xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจอาหารเร่งแผนคึกคักรับออร์เดอร์ตปท.ไหลเข้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน –  “ไทยเฟ็กซ์ 2009” ชี้ สัญญาณเศรษฐกิจไตรมาส 2 ส่อเค้าดี ออร์เดอร์ต่างประเทศเริ่มโต หลังตลาดช็อกไตรมาสแรก ระบุงานแสดงสินค้าบายเออร์ต่างประเทศคึกคัก ด้านอาหารทะเลแปรรูป รับอานิสงส์ไข้หวัด 2009 เร่งขยายส่งอาหารทะลวงตลาดยุโรป ผู้ประกอบการอาหารหวังงานไทยเฟ็กซ์ช่วยสร้างตลาดใหม่ ดันส่งออกโตพรวด สิ้นปีโกยรายได้เข้าเป้า  

วานนี้ ( 13 พฤษภาคม 2552) กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดงาน ”ไทยเฟ็กซ์ –เวิลด์ ออฟ ฟู้ดส์ เอเชีย 2009“ งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีผู้ประกอบการร่วม 2,100 คูหา ซึ่งจัดวันเจรจาธุรกิจขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 พฤษภาคม และวันจำหน่ายปลีกวันที่ 16-17 พฤษภาคมนี้ ที่เมืองทองธานี

นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวตราเกษตร กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการผู้ประกอบการ และสภาพตลาดเกิดช็อกขึ้นในไตรมาสแรก โดยพบว่าผู้ประกอบการชะลอการสั่งซื้อสินค้า แต่เดือนมีนาคม-เมษายน เริ่มมียอดสั่งซื้อสินค้ามากขึ้นขณะที่ประเทศออสเตรเลียและอีกหลายประเทศเริ่มฟื้นตัว

ดังนั้นสัญญาณที่ดีขึ้น ทำให้สำหรับบรรยากาศภายในงานไทยเฟ็กซ์ในปีนี้ ถือว่ากลุ่มผู้ประกอบการต่างประเทศคึกคักพอสมควร สำหรับการออกบูธในครั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าในภาวะที่เกิดวิกฤตก็ยังมีโอกาส ซึ่งตั้งเป้าว่าในงานดังกล่าวจะสามารถทำให้บริษัท ขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 75 ประเทศ จากปัจจุบันทำตลาด 69 ประเทศ
นอกจากนี้ปีนี้บริษัทเน้นขยายตลาดในจีนเชิงรุก  

แนวโน้มตลาดอาหารปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ตลาดโตลดลง 10-20% แต่คาดว่าจะเป็นระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามไทยมีภาพลักษณ์ครัวไทยสู่ครัวโลก เนื่องจากสามารถซัพพลายวัตถุดิบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี  ซึ่งหากภาครัฐมีการโปรโมทร่วมกับการท่องเที่ยว จะส่งอุตสาหกรรมอาหารไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการไทยควรปรับตัวทยอยการสร้างมูลค่าเพิ่ม

ล่าสุดบริษัทได้ปรับตัวจากผู้ประกอบการข้าวมาสู่เกษตรสำเร็จรูป โดยแตกไลน์ข้าวต้มสำเร็จรูป 2รสชาติ ลงตลาดมูลค่า 200-300ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทมีวุ้นเส้นสำเร็จรูป และโจ๊ก ซึ่งปีนี้คาดว่ากลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูปสัดส่วนรายได้เพิ่มจาก 25% เป็น 30% ส่วนข้าวจาก  75% เป็น70% ส่วนรายได้สิ้นปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มจาก 2,140 ล้านบาท เป็น 2,400 ล้านบาท   
***พี.เอฟ.พี.ชี้ส่งออกQ2เริ่มฟื้น ***
นายทวี ปิยะพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอฟ.พี เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปพี.เอฟ.พี. กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 2 ยอดขายจากต่างประเทศเริ่มมีทิศทางดีขึ้น หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดสั่งซื้อสินค้าลดลง 20% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ  ทำให้ตลาดช็อก ผู้ประกอบการปรับตัวลดสต็อกสินค้าลง แต่พบว่าช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ยอดการสั่งซื้อสินค้าโต 10% ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจเดินหน้าขยายตลาดใหม่ ในยุโรปตะวันออกกลางและเกาหลี แม้ว่าค่าเงินบาทขณะนี้เริ่มแข็งค่าขึ้น โดยบริษัทมองว่าค่าเงินบาทควรอยู่ที่ประมาณ 37-38 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ เอื้อการส่งออกไทยขณะนี้  
สำหรับงานไทยเฟ็กซ์ บริษัทคาดว่าลูกค้าใหม่เพิ่ม 5 ราย จากการเชิญผู้เข้าร่วมงาน 30 ราย ซึ่งผลักดันให้รายได้เติบโต 5-10% นอกจากนี้ปีนี้ยังมองว่า ผู้ประกอบการอาหารทะเลแปรรูปยังได้รับอานิสงส์ จากไข้หวัด 2009 ส่งผลให้คนในยุโรปเปลี่ยนพฤติกรรมมากินอาหารทะเลแปรรูป โดยบริษัทนำเมนูใหม่เปิดตัวในตลาดต่างประเทศ อาทิ ไส้กรอกปลา จากปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นตลาดหลักสร้างรายได้ 40% และตั้งเป้าตลาดในยุโรปเพิ่มสัดส่วนจาก 15% เป็น 20% จากรายได้ต่างประเทศปีนี้ 2,000ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 1,800ล้านบาท ส่วนรายได้รวมสิ้นปีมั่นใจได้ตามเป้าหมาย 3,200ล้านบาท จาก 2,800ล้านบาท
***ที.ซี.ฯลั่นส่งออกไม่กระเตื้อง ***
นายปิยะ กิตติธีรพรชัย  ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี.แนลเชอรัล จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบริ๊งค์ โอเม็กซ์ กล่าวว่า ปีนี้บรรยากาศภายในงานไทยเฟ็กซ์มองว่าไม่ค่อยคึกคึก โดยมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศไม่มากนัก ซึ่งคาดว่าจะเกิดการซื้อ-ขาย ภายในประเทศเองมากกว่า ส่วนสินค้าที่ได้รับการตอบรับดี อาทิ อาหารซีฟู้ดส์ เครื่องจักร ผลไม้ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การตอบรับยังไม่ดีมากนัก โดยบริษัทมองว่าภาพรวมส่งออกปีนี้ของประเทศไทยค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก
การขยายตลาดต่างประเทศ ปีนี้เริ่มนำผลิตภัณฑ์แก้อาการเมาค้างเวคกี้ ทำตลาด 3ประเทศในเอเชีย พร้อมกันเปิดตัวบริ๊งค์ในกัมพูชา เป็นต้น และเตรียมออกบูธประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม  ส่วนในประเทศได้เปิดตัวสินค้าใหม่ บริ๊งค์ไวท์ และสกินแคร์บริ๊งค์  และปรับชอปของบริษัท 9 แห่ง มาเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งปีนี้คาดว่าตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000-2,500 ล้านบาทเติบโตลดลง โดยรายได้สิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้า 10-20%
กำลังโหลดความคิดเห็น