เอเอฟพี/เอเจนซี-นักข่าวสาวชาวอเมริกัน 2 คนที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเกาหลีเหนือ ต่างร่ำไห้ หลังได้กลับมายังสหรัฐฯ และได้พบหน้าครอบครัวอีกครั้ง ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ระบุโสมแดงต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์และเลิกพฤติกรรมยั่วยุ พร้อมย้ำการไปช่วยสองนักข่าวเป็น"ภารกิจส่วนตัว" ของอดีตประธานาธิบดีคลินตัน ด้านฮิลลารี คลินตันยืนยัน "สามี" ไม่ได้ขอโทษคิมจองอิลตามที่สื่อเกาหลีเหนือรายงาน
อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน พร้อมด้วย ลอรา หลิง และลีอึนนา สองผู้สื่อข่าวสาวชาวอเมริกันของสถานีโทรทัศน์เคอร์เรนท์ ทีวีในนครซานฟรานซิสโก ที่ได้รับการปล่อยตัวจากทางการเกาหลีเหนือหลังถูกจับนาน 5 เดือนในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกระทำการอันเป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือ ได้เดินทางถึงสนามบินเบอร์แบงก์ ใกล้กับนครลอส แองเจลิส ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ แล้วเมื่อวันพุธ (5)
รายงานข่าวระบุว่า ลอรา หลิง วัย 32 ปี ซึ่งมีเชื้อสายจีน แสดงอาการดีใจด้วยการชูกำปั้นขึ้นสู่ท้องฟ้าทันทีที่ก้าวลงจากเครื่องบินเช่าเหมาลำที่พาเธอกลับสหรัฐฯ ขณะที่ลีอึนนา วัย 36 ปี ซึ่งมีเชื้อสายเกาหลีถึงกับร่ำไห้เข้าสวมกอดสามีและ "ฮานา " ลูกสาววัย 4 ขวบของเธอที่มารอรับ
หลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือต่อหน้าผู้สื่อข่าวกว่า 100 คน ที่สนามบินเบอร์แบงก์โดยระบุว่า ดีใจที่ได้กลับบ้านหลังจากต้องเผชิญช่วงเวลา 140 วันที่ยากลำบากที่สุดของชีวิตในเกาหลีเหนือ พร้อมกล่าวขอบคุณอดีตประธานาธิบดีคลินตันและทีมงานที่ช่วยให้เธอและลีอึนนาได้กลับประเทศโดยปลอดภัย
หลิงเล่าว่า รู้สึกหวาดกลัวตลอดเวลาว่าจะต้องถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกันเพื่อใช้แรงงานหนักถึง 12 ปีตามคำพิพากษาของศาลเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเมื่อวันอังคาร (4) ที่ผ่านมาซึ่งเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือมาแจ้งกับเธอว่าให้เตรียมตัวเข้าร่วมประชุมและได้พาเธอไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่เมื่อก้าวพ้นประตู เธอกลับได้พบอดีตประธานาธิบดีคลินตันที่กำลังรอเธออยู่ ซึ่งทำให้เธอมั่นใจว่าจะได้กลับบ้านอย่างแน่นอน
ขณะที่คำแถลงของอดีตผู้นำสหรัฐฯระบุว่า เขาได้รับการร้องขอจากอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์และครอบครัวของผู้สื่อข่าวทั้งสองคนให้เดินทางไปยังกรุงเปียงยาง เพื่อปฏิบัติ "ภารกิจด้านมนุษยธรรม" ในการพาทั้งคู่กลับประเทศ
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี ในเมืองวาคารูซา มลรัฐอินดีแอนาเมื่อวันพุธ (5) โดยระบุว่า เกาหลีเหนือมีโอกาสที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯให้ดีขึ้น แต่เกาหลีเหนือจะต้องไม่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป และจะต้องเลิกแสดงพฤติกรรมยั่วยุประชาคมโลกอย่างในช่วงที่ผ่านมา
โอบามายืนยันว่า สหรัฐฯมีความปรารถนาให้ประชาชนชาวเกาหลีเหนือมีความเป็นอยู่ที่ดีแต่สหรัฐฯ ต้องการความมั่นใจว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือพร้อมปฏิบัติตนตามแนวทางและกฎระเบียบขั้นพื้นฐานของประชาคมระหว่างประเทศ
โอบามายังระบุว่าภารกิจของอดีตประธานาธิบดีคลินตันครั้งนี้เป็น "การริเริ่มส่วนบุคคล"และเป็น "ภารกิจด้านมนุษยธรรม" ไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ว่า จะมีการผ่อนคลายแรงกดดันทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และประชาคมโลกต่อเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
ด้านฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนเคนยา กล่าวที่กรุงไนโรบีเมื่อวันพุธ (5)โดยยืนยันสามีของเธอไม่ได้กล่าวขอโทษคิมจองอิลแต่อย่างใด แม้สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือจะรายงานว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯเอ่ยปากขอโทษผู้นำเกาหลีเหนือ จากการที่นักข่าวทั้งสองคนทำความผิดในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งร้องขอให้มีการอภัยโทษแก่ทั้งคู่ด้วย
อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน พร้อมด้วย ลอรา หลิง และลีอึนนา สองผู้สื่อข่าวสาวชาวอเมริกันของสถานีโทรทัศน์เคอร์เรนท์ ทีวีในนครซานฟรานซิสโก ที่ได้รับการปล่อยตัวจากทางการเกาหลีเหนือหลังถูกจับนาน 5 เดือนในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และกระทำการอันเป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือ ได้เดินทางถึงสนามบินเบอร์แบงก์ ใกล้กับนครลอส แองเจลิส ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ แล้วเมื่อวันพุธ (5)
รายงานข่าวระบุว่า ลอรา หลิง วัย 32 ปี ซึ่งมีเชื้อสายจีน แสดงอาการดีใจด้วยการชูกำปั้นขึ้นสู่ท้องฟ้าทันทีที่ก้าวลงจากเครื่องบินเช่าเหมาลำที่พาเธอกลับสหรัฐฯ ขณะที่ลีอึนนา วัย 36 ปี ซึ่งมีเชื้อสายเกาหลีถึงกับร่ำไห้เข้าสวมกอดสามีและ "ฮานา " ลูกสาววัย 4 ขวบของเธอที่มารอรับ
หลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือต่อหน้าผู้สื่อข่าวกว่า 100 คน ที่สนามบินเบอร์แบงก์โดยระบุว่า ดีใจที่ได้กลับบ้านหลังจากต้องเผชิญช่วงเวลา 140 วันที่ยากลำบากที่สุดของชีวิตในเกาหลีเหนือ พร้อมกล่าวขอบคุณอดีตประธานาธิบดีคลินตันและทีมงานที่ช่วยให้เธอและลีอึนนาได้กลับประเทศโดยปลอดภัย
หลิงเล่าว่า รู้สึกหวาดกลัวตลอดเวลาว่าจะต้องถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกันเพื่อใช้แรงงานหนักถึง 12 ปีตามคำพิพากษาของศาลเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะเมื่อวันอังคาร (4) ที่ผ่านมาซึ่งเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือมาแจ้งกับเธอว่าให้เตรียมตัวเข้าร่วมประชุมและได้พาเธอไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง แต่เมื่อก้าวพ้นประตู เธอกลับได้พบอดีตประธานาธิบดีคลินตันที่กำลังรอเธออยู่ ซึ่งทำให้เธอมั่นใจว่าจะได้กลับบ้านอย่างแน่นอน
ขณะที่คำแถลงของอดีตผู้นำสหรัฐฯระบุว่า เขาได้รับการร้องขอจากอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์และครอบครัวของผู้สื่อข่าวทั้งสองคนให้เดินทางไปยังกรุงเปียงยาง เพื่อปฏิบัติ "ภารกิจด้านมนุษยธรรม" ในการพาทั้งคู่กลับประเทศ
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็มเอสเอ็นบีซี ในเมืองวาคารูซา มลรัฐอินดีแอนาเมื่อวันพุธ (5) โดยระบุว่า เกาหลีเหนือมีโอกาสที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯให้ดีขึ้น แต่เกาหลีเหนือจะต้องไม่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป และจะต้องเลิกแสดงพฤติกรรมยั่วยุประชาคมโลกอย่างในช่วงที่ผ่านมา
โอบามายืนยันว่า สหรัฐฯมีความปรารถนาให้ประชาชนชาวเกาหลีเหนือมีความเป็นอยู่ที่ดีแต่สหรัฐฯ ต้องการความมั่นใจว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือพร้อมปฏิบัติตนตามแนวทางและกฎระเบียบขั้นพื้นฐานของประชาคมระหว่างประเทศ
โอบามายังระบุว่าภารกิจของอดีตประธานาธิบดีคลินตันครั้งนี้เป็น "การริเริ่มส่วนบุคคล"และเป็น "ภารกิจด้านมนุษยธรรม" ไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ว่า จะมีการผ่อนคลายแรงกดดันทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และประชาคมโลกต่อเกาหลีเหนือแต่อย่างใด
ด้านฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนเคนยา กล่าวที่กรุงไนโรบีเมื่อวันพุธ (5)โดยยืนยันสามีของเธอไม่ได้กล่าวขอโทษคิมจองอิลแต่อย่างใด แม้สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือจะรายงานว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯเอ่ยปากขอโทษผู้นำเกาหลีเหนือ จากการที่นักข่าวทั้งสองคนทำความผิดในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งร้องขอให้มีการอภัยโทษแก่ทั้งคู่ด้วย