ASTVผู้จัดการรายวัน –“อภิสิทธิ์” สั่งทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งปะการังเทียมในภาคใต้ การพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพสูงสุด พร้อมสานต่อโครงการศิลปาชีพเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจที่อิงวัฒนธรรม ด้าน ก.วัฒนธรรมประกาศให้วิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศจัดแสดงโขนให้ประชาชนได้รับชม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เร่งรัดติดตามโครงการหลายโครงการ เช่น เรื่องปะการังเทียม ซึ่งได้มอบให้นาย ธีระ วงษ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม พิจารณาการทำเพิ่มเติมตามแนวชายฝั่งที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะรัฐมนตรีทั้งสองได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว
สำหรับเรื่องพันธุ์ข้าวซึ่งรัฐบาลต้องเร่งรัด เพราะจากระบบการแทรกแซงแซงราคาข้าวระบบใหม่ หวังว่าจะนำไปสู่การปรับปรุงไปสู่การปลูกข้าวที่มี คุณภาพสูงขึ้น เพราะระบบจำนำเดิมจูงใจให้เกษตรกรไปปลูกข้าวที่มีคุณภาพต่ำลง ปลูกได้หลายรอบ เพราะได้ประโยชน์จากการนำไปจำนำ
"หัวใจสำคัญที่สุดคือเรื่องการให้โอกาสคนที่พระองค์ท่านรับสั่งการที่มีโครงการศิลปาชีพเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เมื่อคนที่ไม่มีการศึกษาหรือมาจากครอบครัวที่ยากจนได้รับโอกาสจริงสามารถ พัฒนาขึ้นไปสู่ระดับโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาต้องนำไปประกอบในแนวทางเศรษฐกิจที่มีคิดสร้าง สรรค์ที่อิงกับเรื่องทุนทางวัฒนธรรม"นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อปลูกข้าวโดยมีนอมินี ที่เป็นคนไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วจะเป็นประเทศที่มีกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ก็จะมาหาที่ดินไม่ ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่จุดยืนของไทยรัฐบาลไม่อนุญาตให้ดำเนินการได้ และรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎหมาย สิ่งที่เราจะช่วยได้คือ สามารถเข้ามาร่วมทุนในกิจการตามกฎหมาย เช่น เรื่องของการแปรรูป หรือเข้ามามีหุ้นส่วนซึ่งฝ่ายไทยต้องมีหุ้นข้างมาก หรือเป็นการทำสัญญาซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร และเราอยากให้มีอยู่เพราะต้องการส่งออก อย่างบาห์เรน เราได้พูดชัดเจนไม่ต้องห่วงว่าเราจะไม่ขายให้ แต่ที่จะมาซื้อที่ดินเช่าที่ดิน เราไม่อนุญาต หรือใช้เป็นนอมินีก็ผิดกฎหมาย ขณะนี้รัฐบาลติดตามเรื่องนี้อยู่ ข่าวออกมาจากประเทศใดนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ จะเดินทางไปชี้แจงอยู่แล้ว แต่ขณะนี้เป็นแต่ข่าว ถ้ามีการร้องเรียนไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
**วธ.จัดแสดงโขน 4 ภูมิภาค
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวถึงพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงฝากคนไทยให้ช่วยอนุรักษ์โขนว่า ในฐานะที่วธ.เป็นหน่วยงานอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งมีกรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์(สบศ.) ซึ่งทำหน้าที่สืบสานมรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะการแสดงโขนนั้น วธ.จะสนองพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยจะมอบหมายให้กรมศิลปากร และสบศ. ซึ่งมีวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศทำหน้าที่เผยแพร่โขนให้ประชาชนได้ชมและได้เรียนรู้ว่า โขนมีความเป็นมาอย่างไร โดยจะให้วิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศ จัดการแสดงโขน ให้คนในท้องถิ่นต่างๆได้ชมอย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนกรมศิลปากรจะช่วยให้ความรู้และจัดแสดงโขนในส่วนกลางที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อให้คนได้ชมโขน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติอีกด้วย
**พสกนิกรลงนามถวายพระพร
ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวัง เปิดให้ลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีบุคคลสำคัญและประชาชนเดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา และนพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดา นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ได้แก่ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนช่วงเช้า เมื่อเวลา 07.00 น. ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ และประชาชน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 278 รูป และพระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ซึ่งมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ร่วมกับกรุงเทพมหานครจัดขึ้น เพื่อเป็นสิริมงคลถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ
ขณะที่ตามจังหวัดต่างๆ ก็มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทั่วประเทศ โดยมีข้าราชการและประชาชนร่วมงานจำนวนมาก
**ใส่เสื้อสีฟ้าจุดเทียนชัยถวายพระพร
สำหรับบรรยากาศ ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าต่อเนื่องถนนราชดำเนินนอกตลอดสาย ซึ่งมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและการแสดงมหรสพเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจากใน กทม.และต่างจัดหวัดเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานต่างสวมเสื้อสีฟ้าด้วยกันทั้งสิ้น
เวลาประมาณ 19.30 น.ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายราชสดุดี และนำประชาชนทุกหมู่เหล่ากล่าวถวายพระพรชัยมงคล
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เร่งรัดติดตามโครงการหลายโครงการ เช่น เรื่องปะการังเทียม ซึ่งได้มอบให้นาย ธีระ วงษ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม พิจารณาการทำเพิ่มเติมตามแนวชายฝั่งที่ภาคใต้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะรัฐมนตรีทั้งสองได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้ว
สำหรับเรื่องพันธุ์ข้าวซึ่งรัฐบาลต้องเร่งรัด เพราะจากระบบการแทรกแซงแซงราคาข้าวระบบใหม่ หวังว่าจะนำไปสู่การปรับปรุงไปสู่การปลูกข้าวที่มี คุณภาพสูงขึ้น เพราะระบบจำนำเดิมจูงใจให้เกษตรกรไปปลูกข้าวที่มีคุณภาพต่ำลง ปลูกได้หลายรอบ เพราะได้ประโยชน์จากการนำไปจำนำ
"หัวใจสำคัญที่สุดคือเรื่องการให้โอกาสคนที่พระองค์ท่านรับสั่งการที่มีโครงการศิลปาชีพเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เมื่อคนที่ไม่มีการศึกษาหรือมาจากครอบครัวที่ยากจนได้รับโอกาสจริงสามารถ พัฒนาขึ้นไปสู่ระดับโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาต้องนำไปประกอบในแนวทางเศรษฐกิจที่มีคิดสร้าง สรรค์ที่อิงกับเรื่องทุนทางวัฒนธรรม"นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อปลูกข้าวโดยมีนอมินี ที่เป็นคนไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วจะเป็นประเทศที่มีกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ก็จะมาหาที่ดินไม่ ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่จุดยืนของไทยรัฐบาลไม่อนุญาตให้ดำเนินการได้ และรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงในเรื่องของกฎหมาย สิ่งที่เราจะช่วยได้คือ สามารถเข้ามาร่วมทุนในกิจการตามกฎหมาย เช่น เรื่องของการแปรรูป หรือเข้ามามีหุ้นส่วนซึ่งฝ่ายไทยต้องมีหุ้นข้างมาก หรือเป็นการทำสัญญาซื้อขายผลผลิตทางการเกษตร และเราอยากให้มีอยู่เพราะต้องการส่งออก อย่างบาห์เรน เราได้พูดชัดเจนไม่ต้องห่วงว่าเราจะไม่ขายให้ แต่ที่จะมาซื้อที่ดินเช่าที่ดิน เราไม่อนุญาต หรือใช้เป็นนอมินีก็ผิดกฎหมาย ขณะนี้รัฐบาลติดตามเรื่องนี้อยู่ ข่าวออกมาจากประเทศใดนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ จะเดินทางไปชี้แจงอยู่แล้ว แต่ขณะนี้เป็นแต่ข่าว ถ้ามีการร้องเรียนไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
**วธ.จัดแสดงโขน 4 ภูมิภาค
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวถึงพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงฝากคนไทยให้ช่วยอนุรักษ์โขนว่า ในฐานะที่วธ.เป็นหน่วยงานอนุรักษ์ ฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งมีกรมศิลปากร และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์(สบศ.) ซึ่งทำหน้าที่สืบสานมรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะการแสดงโขนนั้น วธ.จะสนองพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ โดยจะมอบหมายให้กรมศิลปากร และสบศ. ซึ่งมีวิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศทำหน้าที่เผยแพร่โขนให้ประชาชนได้ชมและได้เรียนรู้ว่า โขนมีความเป็นมาอย่างไร โดยจะให้วิทยาลัยนาฏศิลป์ทั่วประเทศ จัดการแสดงโขน ให้คนในท้องถิ่นต่างๆได้ชมอย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนกรมศิลปากรจะช่วยให้ความรู้และจัดแสดงโขนในส่วนกลางที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อให้คนได้ชมโขน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติอีกด้วย
**พสกนิกรลงนามถวายพระพร
ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำนักพระราชวัง เปิดให้ลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีบุคคลสำคัญและประชาชนเดินทางมาลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา และนพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ บิดา นายสุเทพ เทือกสุบรรณรองนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ ได้แก่ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนช่วงเช้า เมื่อเวลา 07.00 น. ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ และประชาชน ทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 278 รูป และพระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ซึ่งมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ร่วมกับกรุงเทพมหานครจัดขึ้น เพื่อเป็นสิริมงคลถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ บรมราชินีนาถ
ขณะที่ตามจังหวัดต่างๆ ก็มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทั่วประเทศ โดยมีข้าราชการและประชาชนร่วมงานจำนวนมาก
**ใส่เสื้อสีฟ้าจุดเทียนชัยถวายพระพร
สำหรับบรรยากาศ ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าต่อเนื่องถนนราชดำเนินนอกตลอดสาย ซึ่งมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติและการแสดงมหรสพเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนจากใน กทม.และต่างจัดหวัดเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานต่างสวมเสื้อสีฟ้าด้วยกันทั้งสิ้น
เวลาประมาณ 19.30 น.ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายราชสดุดี และนำประชาชนทุกหมู่เหล่ากล่าวถวายพระพรชัยมงคล
