ASTVผู้จัดการรายวัน-“เกื้อกูล” มั่นใจครม.ไฟเขียวอนุมัติโครงการสร้างท่าเรือปากบาราภายในเดือนส.ค.นี้ หลังมั่นใจผ่านสผ. ได้แน่ ส่วนการยุบไม่ยุบไทยเดินเรือทะเล คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ เตรียมถกเกษตรหาข้อสรุปการปล่อยน้ำ หวั่นเกษตรกรกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนยกระดับในแม่น้ำเจ้าพระยา
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการก่อสร้างท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล มูลค่า 11,466.2 ล้านบาท ว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เหลือเพียงรายละเอียดสุดท้ายเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้ จะเสร็จสิ้น และคาดว่าภายในเดือนส.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาได้
“หลังจากผ่านความเห็นชอบจากสผ. คาดว่าคงไม่มีการปรับปรุงรายละเอียดอีก จะส่งให้ครม.พิจารณาเพื่ออนุมัติโครงการเลย เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องรีบทำ เพราะหากดำเนินการสร้างเสร็จแล้ว จะเป็นการสนับสนุนโครงการสร้างถนนเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย หรือแลนด์บริดจ์”นายเกื้อกูลกล่าว
นายเกื้อกูล กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวี เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคมไปหารือ เพื่อหาข้อยุติในการยุบหรือไม่ยุบบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จากนั้นให้กระทรวงคมนาคมเสนอเป็นมติให้ครม. ทราบถึงแนวทางการดำเนินงานในอนาคตทั้งบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัดและบริษัท บทด. จำกัด ซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
“คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะประชุม 3 เดือนครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปจะมีประชุมเดือนต.ค. คาดว่าการหารือเพื่อเสนอเป็นมติของกระทรวงคมนาคมต่อที่ประชุมครม. โดยจะแล้วเสร็จก่อนการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งต่อไป หากไม่มีอะไรติดขัด”นายเกื้อกูลกล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะทำงานกระทรวงคมนาคมได้ข้อสรุปร่วมกับกระทรวงการคลังแล้วว่า ควรมีการยุบบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด และให้ดำเนินการเคลียร์บัญชีต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ทั้งหมด ส่วนปัญหาการฟ้องร้องก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน และอนุมัติให้ร่วมลงทุนในส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้บริษัท บทด. จำกัด เพื่อให้การทำงานสามารถเดินหน้าได้ เพราะบริษัท บทด. จำกัด มีงานเข้ามาจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถรับขนส่งสินค้าได้เต็มประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากลงทุนด้วยกรอบวงเงินเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
นายเกื้อกูลกล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าของการขอความเห็นชอบกรอบวงเงินในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างเขื่อนยกระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อการเดินเรือ ของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) วงเงินศึกษาจำนวน 239 ล้านบาทนั้น ในสัปดาห์นี้ กระทรวงคมนาคมจะทำหนังสือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอหารือร่วมกัน โดยเฉพาะในส่วนของขั้นตอนการจัดการเรื่องการปล่อยน้ำในเขื่อนยกระดับว่าจะมีทางออกร่วมกันอย่างไร และคาดว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมดในเดือนส.ค.นี้ ก่อนที่จะเสนอครม.เพื่ออนุมัติต่อไป
“ที่จะต้องมีการหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน เพราะเกรงว่าภายหลังจากการก่อสร้างเขื่อนเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งผลต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เกษตรกรในช่วงภาคกลางตอนบนจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงต้องหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุป”
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงโครงการก่อสร้างท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล มูลค่า 11,466.2 ล้านบาท ว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม จากจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เหลือเพียงรายละเอียดสุดท้ายเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งคาดว่าเร็วๆ นี้ จะเสร็จสิ้น และคาดว่าภายในเดือนส.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาได้
“หลังจากผ่านความเห็นชอบจากสผ. คาดว่าคงไม่มีการปรับปรุงรายละเอียดอีก จะส่งให้ครม.พิจารณาเพื่ออนุมัติโครงการเลย เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องรีบทำ เพราะหากดำเนินการสร้างเสร็จแล้ว จะเป็นการสนับสนุนโครงการสร้างถนนเชื่อมฝั่งทะเลอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย หรือแลนด์บริดจ์”นายเกื้อกูลกล่าว
นายเกื้อกูล กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวี เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้ให้กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคมไปหารือ เพื่อหาข้อยุติในการยุบหรือไม่ยุบบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จากนั้นให้กระทรวงคมนาคมเสนอเป็นมติให้ครม. ทราบถึงแนวทางการดำเนินงานในอนาคตทั้งบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัดและบริษัท บทด. จำกัด ซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
“คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะประชุม 3 เดือนครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปจะมีประชุมเดือนต.ค. คาดว่าการหารือเพื่อเสนอเป็นมติของกระทรวงคมนาคมต่อที่ประชุมครม. โดยจะแล้วเสร็จก่อนการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งต่อไป หากไม่มีอะไรติดขัด”นายเกื้อกูลกล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะทำงานกระทรวงคมนาคมได้ข้อสรุปร่วมกับกระทรวงการคลังแล้วว่า ควรมีการยุบบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด และให้ดำเนินการเคลียร์บัญชีต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ทั้งหมด ส่วนปัญหาการฟ้องร้องก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน และอนุมัติให้ร่วมลงทุนในส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้บริษัท บทด. จำกัด เพื่อให้การทำงานสามารถเดินหน้าได้ เพราะบริษัท บทด. จำกัด มีงานเข้ามาจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถรับขนส่งสินค้าได้เต็มประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากลงทุนด้วยกรอบวงเงินเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
นายเกื้อกูลกล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าของการขอความเห็นชอบกรอบวงเงินในการจ้างที่ปรึกษาเพื่อสำรวจออกแบบรายละเอียดและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างเขื่อนยกระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อการเดินเรือ ของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) วงเงินศึกษาจำนวน 239 ล้านบาทนั้น ในสัปดาห์นี้ กระทรวงคมนาคมจะทำหนังสือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอหารือร่วมกัน โดยเฉพาะในส่วนของขั้นตอนการจัดการเรื่องการปล่อยน้ำในเขื่อนยกระดับว่าจะมีทางออกร่วมกันอย่างไร และคาดว่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมดในเดือนส.ค.นี้ ก่อนที่จะเสนอครม.เพื่ออนุมัติต่อไป
“ที่จะต้องมีการหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก่อน เพราะเกรงว่าภายหลังจากการก่อสร้างเขื่อนเสร็จสิ้นแล้ว จะส่งผลต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เกษตรกรในช่วงภาคกลางตอนบนจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงต้องหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุป”