ASTVผู้จัดการรายวัน – "รมช.คลัง" ค้านลดภาษีหนุนรถยนต์ อี 85 ระบุยังไม่พร้อมทั้งรถยนต์และน้ำมัน แต่รับข้อเสนอเอกชนยกเว้นภาษีธุรกิจสปา หวังช่วยจ้างงานหนุนท่องเที่ยว แย้มสรรพสามิตกำลังศึกษาลดภาษีแอร์ที่เป็นสินค้าจำเป็นไปแล้ว
น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การพิจารณาจัดทำแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมยายนต์ของไทยใหม่ที่มีการประชุมร่วมในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมมีแนวคิดให้รัฐบาลสนับสนุนรถยนต์ประหยัดพลังงานประเภท E85 มากกว่ารถยนต์ประหยัดพลังงานประเภทอื่นที่มีการพัฒนาระบบในปัจจุบัน
โดยข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ได้ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดภาษีลงมาในระดับต่ำกว่า จากที่ผ่านมารัฐบาลก่อนหน้านี้มีการประกาศสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์อีโคคาร์ไปแล้ว ทำให้เกรงว่านักลงทุนจะสับสนจึงให้สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาข้อสรุปความชัดเจนอีกว่าทิศทางในอนาคตควรเป็นอย่างไร
“โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าการสนับสนุนรถยนต์อี 85 นั้น อาจจะไม่เหมาะสมกับประเทศไทยเพราะขณะนี้ยังไม่มีการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ในประเทศต้องนำเข้าเพียงอย่างเดียว รวมทั้งแม้จะเริ่มมีการนำเข้ารถยนต์ประเภทนี้เข้ามาบ้างแต่ก็มีจำนวนน้อย อีกทั้งสถานีบริการน้ำมันที่สามารถให้บริการน้ำมันเบนซินอี 85 ก็ยังไม่มีการจำหน่ายน้ำมันอี 85 เป็นการทั่วไป จึงอาจไมได้รับความนิยมจากประชาชน” น.พ.พฤฒิชัยกล่าว
นอกจากนี้ในส่วนของภาษีประเภทอื่นได้มอบหมายให้กรมสรรสามิตพิจารณาทบทวนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสถานบริการประเภทธุรกิจสปา ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 10% เทียบเท่ากับสถานบริการ อาบน้ำ นวดตัว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการร้องเรียนเข้ามามากว่าสปาเป็นธุรกิจเพื่อสุขภาพควรจะได้รับการสนับสนุนและยังเกี่ยวข้องกับการจ้างงานจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเข้ามาพักผ่อนและใช้บริการสปาของไทย จึงเห็นว่าควรยกเว้นภาษีให้
“เห็นว่าที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีดังกล่าวไม่ได้มีเม็ดเงินมากนักแค่หลักร้อยล้านบาทเท่านั้น ขณะที่มีผู้ปรกอบการคนไทยที่เป็นเข้าของธุรกิจสปาได้รับความเดือดร้อนนับพันแห่ง และมีการจ้างงานเป็นหมื่นคน” รมช.คลังกล่าวและว่า อย่างไรก็ตามการยกเว้นภาษีให้ธุรกิจสปาอาจต้องมีการกำหนดให้ชัดเจน เพราะก่อนหน้านี้กรมสรรพสามิตตีความว่าสปาเข้าข่ายสถานบริการ เนื่องจากมีอ่างอาบน้ำ และบริเวณที่มีการอาบน้ำใยการประกอบกิจกรรม ซึ่งคล้ายกับสถานอาบอบนวด ดังนั้นหากสถานอาบอบนวดใดมีบริการสปา ควรแยกบริการทั้ง 2 ออกจากกัน หรือ กรณีที่อ้างว่าทำสปาแต่มีการขายบริการอาบอบนวดแฝงก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะกรณีของสถานบริการอาบอบนวดนั้นยังต้องเก็บภาษีตามปกติ
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากกรมสรรพสามิตพบว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบธุรกิจสปาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 1 พันแห่ง มีผู้ประกอบการสปาที่เข้าระบบการจัดเก็บภาษีประมาณ 20% หรือกว่า 200 รายและกรมสรรสามิตจัดเก็บภาษีได้ประมาณปีละ 90-100 ล้านบาท
เช่นกัน ภาษีเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาอยู่เช่นเดียวกัน โดยอาจจะมีการยกเว้นเช่นเดียวกันเพราะแอร์ถือเป็นสินค้าจำเป็นในปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีต.
น.พ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การพิจารณาจัดทำแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมยายนต์ของไทยใหม่ที่มีการประชุมร่วมในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากกระทรวงอุตสาหกรรมมีแนวคิดให้รัฐบาลสนับสนุนรถยนต์ประหยัดพลังงานประเภท E85 มากกว่ารถยนต์ประหยัดพลังงานประเภทอื่นที่มีการพัฒนาระบบในปัจจุบัน
โดยข้อเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ได้ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดภาษีลงมาในระดับต่ำกว่า จากที่ผ่านมารัฐบาลก่อนหน้านี้มีการประกาศสนับสนุนการลงทุนผลิตรถยนต์อีโคคาร์ไปแล้ว ทำให้เกรงว่านักลงทุนจะสับสนจึงให้สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาข้อสรุปความชัดเจนอีกว่าทิศทางในอนาคตควรเป็นอย่างไร
“โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าการสนับสนุนรถยนต์อี 85 นั้น อาจจะไม่เหมาะสมกับประเทศไทยเพราะขณะนี้ยังไม่มีการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ในประเทศต้องนำเข้าเพียงอย่างเดียว รวมทั้งแม้จะเริ่มมีการนำเข้ารถยนต์ประเภทนี้เข้ามาบ้างแต่ก็มีจำนวนน้อย อีกทั้งสถานีบริการน้ำมันที่สามารถให้บริการน้ำมันเบนซินอี 85 ก็ยังไม่มีการจำหน่ายน้ำมันอี 85 เป็นการทั่วไป จึงอาจไมได้รับความนิยมจากประชาชน” น.พ.พฤฒิชัยกล่าว
นอกจากนี้ในส่วนของภาษีประเภทอื่นได้มอบหมายให้กรมสรรสามิตพิจารณาทบทวนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสถานบริการประเภทธุรกิจสปา ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 10% เทียบเท่ากับสถานบริการ อาบน้ำ นวดตัว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการร้องเรียนเข้ามามากว่าสปาเป็นธุรกิจเพื่อสุขภาพควรจะได้รับการสนับสนุนและยังเกี่ยวข้องกับการจ้างงานจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเข้ามาพักผ่อนและใช้บริการสปาของไทย จึงเห็นว่าควรยกเว้นภาษีให้
“เห็นว่าที่ผ่านมาการจัดเก็บภาษีดังกล่าวไม่ได้มีเม็ดเงินมากนักแค่หลักร้อยล้านบาทเท่านั้น ขณะที่มีผู้ปรกอบการคนไทยที่เป็นเข้าของธุรกิจสปาได้รับความเดือดร้อนนับพันแห่ง และมีการจ้างงานเป็นหมื่นคน” รมช.คลังกล่าวและว่า อย่างไรก็ตามการยกเว้นภาษีให้ธุรกิจสปาอาจต้องมีการกำหนดให้ชัดเจน เพราะก่อนหน้านี้กรมสรรพสามิตตีความว่าสปาเข้าข่ายสถานบริการ เนื่องจากมีอ่างอาบน้ำ และบริเวณที่มีการอาบน้ำใยการประกอบกิจกรรม ซึ่งคล้ายกับสถานอาบอบนวด ดังนั้นหากสถานอาบอบนวดใดมีบริการสปา ควรแยกบริการทั้ง 2 ออกจากกัน หรือ กรณีที่อ้างว่าทำสปาแต่มีการขายบริการอาบอบนวดแฝงก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพราะกรณีของสถานบริการอาบอบนวดนั้นยังต้องเก็บภาษีตามปกติ
ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจากกรมสรรพสามิตพบว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบธุรกิจสปาที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายประมาณ 1 พันแห่ง มีผู้ประกอบการสปาที่เข้าระบบการจัดเก็บภาษีประมาณ 20% หรือกว่า 200 รายและกรมสรรสามิตจัดเก็บภาษีได้ประมาณปีละ 90-100 ล้านบาท
เช่นกัน ภาษีเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาอยู่เช่นเดียวกัน โดยอาจจะมีการยกเว้นเช่นเดียวกันเพราะแอร์ถือเป็นสินค้าจำเป็นในปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเหมือนในอดีต.