ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภูเก็ตจี้กระทรวงสาธารณสุขเร่งควบคุมการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้ได้ หากปล่อยให้แพร่ระบาดนานจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเร่งรัฐกู้ภาพลักษณ์การเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว เชื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับเข้ามาในไม่ช้านี้ คาดไฮชีซันนี้อัตราเข้าพักภูเก็ตน่าจะอยู่ที่ 70% แต่หากไข้หวัดใหญ่ฯยังไม่หยุดระบาดอาจลดลงเหลือแค่ 60% เท่านั้น
นายกฤษฎา ตันสกุล อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ และผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหาดป่าตอง กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต ภายหลังจากที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แพร่ระบาดหนักทั่วประเทศ จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 11 คน และจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญก็มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไปแล้ว 1 ราย โดยผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย และพนักงานผับแห่งหนึ่งก็ติดเชื้อไปแล้ว 2 คน ซึ่งขณะนี้ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั้งหมด 41 คน ได้รับการรักษาหายแล้ว 40 คน ยังเหลือที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งรายว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นปัจจัยหนึ่งที่ไม่ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต
หากยังมีข่าวการแพร่ระบาดทั่วทั้งประเทศและการแพร่ระบาดภูเก็ตเกิดขึ้นทุกวัน และหากทางกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อได้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลในการที่จะตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ถือว่าภูเก็ตยังโชคดีอยู่บ้างที่ช่วงวันหยุดยาว 5 วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางเข้ามาภูเก็ตเป็นจำนวนมาก ทำให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 60% และหลังจากวันหยุดยาวหมดไปแล้วอัตราพักโดยรวมก็จะอยู่ที่ไม่เกิน 30-35% โดยป่าตองจะอยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งหลังจากนี้นักท่องเที่ยวหลักที่เข้ามาภูเก็ตก็จะเป็นกลุ่มตะวันออกกลางและออสเตรเลีย
จึงอยากจะฝากไปถึงกระทรวงสาธารณสุขให้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดให้เข้มข้นมากกว่าที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรงเรียน ชุมชน พื้นที่ที่พบการติดเชื้อและพื้นที่เสี่ยง เพราะจะเห็นว่าในช่วงแรกของการแพร่ระบาดกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างเข้มข้นแต่มาช่วงหลังๆ ค่อนข้างที่จะบางเบาลง จนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 11 คน จึงได้เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดอีกครั้งหนึ่ง
นายกฤษฎากล่าวอีกว่า หากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังไม่สามารถควบคุมได้ เชื้อว่าการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้จะต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เมื่อบวกเข้ากับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว นักท่องเที่ยวของภูเก็ตซึ่งเป็นกลุ่มจากยุโรปเป็นหลักเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในระยะใกล้ เชื่อว่าท่องเที่ยวของภูเก็ตไม่น่าจะถึง 60% จากที่คาดกันไว้ว่าไฮซีซันปีนี้อัตราเข้าพักโดยรวมน่าจะอยู่ที่ 70% หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 20009 ได้ แต่หากไม่ได้ก็จะเป็นการซ้ำเติมการท่องเที่ยวเข้าไปอีก
ด้าน นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในขณะนี้และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเทียบไม่ได้กับผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวของไทยและภูเก็ตจากปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นภายในประเทศของเราเอง ทั้งการบินสนามบิน เหตุการณ์เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เพราะทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นการทำให้นักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากมาก
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นโรคที่เกิดขึ้นทั่วโลก และเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ เพียงเมื่อเรารู้ว่าตัวเองเป็นไข้หวัดให้เรียบไปหาหมอ เพื่อทำการรักษา และอยากจะให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเลิกพูดถึงการแพร่ระบาดได้แล้ว เพราะหลายประเทศเขาเลิกพูดถึงเรื่องนี้ เพราะพูดมากไปก็ไม่ดี สิ่งที่อยากจะให้รัฐบาลเร่งทำให้ขณะนี้คือฟื้นภาพลักษณ์การเป็นเมืองที่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว มาเที่ยวไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น สามารถกลับประเทศได้ตามที่กำหนดก็จะเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับมาได้
“ผมได้คุยกับเพื่อนที่ทัวร์ที่ประเทศญี่ปุ่นว่า มองอย่างไรกรณีของไข้หวัดใหญ่ เขาบอกว่าเขาไปได้กังวลเรื่องไข้หวัดใหญ่ เพราะสามารถรักษาให้หายได้ แต่สิ่งที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นกังวลมากคือความปลอดภัยในการเดินทางมาท่องเที่ยว และปัญหาเศรษฐกิจก็ไม่ใช้ปัญหาหลักเพราะคนยังคงเดินทางท่องเที่ยวอยู่และในขณะนี้ถือว่าเป็นโอกาสทองของคนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวด้วยซ้ำ เพราะสายการบินต่างๆมีการลดราคาค่าตั๋วลงมาก หากเราสามารถทำให้ประเทศสงบอีกไม่นานการท่องเที่ยวของไทยก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ”