระองค์ท่านนั้นต้องรักประชาชนเท่าเทียมกันหมด ไม่มีแบ่ง พระองค์ท่านไม่แบ่งหรอก เสืเหลือง หรือเสื้อแดง พระองค์ท่านไม่เคยแบ่งใครเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะทุกคนเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน แต่คนที่เริ่มมาแบ่งนั้น เริ่มแบ่งจากสมัยรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ.2544 เป็นต้นมา พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากทฤษฎีทางการเมือง และเหตุผลทางการเมืองที่ต้องการมีเสียงข้างมาก ก็เลยใช้นโยบายประชานิยมลงไปสู่รากหญ้า เอาเงินเอาทองไปซื้อชาวบ้าน ในขณะซึ่งในหลวง พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ เอาน้ำพระทัยและความจริงใจไปช่วยประชาชน เมื่อประชาชนบางส่วนซึ่งด้อยปัญญา ซึ่งขาดซึ่งความรู้ ถูกซื้อด้วยเงิน ถูกซื้อด้วยนโยบายเรียนฟรี ถูกซื้อด้วยนโยบาย 1, 2, 3, 4 โดยเอาเงินภาษีอากรของรัฐไปแจก พี่น้องครับ เพียงเพื่อหวังให้ประชาชนนั้นมาเลือกตัวเอง เลือกพรรคตัวเอง แต่ในกระบวนการที่ทำเพื่อให้ประชาชนเข้ามาเลือกตัวเอง หรือเลือกพรรคตัวเองนั้น เป็นกระบวนการที่แอบแฝงไปในการแสดงให้ประชาชนเห็นว่า ตัวเองนั้นคือคนซึ่งรักประชาชน เห็นไหม พรรคการเมืองพรรคนี้เอาของไปให้ประชาชน เอาเงินไปให้ประชาชน เอาปลาไปให้ประชาชนกิน แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ท่านทรงไปสอนประชาชนให้รู้จักตกปลา การแบ่งแยกประชาชนให้เข้าใจผิด ให้หลงคิดว่านักการเมืองนั้นคือคนซึ่งมีบุญคุณต่อประชาชน มีบุญคุณมากกว่าพระเจ้าอยู่หัว
ก็เลยเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2544 พออำนาจวาสนามีมากขึ้น มีเสียงข้างมากมากขึ้น ก็เลยเถิดไปทำอะไรก็ตามที่เป็นการละเมิดประเพณี ซึ่งเขาไม่ทำกัน พี่น้องยังจำเรื่องแรกได้ไหม ที่ผมพูดที่ช่อง 9 อสมท ในยุคที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นผู้อำนวยการ ในยุคที่นายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานกรรมการบริหาร แล้วในยุคที่ อดีตอัยการสูงสุดคนหนึ่ง เป็นประธานกรรมการ ผมได้เอาเรื่องของการเข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาชี้ให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่บังควร ไม่เคยมีใครเขาทำกันมาก่อน ปรากฎว่าผมโดนโจมตีหนัก ทั้งนักวิชาการที่มีความรู้ ที่อ้างว่าใกล้ชิดกับวัง หรือตลอดจนทหารบางคน ถึงกับตบเท้าส่งลูกน้องมาที่ที่ทำงานผม มาข่มขู่ผม บอร์ด อสมท โดยผ่านประธาน โดยผ่านนายธงทอง จันทรางศุ ผ่านนายมิ่งขวัญ ปลดรายการผมออกไป แล้วกล่าวหาผมมาตลอดเวลาว่าผมดึงพระเจ้าอยู่หัวมาเล่นการเมือง
พ่อแม่พี่น้องครับ จุดนั้นเป็นจุดเปลี่ยนของสังคมไทยจุดแรก แล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนของการต่อสู้ของผม ผมมามองรอบตัวผมแล้ว ผมบอกว่า ผมเป็นข้าของแผ่นดิน ถึงแม้ผมจะเป็นลูกเจ๊กลูกจีน แต่ทำไมนายทักษิณ ชินวัตร ไปทำพิธีอยู่ในวัดพระแก้ว แล้วไม่มีใครกล้าพูด ทำไม ทำไมไม่มีปราชญ์ของแผ่นดินออกมาพูด ทำไมไม่มีนักวิชาการออกมาขวาง ทำไมไม่มีคอลัมนิสต์ สื่อมวลชนออกมาเตือนสตินายทักษิณ ที่ไม่มีเพราะว่านายทักษิณมีอำนาจ ยิ่งใหญ่ เป็นนายกรัฐมนตรี ทุกคนได้ผลประโยชน์จากนายทักษิณหมด นี่คืออันตรายพี่น้อง นี่คืออันตราย ถ้าคนเราเห็นแก่ลาภยศ เห็นแก่อามิสสินจ้าง ทหารที่ควรจะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ไม่ใช่เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตำรวจที่ควรจะเป็นตำรวจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ไม่เป็นตำรวจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ข้าราชการซึ่งควรจะเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็ไม่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แม้แต่ศาลบางคน หรือแม้แต่พระบางองค์
พี่น้องเห็นหรือยัง แล้วสังคมไทยจะอยู่ได้อย่างไร เมื่อมีการรุกคืบจากการจัดเข้าไปนั่งทำพิธีในวัดพระแก้ว ล่วงล้ำไปจนถึง การต้อนรับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วมีคนเอาธงทรงพระเจริญมาโบกให้ดู รัฐบาลไม่ได้แก้ไข ไม่ได้ชี้แจง ไม่ได้หาทางยุติ รวมไปจนการจัดประชุม ครม.ที่ปราสาทพนมรุ้ง ซึ่งเป็นเทวสถาน เปรียบเสมือนเจ้าเหนือหัว แล้วไปประชุมกันที่นั่น ไล่ไปเรื่อยๆ ตลอดจนเป็นคำพูดที่จาบจ้วง เมื่อมีการแต่งตั้งทหารแล้ว มีคนถามบอกว่า ถ้ายังไม่โปรดเกล้าฯ ลงมาแล้วจะมีปัญหาไหม ถึงกับมีคนพูด ซึ่งเป็นถึงอดีตพลเอก ที่เคยได้รับพระราชทานกระบี่แตะบ่า ออกมาบอกว่า ถ้านายกฯ เซ็นแล้วใครจะกล้าเปลี่ยน โดยไม่คำนึงถึงบทบาทพระองค์ท่าน ในฐานะที่เป็นจอมทัพ หรือการตั้งรักษาการพระสังฆราช เอาสมเด็จวัดสระเกศ สมเด็จเกี่ยว ซึ่งรองเจ้าอาวาสของท่าน วันนี้ก็ได้เผยโฉมออกมาชัดเจนแล้ว ว่าเป็นคนทำพิธีตัดกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นมารักษาการสมเด็จพระสังฆราช ขณะที่สมเด็จพระสังฆราชยังมีชีวิตอยู่
พี่น้องครับ ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ ผู้นำทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นคริสต์ อิสลาม ผู้นำทางศาสนา ไม่ว่าจะบาดเจ็บ ไม่สบาย หรืออายุมากแค่ไหนก็ตาม แก่ขนาดไหนก็ตาม หากยังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ตั้งใครมารักษาการ หรือตั้งใครมาซ้อนเด็ดขาด แต่นี่ตั้งขึ้นมาในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหตุผลก็เพราะว่า คนบางคนอยากมีสังฆราชของตัวเอง เพราะสมเด็จญาณฯ เป็นสังฆราชของประเทศไทย สมเด็จญาณฯทรงเป็นพระพี่เลี้ยงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ เรื่องราวที่จาบจ้วง เรื่องราวที่ละเมิดพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน มีมาตลอดพี่น้อง จนกระทั่งปี 2548 ปลายปีที่ผมลุกขึ้นมาสู้ เพราะว่าผมทนไม่ได้ ที่ผมจำเป็นต้องสู้ เพราะผมเห็นว่า พวกนี้เห็นว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ นั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกมาโต้แย้ง หรือแสดงความรู้สึกของพระองค์ท่านให้รู้ว่า เรื่องนี้ไม่ควรทำนะ มันไม่ดี เพราะพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ และเป็นราชินี พวกนี้ก็เลยถือโอกาส ฉวยโอกาสจากการที่พระองค์ท่านไม่สามารถจะพูด หรือแสดงออกได้กระทำการที่รุกคืบไปตลอด ประกอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีที่ปรึกษาที่เป็นฝ่ายซ้ายอยู่ในป่า ที่เจตนารมณ์ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ เพราะฉะนั้นแล้วทิศทางทุกทิศทางของการบริหารประเทศ ของการประพฤติปฏิบัติ คือทิศทางของการที่พยายามที่จะลบหลู่พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ลบหลู่โดยตรง หรือจาบจ้วงทางอ้อม ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม กระซิบข้างๆหูผม แล้วผมจะลาออก ต่างๆเหล่านี้เป็นต้น
คนพวกนี้ไม่ได้ยุติขบวนการที่ล้มเจ้า ทุกคนมองว่าเจ้านี้เป็นคนที่ล้าหลัง ในขณะซึ่งผมมองว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเราเป็นคนที่ทันสมัยมากที่สุดในโลก วันนี้กระบวนทัศน์ หรือ Concept ของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นคำตอบของโลก เป็นแม้กระทั่งรางวัล ได้แม้กระทั่งรางวัลจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นกระบวนทัศน์ที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แล้วจะไม่เรียกว่าพระเจ้าอยู่หัวของเรา หรือเจ้าของเราทันสมัยที่สุดในโลกได้อย่างไร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่เคยเสด็จฯ ออกไปต่างประเทศ อยู่แต่ในประเทศไทย เป็นห่วงเป็นใยประชาชน มีเวลาก็ออกไปเยี่ยมชาวบ้าน ออกไปสอนชาวบ้าน สอนวิธีทำไร่ทำนา สอนเรื่องน้ำ สอนวิชาชีพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ สร้างศูนย์ศิลปาชีพ เอาช่างฝีมือทั่วประเทศไทย มารวมตัวเพื่อผลิตวัตถุต่างๆ ที่ต้องใช้งานฝีมือ กษัตริย์และราชินีของประเทศอื่นเขาไม่ทำกันอย่างนี้ มีแต่ของประเทศไทยทำ พระองค์ท่านทำมา 60 กว่าปี จากอายุยังไม่ทัน 20 จนกระทั่งพระองค์ท่านอายุเกือบ 80 เมื่อวัยมากขึ้น เรี่ยวแรงก็ถดถอย การออกไปข้างนอกของพระองค์ท่านนั้นก็ย่อมน้อยลงเป็นธรรมดา
นั่นคือช่วงของการซึ่งนักการเมืองเสียบเข้ามา แต่ถ้านักการเมืองเสียบเข้ามาแล้วเอานโยบายประชานิยมไป และอธิบายให้ประชาชนฟัง โดยใช้พระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว หรือว่าใช้ปรัชญาของพระองค์ท่านสอนให้ประชาชนรู้จักพอเพียง สอนให้ประชาชนรู้จักพึ่งตัวเอง ปัญหาก็ย่อมไม่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากนักการเมืองบางคมีความทะเยอทะยาน ตัวเองอยากจะสร้างราชวงศ์ของตัวเองขึ้นมา แล้วจะสร้างราชวงศ์ตัวเองขึ้นมาได้อย่างไรถ้าตัวเองไม่ล้มล้างราชวงศ์ที่มีอยู่ด้วยวิธีการต่างๆ และจะล้มล้างได้อย่างไรถ้าไม่เริ่มเอาเงิน เอาลาภ เอายศนั้นไปล่อ ไปซื้อ
พี่น้องผมเคยพูดเรื่องบางเรื่องให้ฟัง พี่น้องฟัง ท่านผู้ชมฟังแล้วก็เข้าใจ แต่พอผ่านไปสักพักก็ลืม ใครก็ตามที่ติดตามผมพูดอยู่ ต้องเข้าใจว่า ผมเคยบอกว่า ในอดีตนั้นเราเรียกข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพราะเป็นข้าราชการ ข้าราชการ แต่คนบางคนไม่ต้องการให้ข้าราชการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เปลี่ยนคำพูดว่า ข้าราชการ เป็น เจ้าหน้าที่รัฐ เขาทำทุกวิถีทาง รวมไปจนถึง จำได้ไหม เขาทำแม้กระทั่งแต่งเพลง พยายามเอาพรรคพวกเขาซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลง มาแต่งเพลงชาติซะใหม่ แต่เมื่อมีเสียงคัดค้านมากขึ้นเขาก็ถอย แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามตลอดเวลาที่จะจุดไฟเผาสถาบันกษัตริย์ ที่จะเลื่อยฐานของสถาบันกษัตริย์ให้ล่ม หรือที่จะสั่นคลอนสถาบันกษัตริย์ ด้วยทุกวิถีทาง แม้กระทั่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเนปาล ซึ่งกลุ่มมาร์กซิสต์ คอมมิวนิสต์มาร์กซิสต์ ได้โค่นล้มสถาบันกษัตริย์แล้วไล่กษัตริย์ออกจากวัง พวกนี้ พวกฝ่ายซ้ายทั้งหลายซึ่งอยู่เบื้องหลังที่ปรึกษาของนักการเมืองบางคน ถึงกลับกระดี้กระด๊าเอาประเทศไทยนั้นเดินตามตุ๊กตาของประเทศเนปาล บางคนถึงกับฝันเฟื่องว่า ในระยะเวลาไม่กี่ปีนี้สถาบันกษัตริย์ต้องล่มสลาย
ยุคไหนครับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นยุคที่มีเว็บไซต์ มีวิทยุชุมชนที่จาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ ออกมาตลอดเวลา พูดจาอย่างไม่เกรงอกเกรงใจใคร จาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว จาบจ้วงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พี่น้องจำได้ ผมเคยพูดว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่อุดรธานี มีรูปพระองค์ท่านติดอยู่หน้าศาลากลาง ปรากฎว่ามีคนเอาสีไปสาดรูปพระองค์ท่าน พี่น้องเคยเห็นไหมเรื่องแบบนี้ นายกฯ ก็เฉย รัฐมนตรีก็เฉย ตำรวจก็เฉย เฉยกันหมดทุกคน ไม่รู้สึกอะไร เหมือนกับว่าพรุ่งนี้ถ้าสถาบันกษัตริย์ต้องล่มไปเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แต่อะไรที่ได้ประโยชน์จากการอ้างว่าผมจงรักภักดี ก็จะพูดทันทีว่า ผมจงรักภักดี แล้วพี่น้องครับ แล้วใครล่ะที่ลุกขึ้นมาสู้ให้พระเจ้าอยู่หัว ถ้าไม่ใช่พวกเรา ถ้าไม่ใช่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พวกเสื้อเหลือง ลุกขึ้นมาสู้ให้พระองค์ท่าน ทำไมถึงต้องลุกขึ้นมาสู้ให้พระองค์ท่าน เพราะว่าพระองค์ท่านไม่มีใครสู้ให้ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เอาหลักฐานให้ดูว่าทำไมถึงไม่มีใครสู้ให้ แล้วพวกที่เก่งแต่ปากว่าจงรักภักดี วันนี้ทำอะไรกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ เว็บไซต์ที่จาบจ้วงพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลดน้อยลงเลย มีแต่เพิ่มมากขึ้น
พี่น้องครับ ประเดี๋ยวพักกันสักครู่หนึ่งแล้วค่อยกลับมา ผมจะเล่าเรื่องนี้ต่อไป อย่าเพิ่งไปไหนครับ