เอเอฟพี/เอเจนซี- อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ของสหรัฐฯ เดินทางออกจากเกาหลีเหนือแล้ว หลังประสบความสำเร็จในการเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือให้ยอมปล่อยตัวผู้สื่อข่าวสาวอเมริกัน2 คนที่ถูกจับตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้านฮิลลารีเผย โล่งอกได้เสียที ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ย้ำอดีตประธานาธิบดีคลินตันไม่ได้เอ่ยปากขอโทษเกาหลีเหนือตามที่สื่อโสมแดงรายงาน
อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้เดินทางออกจากกรุงเปียงยางพร้อมด้วย ลอรา หลิง และ ลีอึนนา 2 ผู้สื่อข่าวชาวอเมริกันด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำแล้ววันพุธ (5) หลังประสบความสำเร็จในการเจรจาให้เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวทั้งคู่หลังถูกจับตัวนาน 5 เดือนและถูกตัดสินให้ใช้แรงงาน12 ปีจากข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมายและกระทำการอันเป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือ ทั้งนี้คลินตันยังได้เข้าพบคิมจองอิลผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร(4) ด้วย
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานวันพุธ(5) ว่าอดีตประธานาธิบดีคลินตันซึ่งเป็นบุคคลสำคัญระดับสูงสุดของสหรัฐฯที่เยือนเกาหลีเหนือในรอบเกือบ 10 ปี และคณะ พร้อมผู้สื่อข่าวสาวทั้ง 2 เดินทางออกจากกรุงเปียงยางโดยมี ยางฮยองซบ รองประธานสภาประชาชนสูงสุดเกาหลีเหนือ และคิมคเยกวาน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศไปส่งที่สนามบินซูนัน
ด้านบรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานว่า เครื่องบินที่อดีตผู้นำสหรัฐฯพร้อมผู้สื่อข่าวทั้งสองโดยสาร เมื่อออกจากเกาหลีเหนือได้แวะลงจอดที่ฐานทัพอากาศมิซาวะ ในจังหวัดอาโอโมริเพื่อเติมเชื้อเพลิง ก่อนเดินทางต่อไปยังนครลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งสมาชิกครอบครัวผู้สื่อข่าวทั้งสองรออยู่
ขณะที่ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการเยือนกรุงไนโรบีของเคนยาระบุว่ารู้สึกโล่งใจอย่างยิ่งที่ทั้ง 2 คนได้รับการปล่อยตัว เช่นเดียวกับอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งสถานีโทรทัศน์เคอร์เรนท์ ทีวีที่ผู้สื่อข่าวสาวทั้งคู่ทำงานอยู่ กล่าวที่ซานฟรานซิสโกวันพุธ (5) โดยยกย่องความกล้าหาญของทั้งคู่ที่ต้องเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากตลอด140 วันที่ถูกควบคุมตัวพร้อมแสดงความยินดีที่ทั้งคู่ได้รับอิสระ
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาแถลงที่กรุงปักกิ่งวันพุธ (5) แสดงความยินดีต่อข่าวการปล่อยตัวผู้สื่อข่าวทั้งสองแต่ไม่ได้ระบุว่าจีนมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวทั้งคู่หรือไม่
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯซึ่ง ยืนยันว่าอดีตประธานาธิบดีคลินตันไม่ได้กล่าวคำขอโทษใดๆ ต่อคิมจองอิลเพื่อให้เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวผู้สื่อข่าวทั้งสอง ซึ่งขัดแย้งกับรายงานของสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือที่ระบุว่าผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือยอมอภัยโทษให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 2 เป็นกรณีพิเศษ หลังอดีตประธานาธิบดีคลินตันกล่าวขอโทษต่อการรุกล้ำดินแดนของทั้งคู่ และยังได้ถ่ายทอดคำวิงวอนของประธานาธิบดีบารัค โอบามาให้เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวทั้งคู่เพื่อมนุษยธรรมอีกด้วย
รอเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงวันพุธ (5)ว่าการไปเกาหลีเหนือของอดีตผู้นำสหรัฐฯเป็นการเดินทางแบบ"ส่วนตัว" ซึ่งทำเนียบขาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมปฏิเสธว่าประธานาธิบดีโอบามาไม่ได้ฝากข้อความส่วนตัวใดๆไปให้ผู้นำเกาหลีเหนือเช่นกัน แม้เว็บไซต์ข่าวชื่อดังของสหรัฐฯ "politico.com"จะรายงานว่าทำเนียบขาวรู้เห็นเป็นใจกับการเดินทางครั้งนี้ และมีการเตรียมการล่วงหน้านานหลายสัปดาห์แล้วก็ตาม
ด้านบรูซ คลิงเนอร์ นักวิเคราะห์จากมูลนิธิเฮอริเทจในกรุงวอชิงตันระบุว่าความสำเร็จของอดีตประธานาธิบดีคลินตันที่เจรจาให้มีการปล่อยตัวผู้สื่อข่าวครั้งนี้ ทำให้เวทีเจรจา 6 ฝ่ายเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือหมดความหมายทันที และยังเป็นการสร้างความวิตกให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งเกรงว่าจากนี้รัฐบาลโอบามาอาจเลือกเจรจาโดยตรงกับเกาหลีเหนือแทน โดยอาจยกเลิกการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ และหันมาใช้การป้องปรามไม่ให้เกาหลีเหนือแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์แทน