xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเสียหลักชิงงานนานาชาติ ทิก้าเร่งรัฐดันวาระท่องเที่ยวฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกทิก้า เผย ประเทศคู่แข่งขันใช้การเมือง เป็นจุดอ่อนโจมตีประเทศไทยบั่นทอนความเชื่อมั่น ทำไทยเสียโอกาส ชวดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพราะเป็นตลาดอ่อนไหว ชี้ ประเด็นเสื้อแดงยื่นฎีกา เป็นที่จับตามองของต่างประเทศ ระบุเกมการเมืองดัชนีชีวัดธุรกิจไมซ์รุ่งหรือดับปีหน้า แนะรัฐเร่งเดินหน้าท่องเที่ยววาระแห่งชาติเร่งพัฒนาแบบยั่งยืนขยายตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มมาซ้ำเติบโต

นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า(TICA) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะออกไปประมูลแข่งขันหรือบิดงานการประชุมนานาชาติให้เข้ามาจัดที่ประเทศไทยได้ยากลำบากขึ้น สาเหตุหลักมาจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศทำให้คู่แข่งขันใช้เป็นจุดบั่นทอนความมั่นใจของนานาชาติในการร่วมประมูลแข่งขันชิงงานในแต่ละครั้ง ส่วนปัจจัยเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจและ การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นสิ่งที่เกิดกับทุกประเทศจึงไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องนี้

“กลุ่ม M และ I หรือ การจัดประชุม และ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เป็นตลาดที่อ่อนไหว ดังนั้น ในการประชุมเพื่อแย่งงานประชุมในเวทีระดับนานาชาติ ประเทศที่ต้องการเป็นเจ้าภาพจะต้องเสนอตัวต่อที่ประชุม พูดถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศตัวเอง ซึ่งไทยไม่ได้น้อยหน้ากว่าประเทศใดๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแต่ประเทศคู่แข่งขันบางรายได้พูดในที่ประชุมว่าประเทศของเขาไม่มีความวุ่นวายทางการเมือง ซึ่งแม้จะไม่พูดว่าเป็นประเทศไทย แต่ทุกคนย่อมรู้ดีว่าใช่ ทำให้องค์กรที่จะจัดประชุมต้องลังเล ทำให้ไทยเสียคะแนนโหวตไปไม่น้อย”

***การเมืองไม่นิ่งไมซ์ไม่โต******
ปัจจุบัน งานประชุมที่มีอยู่ยังเดินหน้าต่อไปตามแผนงาน แต่จากข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศซึ่งเป็นที่จับตาของต่างประเทศอยู่แล้ว ทำให้ไทยอาจต้องเสียโอกาสในการได้รับเป็นเจ้าภาพจัดงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือแม้แต่การประชุมนั้นๆจะต้องเวียนไปจัดทุกประเทศ ก็อาจทำให้การเลือกประเทศไทยถูกชะลอออกไปก่อนซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เริ่มเห็นมาตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน
แต่เหตุการณ์ที่รุนแรงสุดและสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ส่งผลให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นมากที่สุดคือ เหตุการณ์ล้มการประชุมผู้นำอาเซียนที่เมืองพัทยาเมื่อไม่มานานนี้ ล่าสุดต่างประเทศก็ยังจับตามองประเทศไทยในประเด็นที่กลุ่มเสื้อแดง เตรียมยื่นฎีกาถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

อย่างไรก็ตามถ้าการเมืองยังนิ่งอยู่เช่นนี้ ก็พอมั่นใจว่า สิ้นปีตลาดรวมของการจัดประชุมสัมมนาและนิทรรศการหรือไมซ์(MICE) จะเป็นไปตามที่สำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. คาดการณ์ไว้ว่าจะมี นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ 5 แสนคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ปรับลดลงแล้ว ส่วนปีหน้าถ้าไม่มีความรุนแรงทางการเมือง อุตสาหกรรมนี้ก็จะเติบโตแน่นอน โดยอาจจะมีนักท่องเที่ยวไมซ์อยู่ที่ 8 แสนคน สร้างรายได้ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมที่ สสปน.เคยตั้งไว้

***จี้รัฐเร่งพัฒนาแบบยั่งยืน*****
นายสุเมธ กล่าวถึง แผนงานของรัฐบาลเรื่องท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ ว่า เห็นด้วยกับความจำเป็นที่ต้องให้นายกรัฐมนตรี หรือ ระดับรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล เพราะมองว่าเนื้อหาสาระเป็นเรื่องที่ใหญ่และกว้างเกินกว่าที่จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯเป็นผู้ดูแล

สำหรับวาระแห่งชาติในฉบับนี้ที่คาดว่าจะบรรจุด้วยนโยบาย 8 ข้อหลัก โดยในที่นี้มี 6 ข้อเป็นนโยบายด้านการพัฒนาท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ตรงนี้สะท้อนได้ว่ารัฐบาลเห็นความสำคัญ แต่ทั้งนี้ภาคเอกชนก็ต้องการให้แผนการพัฒนาแบบยั่งยืนตามที่กล่าวไว้ให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพราะหากทำได้หมายถึงจะสามารถช่วยเรื่องการตลาดด้านการท่องเที่ยวในอนาคตต่อไปได้

เพราะจากสถิติจะเห็นได้ว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทย 61% เป็นกลุ่มที่มาซ้ำ อีก 39% เป็นการมาครั้งแรก ซึ่งหากกลุ่มนี้เกิดความประทับใจ ก็จะเข้ามาเติบโตในกลุ่มมาซ้ำ .ซึ่งการพัฒนาแบบยั่งยืนจะครองใจนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น