xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์ไข้หวัด2009ระบาดคนไทยกลัวตายดันสินค้าสุขภาพบูม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ทัพสินค้าเพื่อสุขภาพบูม รับอานิสงส์ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 แพร่ระบาด คนไทยตื่นตระหนกหันมาใส่ใจสุขภาพ “เครือสหพัฒน์” ชี้ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ 1.8 หมื่นล้านบาท ปีนี้โต 10%  ด้านอุปโภคบริโภคไทยอยู่ขั้นสร้างตลาด สบช่องกระแสโรคไข้หวัด 2009 ลุยปั้นน้ำยาล้างมือคิเรอิ คิเรอิ –หน้ากาก ส่วนไอ-เฮลติ ส่งรสชาติใหม่เสริมทัพ ด้านเซเรบอสชี้ทัศนะคนเปลี่ยนกินเพื่อป้องกันมากกว่ารักษา   

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ทิศทางกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพจะกลายเป็นตลาดใหญ่และมีศักยภาพ จากพฤติกรรมของคนไทยใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้คนมีอายุยืนขึ้น และกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะกลายเป็นประชากรที่มากขึ้น อีกทั้งการมีการแพร่ระบาดโรคต่างๆ ขึ้น ทั้งจากโรคซาร์ ไข้หวัดนก และล่าสุดไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 เป็นปัจจัยกระตุ้นทำให้คนตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับตลาดอุปโภคบริโภคในประเทศไทย อยู่ระหว่างการสร้างตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ เมื่อเทียบกับญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคที่พัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในด้านสุขภาพห่างจากไทยถึง 10 ปี โดยเฉพาะตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นับว่ามีการพัฒนาไปมาก และยังมีความหลากหลาย อย่างไรก็ตามผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ เพราะผู้บริโภคมีความฉลาดมากขึ้น การตัดสินใจซื้อสินค้าไม่คำนึงถึงด้านราคา แต่เลือกสินค้าที่ให้มูลค่าคุ้มค่ากับเม็ดเงิน
“คนไทยเริ่มมีความรู้และการศึกษามากขึ้น ใส่ใจข้อมูลและคุณภาพสินค้า โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมการซื้อสินค้า มีการอ่านข้อมูลโภชนาการหรือประโยชน์ที่ได้รับจากตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น นอกจากนี้ยังมองว่า การมีสุขภาพที่ดีนอกจากตอบโจทย์ทางด้านร่างกายแข็งแล้ว ยังตอบโจทย์ในเรื่องความงามซึ่งเป็นผลพลอยได้” นายบุญฤทธิ์ กล่าว
นโยบายการตลาดของบริษัท มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยจะใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาตอบสนองเฮลธ์สไตล์ของผู้บริโภคคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้นำเสนออุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพลงตลาดอย่างต่อเนื่อง แป้งโลชั่นโคะโดะโมะ ผงซักฟอกเฮยาโบชิ ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ  แชมพูสระผมฟอลเลส เป็นต้น
ล่าสุดบริษัทได้เตรียมเปิดตัวแคมเปญน้ำยาล้างมือภายใต้แบรนด์”คิเรอิ คิเรอิ” โดยจะมีการรณรงค์ให้คนไทยดูแลสุขภาพด้วยการล้างมือมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคต่างๆ นอกจากนี้เครือสหพัฒน์ยังได้เปิดตัวหน้ากาก เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโรคต่างๆ เข้ามาทำตลาด สอดรับกับกระแสการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ที่เกิดขึ้น
“เราพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคของเครือสหพัฒน์ ได้รับการยอมรับและขยายตัวในวงกว้างมากขึ้น และผลักดันให้สินค้ามีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การดำเนินการพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพของไลอ้อนเป็นทิศทางที่ถูกต้อง” นายบุญฤทธิ์กล่าว
***ตลาดสุขภาพ1.8หมื่นล.โตสวนเศรษฐกิจ***
นางเพ็ญนภา ธนสารศิลป์ กรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ทิศทางตลาดอาหารเพื่อสุขภาพมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท ในปีนี้เติบโต 10% สวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจ เนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น และมุ่งเน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา อีกทั้งยังพบว่า คนไทยเริ่มมีอายุยาวขึ้น และปัจจัยรอบด้านอย่าง มลพิษต่างๆการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ผลักดันให้ตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพในอนาคตเป็นตลาดที่ใหญ่และมีศักยภาพ
การดำเนินการตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งสินค้าภายใต้แบรนด์ ”ไอ-เฮลติ” และ ”ฮาร์ทติ เบเนคอล” ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้จะเปิดตัวสินค้าใหม่ลงตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มไอ-เฮลติ ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด
***เซเรบอสชี้กินเพื่อป้องกันบูมตลาด**
นางสาวลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหารภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซุปไก่สกัดตราแบรนด์  กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดโรคภัยต่างๆ ที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้คนไม่สามารถมองข้ามหรือละเลยในเรื่องสุขภาพไปได้ แต่กลับหันมาให้ความสำคัญใส่ใจในเรื่องของสุขภาพเพิ่มขึ้นเพื่อต้องการทำให้ร่างกายแข็งแรงตนเองอยู่เสมอ
“ทัศนคติของคนไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมต้องเจ็บป่วยก่อนแล้วจึงมารักษาพยาบาล แต่ขณะนี้คนไทยเริ่มมีความรู้ ใส่ใจสุขภาพ และกลับมาให้ความสำคัญด้านการป้องกันมากกว่าการรักษา โดยต้องการทำให้สุขภาพแข็งแรง เพื่อไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ”
นางสาวลักขณา  กล่าวว่า ในยามเศรษฐกิจไม่ดี พฤติกรรมของผู้บริโภคในการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาจลดความถี่ในการซื้อสินค้าลงบ้าง และซื้อสินค้าขนาดเล็กลง แต่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจก็เป็นโอกาสเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในยุคนี้ทุกคนตระหนักว่า การป่วยแต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลสูงขึ้นและยิ่งการแพร่ระบาดของโรคที่นับว่ารุนแรงและมีเชื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ยิ่งเป็นปัจจัยบวกทำให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น