เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (3ส.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภาโดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรก ในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ ที่มีการเปิดสภาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยการประชุมครั้งนี้ มีนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และครม.บางส่วนเข้าประชุมด้วย
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระที่ประชุมได้รับทราบพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ และรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธาน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกอบด้วย นางอมรา พงศาพิชญ์ เป็นประธานกรรมการ นายแท้จริง ศิริพานิช กรรมการ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ นายปริญญา ศิริสารการ นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด และนางวิสา เบ็ญจะมโน เป็นกรรมการ และรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายวิสุทธิ โพธิแท่น เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
จากนั้น นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) ขอเลื่อนระเบียบวาระการประชุม ยกเรื่องที่ในลำดับถัดไปขึ้นมาพิจารณาก่อนเรื่องด่วนที่ คือ 1 ..ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.... ที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเสร็จแล้ว โดยให้พิจารณาในลำดับท้ายสุด ซึ่งที่ประชุมไม่ขัดข้อง จากนั้นได้พิจารณาเรื่องด่วนที่ 2 ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและตำรวจ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยที่ประชุมไม่ติดใจอภิปราย และมีมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยคะแนน 106 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 3 เสียง
ต่อมาที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว ด้วยคะแนน 101 ต่อ 3 งดออกเสียง 2 เสียง
จากนั้น เวลา 12.00 น. ที่ประชุมได้พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฯ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลได้เสนอหลักการ เหตุผลในความจำเป็นที่รัฐบาลต้องมีการกู้เงินว่า สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้อยู่ในสภาวะถดถอย ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความจำเป็นจะต้องขอกู้เงินดังกล่าว เพื่อให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ให้รัฐบาลมีเงินทุนเพียงพอในการแก้ไขปัญหา การดำเนินการไทยเข้มแข็ง จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขยายตัวเป็นบวก ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะเป็นได้ในปี 2553 และจะเข้าสู่สภาวะปกติในปี 2557
หลังจากนายกรณ์ ได้เสนอหลักการเพื่อเข้าสู่การพิจารณาแล้ว นายนิคม ไวยรัชพาณิช รองประธานวุฒิสภา ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า เนื่องจากรัฐสภาของไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ระหว่างวันที่ 2-8 ส.ค. ทำให้ต้องการเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 10 ส.ค. และขอให้มีการนำเรื่องอื่น ขึ้นมาพิจารณาแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนั้นได้เกิดความวุ่นวาย และความไม่พอใจของสมาชิกบางคน เพราะไม่พอใจท่าทีของนายนิคม ที่ให้มีการเสนอหลักการเอาไว้ก่อน โดยไม่ให้มีการพิจารณาต่อ และไม่ให้ส.ว.ได้อภิปราย
นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า หากมีการเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ให้นายกรณ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงหลักการและเหตุผล ดังนั้น เมื่อทั้ง 2 คนมาแล้ว ก็ควรให้สมาชิกอภิปรายไปก่อน เพราะหากไม่ทัน ก็สามารถเลื่อนไปได้ เพราะการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ถือว่ามีความสำคัญไม่ต่างกัน
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ)กล่าวว่า ตนได้แจ้งให้ผู้ที่จะอภิปรายเรื่องนี้ ให้ส่งรายชื่อในวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งหากปล่อยให้มีการอภิปรายในวันนี้ เกรงว่าจะมีปัญหาในเรื่องการจัดระเบียบการอภิปราย และหาก ส.ว.ที่ไปร่วมงานที่พัทยา กลับมาอภิปรายในวันที่ 10 ส.ค. อาจจะทำให้สับสน และอภิปรายวกวน ซ้ำไปซ้ำมา อีกทั้งช่วงเช้าก็มีการให้ข่าวไปแล้วว่า จะมีการเลื่อนการพิจารณา ซึ่งเชื่อว่าประชาชนคงจะไม่เฝ้ารอการอภิปราย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ที่จริงถ้าสมาชิกจะย้อนกลับไปก่อนปิดสมัยประชุม ที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการพิจาณา พ.ร.ก. กู้เงิน 400,000 ล้านบาท ไปจนถึงเวลา 23.00 น. แต่นายประสพสุข เกรงว่าหากมีการหยิบ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 400,000 ล้านบาท ขึ้นมาพิจารณา อาจจะเลยเวลาและเลยสมัยการประชุม จึงได้สั่งปิดสมัยประชุมไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้รับแจ้งว่าจะมีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ดังกล่างในวันนี้ ตนได้เลื่อนกำหนดการทุกอย่าง และเข้ามาที่รัฐสภา แต่เมื่อได้รับทราบจากวิปวุฒิ ว่าจะเลื่อนออกไปพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพราะจะไปประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ที่พัทยา ตนก็เห็นว่าเมื่อมาแล้วก็ถือโอกาสมารับฟัง แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องนี้ไม่มีอะไรเคลือบแคลง และขอให้ความมั่นใจว่า อาทิตย์หน้าตนจะมาชี้แจงแน่ และจะไม่รับนัดหมายเพิ่ม และตนก็เห็นว่าประธาน ควรทำตามคำแนะนำของสมาชิก ที่สั่งให้มีการเลื่อนวาระการประชุม และพักการประชุมออกไปก่อน
จากนั้นนายนิคม แจ้งว่าเนื่องจากรายละเอียดในเรื่องนี้มีจำนวนมาก อยากให้สมาชิกกลับไปศึกษา จากนั้นได้สั่งปิดประชุมเมื่อ เวลา 12.30 น.
นายนิคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรแอบแฝงทั้งสิ้น ส่วนที่ปล่อยให้นายกรณ์ ชี้แจงหลักการและเหตุผลก่อนนั้น เพราะนายกฯ ได้ขออนุญาตนายประสพสุข เพราะเมื่อมาถึงที่ประชุมวุฒิสภาแล้ว จึงอยากชี้แจงก่อน ส่วนที่สมาชิกวุฒิสภาสอบถามว่า หากไม่พิจารณาเหตุใดจึงบรรจุเข้าสู่วาระที่หนึ่งนั้น เพราะเรื่องนี้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระตั้งแต่สมัยการประชุมที่ผ่านมา ซึ่งการเลื่อนการพิจารณา ต้องขออำนาจจากที่ประชุม
ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงความสับสนในการประชุมเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทในครั้งนี้ ว่า ความจริงตนก็เลื่อนให้เป็นการภายใน ไปเป็นวันจันทร์ที่ 10 ส.ค. เนื่องจากมีสมาชิกต้องไปประชุมรัฐสภาอาเซียน แต่การเลื่อนจะต้องเป็นไปตามมติของสมาชิก จึงจะสามารถเลื่อนได้ ที่นายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ ต้องมาชี้แจงก่อน เพราะมันมีวาระที่ค้างอยู่ในที่ประชุมใหญ่ ซึ่งเห็นว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ทางที่ประชุมจึงขอให้รัฐบาลชี้แจงไว้ก่อน แล้วค่อยมาประชุมอีกครั้งวันที่ 10 ส.ค.
ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระที่ประชุมได้รับทราบพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ และรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธาน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประกอบด้วย นางอมรา พงศาพิชญ์ เป็นประธานกรรมการ นายแท้จริง ศิริพานิช กรรมการ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ นายปริญญา ศิริสารการ นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด และนางวิสา เบ็ญจะมโน เป็นกรรมการ และรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายวิสุทธิ โพธิแท่น เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
จากนั้น นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) ขอเลื่อนระเบียบวาระการประชุม ยกเรื่องที่ในลำดับถัดไปขึ้นมาพิจารณาก่อนเรื่องด่วนที่ คือ 1 ..ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.... ที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเสร็จแล้ว โดยให้พิจารณาในลำดับท้ายสุด ซึ่งที่ประชุมไม่ขัดข้อง จากนั้นได้พิจารณาเรื่องด่วนที่ 2 ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลจังหวัดที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและตำรวจ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยที่ประชุมไม่ติดใจอภิปราย และมีมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยคะแนน 106 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 3 เสียง
ต่อมาที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งคณะกรรมาธิการร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว ด้วยคะแนน 101 ต่อ 3 งดออกเสียง 2 เสียง
จากนั้น เวลา 12.00 น. ที่ประชุมได้พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฯ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลได้เสนอหลักการ เหตุผลในความจำเป็นที่รัฐบาลต้องมีการกู้เงินว่า สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้อยู่ในสภาวะถดถอย ดังนั้น รัฐบาลจึงมีความจำเป็นจะต้องขอกู้เงินดังกล่าว เพื่อให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ให้รัฐบาลมีเงินทุนเพียงพอในการแก้ไขปัญหา การดำเนินการไทยเข้มแข็ง จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขยายตัวเป็นบวก ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะเป็นได้ในปี 2553 และจะเข้าสู่สภาวะปกติในปี 2557
หลังจากนายกรณ์ ได้เสนอหลักการเพื่อเข้าสู่การพิจารณาแล้ว นายนิคม ไวยรัชพาณิช รองประธานวุฒิสภา ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า เนื่องจากรัฐสภาของไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ระหว่างวันที่ 2-8 ส.ค. ทำให้ต้องการเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 10 ส.ค. และขอให้มีการนำเรื่องอื่น ขึ้นมาพิจารณาแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนั้นได้เกิดความวุ่นวาย และความไม่พอใจของสมาชิกบางคน เพราะไม่พอใจท่าทีของนายนิคม ที่ให้มีการเสนอหลักการเอาไว้ก่อน โดยไม่ให้มีการพิจารณาต่อ และไม่ให้ส.ว.ได้อภิปราย
นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา กล่าวว่า หากมีการเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่ให้นายกรณ์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงหลักการและเหตุผล ดังนั้น เมื่อทั้ง 2 คนมาแล้ว ก็ควรให้สมาชิกอภิปรายไปก่อน เพราะหากไม่ทัน ก็สามารถเลื่อนไปได้ เพราะการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน และการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ถือว่ามีความสำคัญไม่ต่างกัน
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ)กล่าวว่า ตนได้แจ้งให้ผู้ที่จะอภิปรายเรื่องนี้ ให้ส่งรายชื่อในวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งหากปล่อยให้มีการอภิปรายในวันนี้ เกรงว่าจะมีปัญหาในเรื่องการจัดระเบียบการอภิปราย และหาก ส.ว.ที่ไปร่วมงานที่พัทยา กลับมาอภิปรายในวันที่ 10 ส.ค. อาจจะทำให้สับสน และอภิปรายวกวน ซ้ำไปซ้ำมา อีกทั้งช่วงเช้าก็มีการให้ข่าวไปแล้วว่า จะมีการเลื่อนการพิจารณา ซึ่งเชื่อว่าประชาชนคงจะไม่เฝ้ารอการอภิปราย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ที่จริงถ้าสมาชิกจะย้อนกลับไปก่อนปิดสมัยประชุม ที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการพิจาณา พ.ร.ก. กู้เงิน 400,000 ล้านบาท ไปจนถึงเวลา 23.00 น. แต่นายประสพสุข เกรงว่าหากมีการหยิบ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 400,000 ล้านบาท ขึ้นมาพิจารณา อาจจะเลยเวลาและเลยสมัยการประชุม จึงได้สั่งปิดสมัยประชุมไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้รับแจ้งว่าจะมีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ดังกล่างในวันนี้ ตนได้เลื่อนกำหนดการทุกอย่าง และเข้ามาที่รัฐสภา แต่เมื่อได้รับทราบจากวิปวุฒิ ว่าจะเลื่อนออกไปพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพราะจะไปประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ที่พัทยา ตนก็เห็นว่าเมื่อมาแล้วก็ถือโอกาสมารับฟัง แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการพิจารณาเรื่องนี้ไม่มีอะไรเคลือบแคลง และขอให้ความมั่นใจว่า อาทิตย์หน้าตนจะมาชี้แจงแน่ และจะไม่รับนัดหมายเพิ่ม และตนก็เห็นว่าประธาน ควรทำตามคำแนะนำของสมาชิก ที่สั่งให้มีการเลื่อนวาระการประชุม และพักการประชุมออกไปก่อน
จากนั้นนายนิคม แจ้งว่าเนื่องจากรายละเอียดในเรื่องนี้มีจำนวนมาก อยากให้สมาชิกกลับไปศึกษา จากนั้นได้สั่งปิดประชุมเมื่อ เวลา 12.30 น.
นายนิคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรแอบแฝงทั้งสิ้น ส่วนที่ปล่อยให้นายกรณ์ ชี้แจงหลักการและเหตุผลก่อนนั้น เพราะนายกฯ ได้ขออนุญาตนายประสพสุข เพราะเมื่อมาถึงที่ประชุมวุฒิสภาแล้ว จึงอยากชี้แจงก่อน ส่วนที่สมาชิกวุฒิสภาสอบถามว่า หากไม่พิจารณาเหตุใดจึงบรรจุเข้าสู่วาระที่หนึ่งนั้น เพราะเรื่องนี้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระตั้งแต่สมัยการประชุมที่ผ่านมา ซึ่งการเลื่อนการพิจารณา ต้องขออำนาจจากที่ประชุม
ด้านนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงความสับสนในการประชุมเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทในครั้งนี้ ว่า ความจริงตนก็เลื่อนให้เป็นการภายใน ไปเป็นวันจันทร์ที่ 10 ส.ค. เนื่องจากมีสมาชิกต้องไปประชุมรัฐสภาอาเซียน แต่การเลื่อนจะต้องเป็นไปตามมติของสมาชิก จึงจะสามารถเลื่อนได้ ที่นายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ ต้องมาชี้แจงก่อน เพราะมันมีวาระที่ค้างอยู่ในที่ประชุมใหญ่ ซึ่งเห็นว่าไหนๆ ก็มาแล้ว ทางที่ประชุมจึงขอให้รัฐบาลชี้แจงไว้ก่อน แล้วค่อยมาประชุมอีกครั้งวันที่ 10 ส.ค.
