xs
xsm
sm
md
lg

ยันรัฐต้องจำกัดถือครองที่ดิน 50 ไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(7 มี.ค.)คณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “การจัดเพดานถือครองที่ดินและนิติบุคคล” โดยมีใจความว่า จากกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และสังคม แสดงความเป็นห่วงถึงข้อเสนอของครป.ที่ให้จำกัดการถือครองที่ดินไม่เกิน 50 ไร่นั้น ครป.ขออธิบายว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ที่ถือครองที่ดินทุกกลุ่มถือครองและใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรอย่างแท้จริง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดแรงจูงใจในการผลิต การเพิ่มผลผลิตและลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเกษตรกรรายย่อย-รายใหญ่และกลุ่มธุรกิจการเกษตร ให้มีความสามารถในการแข่งขัน โดยไม่มีจุดประสงค์ที่จะทำให้บุคคลหรือองค์กรกลุ่มใดได้รับความเสียหาย
เห็นว่าการถือครองที่ดินขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่ได้บ่งชี้ถึงผลิตภาพทางการเกษตรและไม่ได้บ่งชี้ว่าประเทศจะขาดแคลนผลิตผลการเกษตรเพื่อส่งออกหรือไม่ แต่มองว่าการสร้างความเข้มแข็งและความสามารถของเกษตรกรและภาคธุรกิจจะนำไปสู่การเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหารและความมั่งคั่งของประเทศในอนาคต ดังนั้นจึงควรกระจายการถือครองที่ดินให้กับผู้ที่ทำการเกษตรด้วยตนเองอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเกษตรทั้งระบบอย่างครบวงจรให้ประสบความสำเร็จ โดยการจำกัดเพดานการถือครองที่ดินนี้ควรทำให้เป็นมาตรฐานเดียวและไม่เลือกปฏิบัติ ครอบคลุมนิติบุคคล องค์กร บริษัทขนาดเล็กขนาดใหญ่ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มิฉะนั้นจะเป็นช่องว่างให้มีการหลบเลี่ยงและจะทำให้การปฏิรูปที่ดินไม่ได้ผลการ
สำหรับการทำการเกษตรขนาดใหญ่ในรูปสหกรณ์หรือบริษัทก็ยังสามารถทำและพัฒนาได้ เพียงแต่จะต้องเสียภาษีในอัตราก้าวหน้า ตามที่คปร.เสนอหรือควรปรับปรุงวิธีการจัดการใหม่แทนที่จะถือครองที่ดินจำนวนมากแล้วใช้วิธีจ้างเกษตรกรเป็นลูกจ้างแล้วจ่ายค่าแรงราคาถูก ก็ปรับมาเป็นการกระจายที่ดินให้เกษตรกรรายย่อยในท้องถิ่นเป็นผู้ถือครองที่ดิน แล้วบริษัทควรใช้หลักธุรกิจในการบริหารจัดการให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันและเสนอแผนการผลิตการตลาดที่จูงใจเกษตรกรทำการผลิต ทำสัญญาว่าจ้างที่เป็นธรรมและไม่เอารัดเอาเปรียบ ซึ่งจะทำให้ได้ผลตอบแทนจากการผลิตและการตลาดที่เป็นธรรม ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้ทั้งบริษัทและเกษตรกรรายย่อยเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน รับภาระความเสี่ยงทัดเทียมกันและช่วยกันแก้ไขปัญหาอุปสรรค รวมถึงโตก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความสามารถ แต่ไม่ใช่ร่ำรวย เพราะมีอำนาจเหนือผู้อื่นและใช้อำนาจนั้นอย่างไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้เชื่อว่าเกณฑ์นี้จะทำให้เกษตรกรรายย่อยและรายใหญ่เติบโตได้อย่างไม่เอารัดเอาเปรียบกัน โดยเกษตรกรรายใหญ่หรือบริษัทขนาดใหญ่ไม่สามารถใช้อำนาจทุนและอำนาจรัฐที่เหนือกว่าในการจัดสรรทรัพยากรและอยู่เหนืออำนาจตลาด ส่วนเกษตรกรรายย่อยก็มีอำนาจต่อรอง เพราะเป็นเจ้าของที่ดิน ต่างจากสภาพนายจ้าง-ลูกจ้างในไร่นาดังที่เคยเป็น.
กำลังโหลดความคิดเห็น