ASTVผู้จัดการรายวัน – แอ๊บบอต สบช่องไข้หวัด 2009 แพร่ระบาด รุกตลาดวิตามินเสริมทัพ หลังตลาด 3,500 ล้านบาท โตพรวด 20% ปั้น 3 แบรนด์ ทะลวง ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก รับพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน แห่ซื้อกินเพื่อป้องกันแทนการรักษา ปูพรมส่ง “เซอร์เบ็ค ซิงค์” เจาะผู้ชายวัยทำงาน ตั้งเป้า 5 เดือน โกยยอด 30 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 4,000 ล้านบาท โต 15% เกินเป้าหมาย
นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ผู้อำนวยการแผนกเวชภัณฑ์ บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์ วิตามิน และอาหารเพื่อโภชนาการ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป มองหาวิตามินกินเพื่อการป้องกันมากกว่าเพื่อการรักษา ดังนั้นภาวะตลาดวิตามินมูลค่า 3,500 ล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หลังจากก่อนหน้านี้คาดว่ามีอัตราการเติบโตไม่ถึง เนื่องจากปีนี้วิกฤตเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย
ดังนั้นบริษัทจึงมีนโยบายเชิงรุก ด้วยการเปิดตัวกลุ่มวิตามินเข้ามาทำตลาด หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องมือเวชภัณฑ์ สำหรับการดำเนินการตลาดวิตามินบริษัทวางแผนเปิดตัวสินค้า 3-4 รายการต่อปี โดยในปีนี้วางแผนเปิดตัววิตามินด้วยกัน 2 แบรนด์ ล่าสุดเปิดตัววิตามินสำหรับผู้ชายภายใต้แบรนด์”เซอร์เบ็ค ซิงค์” เจาะกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดตัวในเดือนสิงหาคม แต่จากการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ทำให้บริษัทต้องทำตลาดเร็วขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการตลาด
พร้อมกันนี้เปิดตัววิตามินรวมสำหรับเด็กแบรนด์”ไวเดย์ลีน” นำร่องเปิดตัววิตามินบำรุงสายตา และเตรียมเปิดตัวอีก 1 รายการ ซึ่งอาจะเป็นวิตามินบำรุงกระดูกหรือสมอง พร้อมกันนี้ในปีหน้า เตรียมเปิดตัววิตามินภายใต้แบรนด์”ไอบีเรท” วิตามินรวมสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน และผู้หญิงที่เตรียมตัวเป็นแม่ ด้านช่องทางจำหน่ายผ่านทาง ร้านขายยาชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บู๊ทส์ วัตสัน และคาดว่ากระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 เดือน โดยให้บริษัทซูริค ฟาร์มาซูติคอล เป็นผู้กระจายสินค้า สามารถเข้าถึงร้านค้า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ และร้านบู๊ทส์ 100 สาขา วัตสัน 150 สาขา
บริษัทได้ทุ่มงบการตลาด 30 ล้านบาท ผ่านการทำอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 5 เดือน ประมาณ 30 ล้านบาท และปีแรกตั้งเป้า 100ล้านบาท โดย 5 ปีมียอดขาย 200-300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของตลาดรวมมูลค่า 3,500 ล้านบาท และอีก 10 ปี คาดว่ามีส่วนแบ่ง 25% สำหรับรายได้รวมในปีนี้เติบโต 15% เกินเป้าหมายที่ตั้งเป้าโต 10% หรือราว 4,000 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มยา 1,000 ล้านบาท อาหารเสริม 1,500 ล้านบาท และเครื่องมือเวชภัณฑ์ 1,000 ล้านบาท
นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ผู้อำนวยการแผนกเวชภัณฑ์ บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์ วิตามิน และอาหารเพื่อโภชนาการ เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป มองหาวิตามินกินเพื่อการป้องกันมากกว่าเพื่อการรักษา ดังนั้นภาวะตลาดวิตามินมูลค่า 3,500 ล้านบาท ในปีนี้มีอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หลังจากก่อนหน้านี้คาดว่ามีอัตราการเติบโตไม่ถึง เนื่องจากปีนี้วิกฤตเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอย
ดังนั้นบริษัทจึงมีนโยบายเชิงรุก ด้วยการเปิดตัวกลุ่มวิตามินเข้ามาทำตลาด หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องมือเวชภัณฑ์ สำหรับการดำเนินการตลาดวิตามินบริษัทวางแผนเปิดตัวสินค้า 3-4 รายการต่อปี โดยในปีนี้วางแผนเปิดตัววิตามินด้วยกัน 2 แบรนด์ ล่าสุดเปิดตัววิตามินสำหรับผู้ชายภายใต้แบรนด์”เซอร์เบ็ค ซิงค์” เจาะกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดตัวในเดือนสิงหาคม แต่จากการแพร่ระบาดไข้หวัด 2009 ทำให้บริษัทต้องทำตลาดเร็วขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการตลาด
พร้อมกันนี้เปิดตัววิตามินรวมสำหรับเด็กแบรนด์”ไวเดย์ลีน” นำร่องเปิดตัววิตามินบำรุงสายตา และเตรียมเปิดตัวอีก 1 รายการ ซึ่งอาจะเป็นวิตามินบำรุงกระดูกหรือสมอง พร้อมกันนี้ในปีหน้า เตรียมเปิดตัววิตามินภายใต้แบรนด์”ไอบีเรท” วิตามินรวมสำหรับผู้หญิงวัยทำงาน และผู้หญิงที่เตรียมตัวเป็นแม่ ด้านช่องทางจำหน่ายผ่านทาง ร้านขายยาชั้นนำของประเทศ ได้แก่ บู๊ทส์ วัตสัน และคาดว่ากระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 3 เดือน โดยให้บริษัทซูริค ฟาร์มาซูติคอล เป็นผู้กระจายสินค้า สามารถเข้าถึงร้านค้า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ และร้านบู๊ทส์ 100 สาขา วัตสัน 150 สาขา
บริษัทได้ทุ่มงบการตลาด 30 ล้านบาท ผ่านการทำอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ายอดขาย 5 เดือน ประมาณ 30 ล้านบาท และปีแรกตั้งเป้า 100ล้านบาท โดย 5 ปีมียอดขาย 200-300 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% ของตลาดรวมมูลค่า 3,500 ล้านบาท และอีก 10 ปี คาดว่ามีส่วนแบ่ง 25% สำหรับรายได้รวมในปีนี้เติบโต 15% เกินเป้าหมายที่ตั้งเป้าโต 10% หรือราว 4,000 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มยา 1,000 ล้านบาท อาหารเสริม 1,500 ล้านบาท และเครื่องมือเวชภัณฑ์ 1,000 ล้านบาท