ASTVผู้จัดการรายวัน – ทัวร์เบรก ททท.หากคิดจะโรดโชว์ในญี่ปุ่น ชี้เสียเงินเปล่า แนะใช้งบน้อยๆแค่ประชาสัมพันธ์ก็เพียงพอ เผยถ้าการเมืองไทยยังไม่นิ่งตลาดญี่ปุ่นก็ยังไม่กลับมาแน่ เผย 4 เดือนยอดตลาดญี่ปุ่นวูบ 90% ทำใจปีนี้ดีที่สุดคงได้แค่ 1 ล้านคน ขณะที่ ททท.ดันทุรังเข็นเส้นทางเที่ยวอีสานลุยโชว์ในญี่ปุ่น อ้างเพื่อความต่อเนื่องเพราะปีที่ผ่านมาไปเปิดตลาดไว้แล้ว หวังเสียเงินเปล่า
นายอเนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวตลาดญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีจำนวนลดลงต่อเนื่องโดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงไปแล้ว 80-90% ทั้งนี้เพราะความไม่มั่นใจกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยโดยญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ออกหนังสือเตือนประชาชนไม่ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งแม้ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของประเทศไทยสงบลงไปบ้างแล้วแต่เขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ เพราะก็ยังมีการนัดชุมนุมช่วงสั้นๆกันอย่างต่อเนื่อง เขาจึงรอดูให้สถานการณ์ภายในประเทศของไทยสงบจนเป็นที่น่าพอใจเสียก่อนจึงจะตัดสินใจกลับเข้ามาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นเป็นตลาดที่อ่อนไหวมาก ไม่แพ้ประเทศจีน และเกาหลี และยังพลิกฟื้นกลับมายากกว่าตลาดจีน เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถสั่งให้ประชาชนไปหรือไม่ไปเที่ยวประเทศใดได้เหมือนกับประเทศจีน ขึ้งอยู่กับความพอใจของนักท่องเที่ยวเองด้วย ดังนั้นเชื่อว่าในระยะ 2 เดือนนี้ตลาดญี่ปุ่นคงยังไม่ฟื้นกลับมาเท่าใดหนักซึ่งหากสถานการณ์ทางการเมืองของไทยเริ่มนิ่งจนเป็นที่น่าพอใจอาจเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือ FIT เดินทางเข้ามาบ้าง แต่กรุ๊ปใหญ่ๆอาจต้องใช้เวลาไปถึงปลายปีจึงอาจจะเริ่มพิจารณากลับเข้ามาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง
ดังนั้นจึงมองว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ยังไม่สมควรที่จะทุ่มงบไปกับการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากนักเพราะจะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น หากเป็นไปได้ควรทำเพียงแค่การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประเทศไทย เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาก้เพียงพอ
“ตลาดญี่ปุ่นตอนนี้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปโรดโชว์ เพราะจะเสียเงินเปล่า เพราะนักท่องเที่ยวคงยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เขาจะรอดูให้ประเทศไทยสงบจนเขาพอใจก่อนจึงจะกลับมา ดังนั้นหาก ททท.จะทุ่มงบไปโรดโชว์คงเสียเงินเปล่า แต่ถ้าเดินทางเพื่อไปประชาสัมพันธ์ใช้งบไม่มากนักก็สามารถทำได้ ส่วนบริษัทนำเที่ยวตอนนี้ก็ไม่ได้คิดโปรโมชั่นอะไรใหม่ๆ
เพราะไม่มีประโยชน์ เขาคงยังไม่กลับมาแน่ เพราะตลาดญี่ปุ่นไม่ได้สนใจเรื่องราคาโปรโมชั่นมากเท่ากับเรื่องของความปลอดภัย โดยฤดูท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่นจะอยู่ในเดือนสิงหาคมเพราะเป็นช่วงปิดภาคเรียน จะมีกลุ่มครอบครัว นักเรียน นักศึกษาออกเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก”
ทั้งนี้ตั้งแต่ประเทศไทยมีความไม่สงบซึ่งเกิดจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ นักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยได้อยู่เกือบ 1.4 ล้านคนในปี 2550 ก็ลดเหลือ 1.16 ล้านคนในปี 2551 ขณะที่ในปี 2552 นี้ คาดว่าทำได้อย่างดีก็แค่ 1 ล้านคน เพราะมีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลก การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งทำให้การเดินทางออกนอกประเทศของชาวญี่ปุ่นลดลง และประเทศไทยยังมีปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ เป็นปัจจัยลบที่ทำให้ญี่ปุ่นยังไม่เลือกที่จะมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กรุ๊ปทัวร์เยาวชนจากญี่ปุ่นที่จะเดินทางมาไทยช่วงไตรมาส 3 ก็ยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทยแล้ว
ทางด้าน น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า การเข้าร่วมงานเทศกาลไทย(Thai Festival) ครั้งที่ 10 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในกลางเดือนนี้ ททท.จะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน เพื่อเป็นการสานต่อในโครงการอะเมซิ่งอีสาน ที่ททท.ได้เคยไปนำเสนอไว้ที่ตลาดญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา
แต่ก็จะไม่ทิ้งเดสติเนชั่นอื่นๆในประเทศไทยที่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นด้วย เช่น ทะเล ชอปปิ้ง โดยททท.จะใช้เวทีของงานเทศกาลไทยนี้ เป็นหน้าร้านในการโฆษณาประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะการจัดงานแต่ละครั้งจะมีชาวญี่ปุ่นสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่า 1 แสนคน
นายอเนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวตลาดญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้มีจำนวนลดลงต่อเนื่องโดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงไปแล้ว 80-90% ทั้งนี้เพราะความไม่มั่นใจกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยโดยญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ออกหนังสือเตือนประชาชนไม่ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทย ซึ่งแม้ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของประเทศไทยสงบลงไปบ้างแล้วแต่เขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจ เพราะก็ยังมีการนัดชุมนุมช่วงสั้นๆกันอย่างต่อเนื่อง เขาจึงรอดูให้สถานการณ์ภายในประเทศของไทยสงบจนเป็นที่น่าพอใจเสียก่อนจึงจะตัดสินใจกลับเข้ามาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าญี่ปุ่นเป็นตลาดที่อ่อนไหวมาก ไม่แพ้ประเทศจีน และเกาหลี และยังพลิกฟื้นกลับมายากกว่าตลาดจีน เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถสั่งให้ประชาชนไปหรือไม่ไปเที่ยวประเทศใดได้เหมือนกับประเทศจีน ขึ้งอยู่กับความพอใจของนักท่องเที่ยวเองด้วย ดังนั้นเชื่อว่าในระยะ 2 เดือนนี้ตลาดญี่ปุ่นคงยังไม่ฟื้นกลับมาเท่าใดหนักซึ่งหากสถานการณ์ทางการเมืองของไทยเริ่มนิ่งจนเป็นที่น่าพอใจอาจเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือ FIT เดินทางเข้ามาบ้าง แต่กรุ๊ปใหญ่ๆอาจต้องใช้เวลาไปถึงปลายปีจึงอาจจะเริ่มพิจารณากลับเข้ามาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง
ดังนั้นจึงมองว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ยังไม่สมควรที่จะทุ่มงบไปกับการทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากนักเพราะจะสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น หากเป็นไปได้ควรทำเพียงแค่การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประเทศไทย เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาก้เพียงพอ
“ตลาดญี่ปุ่นตอนนี้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องไปโรดโชว์ เพราะจะเสียเงินเปล่า เพราะนักท่องเที่ยวคงยังไม่กลับมาในเร็วๆนี้แน่ เขาจะรอดูให้ประเทศไทยสงบจนเขาพอใจก่อนจึงจะกลับมา ดังนั้นหาก ททท.จะทุ่มงบไปโรดโชว์คงเสียเงินเปล่า แต่ถ้าเดินทางเพื่อไปประชาสัมพันธ์ใช้งบไม่มากนักก็สามารถทำได้ ส่วนบริษัทนำเที่ยวตอนนี้ก็ไม่ได้คิดโปรโมชั่นอะไรใหม่ๆ
เพราะไม่มีประโยชน์ เขาคงยังไม่กลับมาแน่ เพราะตลาดญี่ปุ่นไม่ได้สนใจเรื่องราคาโปรโมชั่นมากเท่ากับเรื่องของความปลอดภัย โดยฤดูท่องเที่ยวของชาวญี่ปุ่นจะอยู่ในเดือนสิงหาคมเพราะเป็นช่วงปิดภาคเรียน จะมีกลุ่มครอบครัว นักเรียน นักศึกษาออกเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก”
ทั้งนี้ตั้งแต่ประเทศไทยมีความไม่สงบซึ่งเกิดจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ นักท่องเที่ยวจากตลาดญี่ปุ่นก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยได้อยู่เกือบ 1.4 ล้านคนในปี 2550 ก็ลดเหลือ 1.16 ล้านคนในปี 2551 ขณะที่ในปี 2552 นี้ คาดว่าทำได้อย่างดีก็แค่ 1 ล้านคน เพราะมีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลก การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งทำให้การเดินทางออกนอกประเทศของชาวญี่ปุ่นลดลง และประเทศไทยยังมีปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ เป็นปัจจัยลบที่ทำให้ญี่ปุ่นยังไม่เลือกที่จะมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กรุ๊ปทัวร์เยาวชนจากญี่ปุ่นที่จะเดินทางมาไทยช่วงไตรมาส 3 ก็ยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทยแล้ว
ทางด้าน น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า การเข้าร่วมงานเทศกาลไทย(Thai Festival) ครั้งที่ 10 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในกลางเดือนนี้ ททท.จะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน เพื่อเป็นการสานต่อในโครงการอะเมซิ่งอีสาน ที่ททท.ได้เคยไปนำเสนอไว้ที่ตลาดญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา
แต่ก็จะไม่ทิ้งเดสติเนชั่นอื่นๆในประเทศไทยที่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นด้วย เช่น ทะเล ชอปปิ้ง โดยททท.จะใช้เวทีของงานเทศกาลไทยนี้ เป็นหน้าร้านในการโฆษณาประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะการจัดงานแต่ละครั้งจะมีชาวญี่ปุ่นสนใจเข้าร่วมชมงานมากกว่า 1 แสนคน
