xs
xsm
sm
md
lg

สกัดแผน “แดงทรพี” เดินเกมยื่นฎีกาเถื่อน ข้ามองคมนตรีไปถึงใคร?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไม่เพียงเหล่าคณาจารย์ นักวิชาการด้านนิติศาสตร์-รัฐศาสตร์ จากหลายสถาบัน–กลุ่มมวลชนจากหลายสาขาอาชีพ ที่พร้อมใจกันออกมาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ การชี้ให้เห็นถึง
พฤติกรรมมิบังควร ของพลพรรค “แดงทรพี” ที่ทำทุกอย่างเพียงเพื่อ”พ่อทักษิณ ชินวัตร” จนถึงขั้นเตรียมการยื่นถวายฎีกา 1 ล้านรายชื่อต่อสำนักราชเลขาธิการ หวังกดดันพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยอภัยโทษให้ทักษิณ พ้นผิดไม่ต้องติดคุกตามคำตัดสินของศาล
อันถือเป็นการ“ละเมิดพระราชอำนาจ-ดึงฟ้าให้ลงต่ำ”
เสียงคัดค้านทั้งหมดได้นำหลักการของกฎหมาย และขอบเขตเรื่องพระราชอำนาจทุกแง่มุมมาอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจแล้วว่า ไม่สามารถกระทำได้ด้วยประการทั้งปวง และควรยุติการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ บนเสียงเรียกร้องให้แกนนำเสื้อแดง ยกเลิกการสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนด้วยการไปล่ารายชื่อดังกล่าว
ทว่าสรรพเสียงทั้งหลายก็ไม่ได้ทำให้การดำเนินการของแกนนำเสื้อแดง ที่ทำเรื่องนี้ยุติลงแต่อย่างใด
มาวันนี้ ข้อเป็นห่วงดังกล่าว ได้ลุกลามขยายไปถึงสังคมวงกว้างมากขึ้น ประชาชนหลายสาขาอาชีพเริ่มออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงมากขึ้น ทั้งในส่วนของรัฐบาล ที่ยังไล่ตามไม่ทันทักษิณ ชินวัตร เพราะยังหวังแต่จะใช้กลไก กระทรวงมหาดไทย ผวจ.-นายอำเภอ ขอให้ชี้แจงกับประชาชนอย่าไปร่วมลงชื่อดังกล่าว
แต่ก็พบว่ากลไกนี้ใช้ไม่ได้ผล หลังประชาชนไปร่วมเซ็นชื่อด้วยความเข้าใจผิดเกิน 1 ล้านรายชื่อไปเสียแล้ว
จนทำให้พรรคภูมิใจไทย ที่คุมกระทรวงมหาดไทยต้องออกมาแก้หน้าด้วยการออกแถลงการณ์คัดค้านเรื่องนี้ในนามพรรค และขึ้นป้ายทั่วทุกมุมเมืองในกรุงเทพมหานคร ปลุกกระแสประชาชนให้ออกมาคัดค้านเรื่องนี้
หรือการเปิดเวทีวิชาการของมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำผู้ทรงคุณวุฒิในด้านรัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ มาให้ความรู้ในเรื่องการถวายฎีกาในลักษณะนี้ว่าไม่สามารถกระทำได้ และเป็นการล่วงละเมิดพระราชอำนาจ รวมถึงการเปิดแถลงข่าวด่วนของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ราชนิกุล ตระกูลดัง คัดค้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดงที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพุธที่ 29 ก.ค.52
บนกระแสข่าวว่ามี “ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง” ต้องการให้ ม.ล.ปนัดดา ออกมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้
แต่ที่น่าสนใจที่สุด คงหนีไม่พ้นกรณีที่มีข่าวว่า มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็น
“วาระถกเถียง”ในที่ประชุมคณะองคมนตรี
เมื่อวันอังคารที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวงประชุมดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลชั้นสูง และผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินมาตลอดชีวิต รวมถึงเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ทั้งความมั่นคง การปกครอง และที่สำคัญหลายท่านล้วนเป็นระดับ “อดีตประธานศาลฏีกา”
ที่ย่อมเข้าใจตัวบทกฎหมายมาเป็นอย่างดี ว่ากระบวนการเข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ อีกทั้งเชื่อได้ว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่อยู่ในคณะองคมนตรี ย่อมอ่านการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงรอบใหม่นี้ด้วยความเป็นห่วง เพราะรูปการณ์มันเห็นชัดว่า กำลังมีความพยายามจะทำให้เรื่องนี้เป็น
“ฟืนเติมไฟ”รอบใหม่ เพื่อสร้างชนวนความขัดแย้งทางการเมืองของคนไทยด้วยกันเอง
เพราะแนวคิด การแสดงออกของแกนนำเสื้อแดงหลายครั้ง มีเจตนาฟ้องให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นคำประกาศของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงที่เน้นการเคลื่อนไหวแบบรุนแรง ประกาศว่า
“กระบวนการยื่นรายชื่อจะเสร็จสิ้นภายใน 7 สิงหาคม แบบข้ามหัวพล.อ.เปรม”
เมื่อพิเคราะห์คำพูดและความคิดของจตุพร ที่เป็นทั้งส.ส.เพื่อไทย และ มือไม้การเมืองให้กับทักษิณ ชนิดยอมสู้ตายถวายหัวให้ จึงแสดงให้เห็นว่าวันนี้ทักษิณ-เสื้อแดง-เพื่อไทย ยังคงมองเห็น
“ป๋าเปรม”เป็นศัตรูการเมืองที่ต้องโค่นล้มให้ได้
หมากขั้นแรกของเสื้อแดง คือ ต้องทำให้มีแนวร่วมเกลียดชังกลุ่มองคมนตรี ซึ่งทั้งหมดได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง ก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะอย่าลืมว่าขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาการพระราชทานอภัยโทษ จะต้องมีการส่งเรื่องไปให้
“คณะองคมนตรี”
เพื่อพิจารณากลั่นกรองก่อนเป็นลำดับแรกๆ แต่การที่เสื้อแดงประกาศจะผลักดันการถวายฎีกา ด้วยการ “ข้ามหัวองคมนตรี”
คำถามก็คือ ข้ามจากองคมนตรีแล้วไปที่ไหน!
มันแสดงให้เห็นแล้วว่า วันนี้กลุ่มคนเสื้อแดง กำลังนำ“1 ล้านชื่อ” มาเป็นเครื่องต่อรองกับฝ่ายไหน!
ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่า การถวายฎีกาตามขั้นตอนของเสื้อแดง มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมาย
แล้วเมื่อรายชื่อทั้งหมดถูกส่งไปจากมือคนเสื้อแดงไปยังสำนักราขเลขาธิการแล้ว ต่อมากระบวนการทุกอย่างสงบนิ่ง
ถามว่า แกนนำเสื้อแดง-ส.ส.เพื่อไทย ที่เป็นคนริเริ่มเคลื่อนไหวเรื่องนี้ จะไปบอกกับ ประชาชน “1 ล้านรายชื่อ” ซึ่งทั้งหมดย่อมคิดไปว่า นี่จะเป็นเสียงสวรรค์ประชาชนที่เอาทักษิณ กลับบ้านเกิด
แต่เมื่อท้ายสุดทุกอย่างเงียบหาย
ถึงตอนนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันย่อมทำให้ 1 ล้านรายชื่อ ต้องคิดตามมาว่า
เสียงประชาชนอยู่ที่ไหน 1 ล้านรายชื่อไม่มีความหมายหรือ?
ทำไมทักษิณยังไม่สามารถกลับเข้าประเทศไทยได้?
แค่นี้ มันก็เข้าล็อกคนเสื้อแดง ที่จะนำความสงสัยของประชาชนเรื่องนี้ไปขยายผลสร้างกระแสการเมือง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ผิดๆให้กับประชาชน
โดยอันดับแรกที่เสื้อแดงจะต่อกรด้วยก็คือ “คณะองคมนตรี” ที่คนเสื้อแดงพยายามโค่นล้มมาโดยตลอดแต่ไม่สำเร็จ ทว่าครั้งนี้เป้าหมายย่อมรุนแรงกว่าเดิมแน่นอน
อันเห็นได้จากการที่เสื้อแดงเหิมเกริมหนักข้อ ถึงขั้นไปรวมตัวเคลื่อนไหว ตั้งเวทีเสื้อแดงกันที่หัวหิน โดยใช้สถานที่ห้องประชุมบ้านพักเซนต์จอห์น ซึ่งอยู่ใกล้เขตพระราชฐานวังไกลกังวล แถมยังมีโฟนอินข้ามประเทศมาจาก นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำคนเสื้อแดง ที่หนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ยิ่งชัดว่า วันนี้ คนเสื้อแดง ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ทักษิณ-ครอบครัวชินวัตร-พรรคเพื่อไทย กำลังคิดกระทำการทุกอย่าง เพื่อทำให้แผ่นดินร้อนเป็นไฟอีกครั้ง
นี่คือความน่ากลัวของการวางแผนรอบใหม่ของทักษิณ-คนเสื้อแดง ที่กำลังคิดจะสร้าง “สงครามกลางเมือง”รอบใหม่ ซึ่งประเมินแล้วน่าจะเริ่มต้นขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังวันที่เสร็จสิ้นการยื่นถวายฎีกาฯ คือ 7 สิงหาคม 2552
และเป็น 7 สิงหาคม ที่คือวัน”เสียงปืนแตก” อันมีความหมายถึงวัน ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2508 ซึ่งเป็นวันที่ประชาชนหลายคนยังจดจำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะฝ่ายซ้ายที่ทำงานให้กับทักษิณ ชินวัตร
เพราะนี่คือวันที่รัฐไทยได้เข้าทำการสลายการจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จนทำให้แนวร่วมฝ่ายซ้ายดังกล่าวในตอนนั้น ประกาศให้ 7 สิงหาคม 2508 ร่วมมือกันใช้อาวุธต่อสู้กับฝ่ายรัฐไทย
แม้วันนี้ เสื้อแดงจะออกมาปฏิเสธว่า 7 สิงหาคม ไม่ได้มีความหมายทางการเมืองเช่นนั้น แต่เรื่องนี้อย่าไปฟังคำปฏิเสธเสื้อแดง เพราะเมื่อถูกจับได้ไล่ทัน ก็ออกมาทำไขสือ
ทั้งที่มันเป็นความคิดของแกนนำเสื้อแดงสายยุทธการ ที่หวังใช้ทุกการเคลื่อนไหวเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ทั้งสิ้น
ประชาชนอย่างพวกเรา จึงมิควรประมาท หรือหลับใหลกับการเคลื่อนไหวแบบหวังจะลบหลู่และล่วงละเมิดพระราชอำนาจ ของคนเสื้อแดงรอบใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
ไม่เช่นนั้น จะเข้าทางพวก “แดงทรพี” แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น