xs
xsm
sm
md
lg

ท่านประธาน"คิมจองอิล"เป็นดารานำใน"บิล แอนด์ ฮิลลารี โชว์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ของสหรัฐฯ ขี่เครื่องบินมาช่วยชีวิต 2 นักข่าวทีวีอเมริกันที่ถูกคุมขังในเกาหลีเหนือ ด้วยความชำนิชำนาญและความมั่นใจตามแบบฮีโรในภาพยนตร์ จากการมาเยือนที่ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เขาได้พูดคุยกับคิมจองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ, ประสบความสำเร็จในการทำให้มีการอภัยโทษและการปล่อยตัวนักข่าวทั้งสอง, นำพวกเธอขึ้นเครื่องบินของเขา, แล้วก็บินออกมามุ่งหน้าสู่นครลอสแองเจลิส มันช่างเป็นเหตุการณ์ที่จัดเรียงลำดับได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเหมาะสมแก่การสร้างภาพยนตร์ฮอลลีวูดโดยแท้

กระนั้นมันก็ยังคงเกิดคำถามขึ้นมาว่า เขากระทำอะไรสำเร็จไปบ้าง นั่นคือ เขาได้บอกกล่าว, หรือส่งสัญญาณ, หรือแสดงท่าที อะไรต่อคิมจองอิล? สิ่งที่เขาเสนอออกมาเพื่อการยื่นหมูยื่นแมวกันคราวนี้คืออะไร? หรือถามกันให้ชัดๆ กว่านี้อีกก็คือ เกาหลีเหนือน่าจะได้รับอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนบ้างจากการปล่อยตัว ลอรา หลิง และ ลีอึนนา

ทำเนียบขาวพูดถึงการเดินทางไปเกาหลีเหนือของคลินตันคราวนี้ว่า เป็นการดำเนินการแบบ "ส่วนตัว" เครื่องบินลำที่พาตัวเขาไปเปียงยาง ก็ไม่ได้ติดเครื่องหมายอะไร สอดคล้องกับลักษณะ "ไม่เป็นทางการ" ของการเยือนคราวนี้ อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนว่าเรื่องราวหน้าฉากที่ประโคมกันออกมาคราวนี้ มันดูเป็นแฟนตาซีมากเกินไป

แท้ที่จริงแล้ว คลินตันคืออาคันตุกะระดับความเป็นมาโด่งดังสูงส่ง ซึ่งเกาหลีเหนือวาดหวังที่จะชักจูงโน้มน้าวให้วอชิงตันส่งบุคคลระดับนี้แหละมาติดต่อ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการส่งตัว 2 นักข่าวหญิงคืนให้

แล้วทำไมจะต้องเสแสร้างแกล้งทำอะไรกันอีก หลังจากที่ฮิลลารี ภรรยาของเขา ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ ได้ช่วยปูพื้นเอาไว้ให้แล้ว ด้วยการพูดว่า บางที หลิง และ ลี อาจจะทำผิดและหลงทางข้ามแม่น้ำทูเมน จากเขตจีนเข้าไปยังเขตเกาหลีเหนือ เมื่อตอนที่ทหารโสมแดงจับตัวพวกเธอไปเมื่อวันที่ 17 มีนาคม การที่ฮิลลารีพูดเช่นนี้ไม่ใช่เท่ากับกล่าวแสดงการขอโทษสำหรับเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นคราวนี้ไปแล้วหรือ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเธอยืนยันว่านักข่าวทั้งสองไม่ได้กระทำความผิดอะไรทั้งสิ้น

ชัดเจนเหลือเกินว่าบิลคือทูตของฮิลลารี นอกจากนั้นเขายังได้รับการอวยชัยให้พรจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยที่เกาหลีเหนือถึงขั้นพูดว่า โอบามาได้ส่ง "ข้อความทางวาจา" ผ่านทางบิล คลินตัน โดยแสดง "ความขอบคุณอย่างจริงใจ" และ "แสดงทัศนะเกี่ยวกับหนทางต่างๆ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ" ทำเนียบขาวอาจจะปฏิเสธว่าไม่ได้มีการการส่งข้อความดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น แต่ในเกมที่เรื่องหน้าตาคือสิ่งสำคัญมากๆ เช่นนี้ ท่าทีใดๆ จากโอบามา ซึ่งอาจมีเพียงแค่ "คำขอบคุณ" ก็อาจจะถูกตีความว่าเป็น "การส่งข้อความ" แล้ว

กระนั้นก็ตาม นอกเหนือจากการแสดงท่าทีแล้ว คลินตันยังไปเสนออะไรที่จริงจังเป็นเรื่องเป็นราวอีกบ้าง คำตอบน่าจะออกมาว่าต้องมีอะไรมากมายทีเดียว แม้ข้อเสนอเหล่านี้อาจจะอยู่ในลักษณะเพียงการให้ความมั่นใจและการแสดงท่าทีเป็นนัย

นิโคลัส อีเบอร์สตัดต์ นักวิชาการอาวุโสแห่งสถาบันอเมริกันเอนเตอร์ไพรซ์อินสติติว (American Enterprise Institute) กล่าวให้ความเห็นว่า "เกาหลีเหนือไม่เคยให้อะไรฟรีๆ" แล้วพวกเขาคาดหมายว่าจะได้อะไรจากการปล่อยตัวประกันทั้งสอง? นักวิชาการผู้นี้ให้คำตอบว่า เกาหลีเหนือนั้นต้องการที่จะได้รับการยอมรับฐานะ "การเป็นชาติที่มีอาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวร" ต้องการที่จะได้รับ "การยอมรับในทางพฤตินัยว่าตนเป็น 1 ใน 9 มหาอำนาจนิวเคลียร์ของโลก" ขณะเดียวกัน ก็ต้องการทำให้ "ความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ อ่อนกำลังลง"

ในฐานะที่เป็นทูตแบบไม่เป็นทางการ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคลินตันย่อมสามารถหลีกเลี่ยงไม่ต้องไปยุ่งกับประเด็นปัญหาอันอ่อนไหวเหล่านี้ แต่เขาก็อาจจะถ่ายทอดความรู้สึกอันอบอุ่น, ไมตรีจิต, และความเป็นเพื่อนมิตร จากวอชิงตันไปให้แก่เปียงยาง ซึ่งสามารถที่จะแปรมาเป็นความช่วยเหลือก้อนมหึมา ถ้าหากเกาหลีเหนือยินยอมนั่งโต๊ะเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของตนอย่างจริงจัง หรือถ้าหากไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว เมื่อมองจากทัศนะของเปียงยาง การสนทนาระหว่างคลินตันกับคิม ซึ่งสำนักข่าวกลางเกาหลีบรรยายว่า เป็นการพูดจากัน "อย่างละเอียดถี่ถ้วน" ก็ยังมีแง่บวกตรงที่แป็นการเปิดทางให้แก่การสนทนา 2 ฝ่าย ซึ่งจะเข้าแทนที่การหารือ 6 ฝ่ายที่โสมแดงประกาศไว้ว่าจะไม่ยอมกลับคืนสู่การเจรจาเช่นนั้นอีกแล้ว

ในที่สุดแล้ว ภารกิจคราวนี้ของคลินตันจะให้ผลในทางบวกหรือลบ และมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน อาจจะอยู่ตรงที่ว่า เกาหลีเหนือหมายความว่าอย่างไรเมื่อเผยแพร่รายงานข่าวที่กล่าวว่า คลินตันกับคิมได้มี "การหารือกันอย่างตรงไปตรงมาและเจาะลึก ในเรื่องประเด็นปัญหาต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ ระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) และสหรัฐฯ ด้วยบรรยากาศที่จริงใจ และสามารถบรรลุความคิดเห็นอันสอดคล้องต้องกันในเรื่องเกี่ยวกับการหาทางแก้ไขประเด็นปัญหาที่ได้เจรจากันแล้วนี้"

ต้องเป็นคลินตันทั้งสอง ทั้งบิลและฮิลลารี ที่จะต้องมาอธิบายว่า สิ่ง"ที่ได้เจรจากันแล้วแล้ว" คืออะไร และ มีการ"บรรลุความคิดเห็นอันสอดคล้องต้องกัน" จริงหรือไม่ ถ้าเป็นเป็นจริง สิ่งที่เห็นสอดคล้องต้องกันนี้มีอะไรบ้าง

(เก็บความและตัดตอนจากเรื่อง Dear Leader stars in Bill and Hillary show โดย Donald Kirk นักหนังสือพิมพ์ซึ่งรายงานข่าวเรื่องเกาหลี และการประจันหน้ากันระหว่างกลุ่มพลังต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ มาเป็นเวลากว่า 30 ปี)
กำลังโหลดความคิดเห็น