ASTVผู้จัดการรายวัน – เอกชนเตรียม ร้องวีระศักดิ์ ปรับแผนทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น จี้ลดงานโรดโชว์เพราะไม่เห็นผล ให้หันมาทำโฆษณาตรงถึงผู้บริโภค พร้อมเจาะตลาดผู้สูงวัย เปิดวีซ่าให้พักนานจาก 1 เดือนเพิ่มเป็น 3 เดือน ชี้ตลาดญี่ปุ่น 7 เดือนแรกยอดหดกว่า 48%
นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เตรียมนำมติที่ประชุมของสมาคมเสนอต่อ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการ(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ให้ ททท.ปรับแผนการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น โดยให้เน้นแบบเจาะตรงถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น การทำป้ายโฆษณาบนรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลา 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน
ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 4-5 ล้านบาท โดยให้ ททท.ระบุเว็บไซต์ของ ททท.ในป้ายโฆษณาด้วยเพื่อจะได้วัดผลความสนใจของชาวญี่ปุ่นได้ ขณะที่บริษัทนำเที่ยวในญี่ปุ่น มีความพร้อมที่จะต่อยอดจากป้ายโฆษณา โยจะนำเสนอเป็นป้ายโฆษณาภายในตู้รถไฟ นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย หนุนไปอีกแรงหนึ่ง
“บริษัทนำเที่ยวเห็นตรงกันว่า การที่ ททท.จัดโรดโชว์ในญี่ปุ่น ไม่ค่อยได้ผล เพราะตลาดนี้ นักท่องเที่ยวเป็นผู้ตัดสินใจเดินทางเอง ไม่ต้องคอยฟังบริษัททัวร์หรือ รัฐบาลมากนัก ซึ่งต่างจากประเทศจีน ดังนั้นเราต้องปรับแผนให้เหมาะกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวแต่ละตลาดด้วย ซึ่งต่อปี ททท.จะเสียงบโรดโชว์ที่ญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
จึงควรแบ่งมาทำกิจกรรมรูปแบบอื่นบ้าง”
นอกจากนั้นจะเสนอให้ผ่อนปรนนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุชาญี่ปุ่นพักในประเทศไทยได้นาน 3 เดือน จากปัจจุบันนี้ได้เพียง 1 เดือน เท่านั้น ทั้งนี้เพราะตลาดผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่น มีกำลังซื้อสูง แต่ละคนจะมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 1 แสนบาท จึงเพียงพอที่จะเข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน
ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นเป็นตลาดใหญ่ มีสัดส่วน 22% ของจำนวนประชากร แต่ละคนมีกำลังซื้อ เพราะประเทศไทยค่าใช้แพง ซึ่งจากภาวะเศรษฐกิจโลกเชื่อว่า ไทยมีความได้เปรียบ เมื่อเทียบกับการตัดสินใจเดินทางไปยุโรป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก
จำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยผ่านสมาชิกของแอตต้า 7เดือนแรกปีนี้ ลดลง 48% มีจำนวนอยู่ที่ 3 แสนคน แต่ขณะนี้เริ่มมีบุ๊กกิ้งเข้ามาบ้างแล้ว เดือน ก.ย.มีชาร์เตอร์ไฟล์จากเมืองฮอกไกโด เข้ามา1 ลำ จำนวน 225 คน และจะมีทยอยเข้ามาอีก เพราะ เดือน ส.ค.-ก.ย. ญี่ปุ่นมีวันหยุดยาว แต่ทั้งนี้ประเทศไทยต้องมีความสงบด้านการเมือง
และควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ได้ผลดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมด สมาคมฯจะนำเสนอผ่านนายวีระศักดิ์ ไปยังนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หากสิ่งใดต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะได้เร่งดำเนินการ เพราะจะได้กระตุ้นตลาดญี่ปุ่นให้เดินทางเข้ามาทันในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อดี เป็นตลาดที่มีศักยภาพ
นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เตรียมนำมติที่ประชุมของสมาคมเสนอต่อ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการ(บอร์ด) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ให้ ททท.ปรับแผนการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น โดยให้เน้นแบบเจาะตรงถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว เช่น การทำป้ายโฆษณาบนรถไฟที่ประเทศญี่ปุ่น ระยะเวลา 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน
ซึ่งจะใช้งบประมาณราว 4-5 ล้านบาท โดยให้ ททท.ระบุเว็บไซต์ของ ททท.ในป้ายโฆษณาด้วยเพื่อจะได้วัดผลความสนใจของชาวญี่ปุ่นได้ ขณะที่บริษัทนำเที่ยวในญี่ปุ่น มีความพร้อมที่จะต่อยอดจากป้ายโฆษณา โยจะนำเสนอเป็นป้ายโฆษณาภายในตู้รถไฟ นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย หนุนไปอีกแรงหนึ่ง
“บริษัทนำเที่ยวเห็นตรงกันว่า การที่ ททท.จัดโรดโชว์ในญี่ปุ่น ไม่ค่อยได้ผล เพราะตลาดนี้ นักท่องเที่ยวเป็นผู้ตัดสินใจเดินทางเอง ไม่ต้องคอยฟังบริษัททัวร์หรือ รัฐบาลมากนัก ซึ่งต่างจากประเทศจีน ดังนั้นเราต้องปรับแผนให้เหมาะกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวแต่ละตลาดด้วย ซึ่งต่อปี ททท.จะเสียงบโรดโชว์ที่ญี่ปุ่นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
จึงควรแบ่งมาทำกิจกรรมรูปแบบอื่นบ้าง”
นอกจากนั้นจะเสนอให้ผ่อนปรนนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุชาญี่ปุ่นพักในประเทศไทยได้นาน 3 เดือน จากปัจจุบันนี้ได้เพียง 1 เดือน เท่านั้น ทั้งนี้เพราะตลาดผู้สูงวัยชาวญี่ปุ่น มีกำลังซื้อสูง แต่ละคนจะมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 1 แสนบาท จึงเพียงพอที่จะเข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 2-3 หมื่นบาทต่อเดือน
ผู้สูงอายุในญี่ปุ่นเป็นตลาดใหญ่ มีสัดส่วน 22% ของจำนวนประชากร แต่ละคนมีกำลังซื้อ เพราะประเทศไทยค่าใช้แพง ซึ่งจากภาวะเศรษฐกิจโลกเชื่อว่า ไทยมีความได้เปรียบ เมื่อเทียบกับการตัดสินใจเดินทางไปยุโรป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก
จำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยผ่านสมาชิกของแอตต้า 7เดือนแรกปีนี้ ลดลง 48% มีจำนวนอยู่ที่ 3 แสนคน แต่ขณะนี้เริ่มมีบุ๊กกิ้งเข้ามาบ้างแล้ว เดือน ก.ย.มีชาร์เตอร์ไฟล์จากเมืองฮอกไกโด เข้ามา1 ลำ จำนวน 225 คน และจะมีทยอยเข้ามาอีก เพราะ เดือน ส.ค.-ก.ย. ญี่ปุ่นมีวันหยุดยาว แต่ทั้งนี้ประเทศไทยต้องมีความสงบด้านการเมือง
และควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ได้ผลดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอทั้งหมด สมาคมฯจะนำเสนอผ่านนายวีระศักดิ์ ไปยังนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ หากสิ่งใดต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะได้เร่งดำเนินการ เพราะจะได้กระตุ้นตลาดญี่ปุ่นให้เดินทางเข้ามาทันในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อดี เป็นตลาดที่มีศักยภาพ
