“หม่อมหลวง-หม่อมราชวงศ์” จับมือ ส.ว.แถลงต้านแดงค้านถวายฎีกา ลั่นหยุดกดดัน “ในหลวง” อย่าใช้จำนวนประชาชนแค่หยิบมือมากดดันพระราชวินิจฉัย อดีตอธิบดีกรมราชฑัณฑ์ ฟันธง “ราชเลขาธิการ-องคมนตรี” ตีตกไม่รับเรื่องเหตุผิดขั้นตอน
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ราชนิกุล ในฐานะที่ปรึกษาด้านความมั่นคง และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายข้าราชการประจำ แถลงข่าวร่วมกับ พ.ท.กมล ประจวบเหมาะ ส.ว.สรรหา ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเครือข่ายต่างๆ อาทิ สมาคมนักปกครองแห่งประเทศไทย สมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน แห่งประเทศไทย สหพันธ์ครูแห่งประเทศไทย สมาคมรถตู้โดยสารแห่งประเทศไทย สมาคมแท็กซี่มิเตอร์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กว่า 100 คน เข้าร่วมงาน
ทั้งนี้ ก่อนการแถลงข่าวได้มีการแจกสติกเกอร์ โดยมีข้อความว่า “หยุดล่าชื่อถวายฎีกา” แจกให้กับผู้ร่วมงาน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ข้อความดังกล่าวใช้ตัวอักษรและพื้นหลัง ตรงกับสติกเกอร์ของพรรคภูมิใจไทยทำแจกจ่ายให้กับประชาชนก่อนหน้านี้ เพียงแต่ตัดส่วนบนซึ่งมีข้อความว่า “หยุดดึงฟ้าต่ำ หยุดทำหินแตก หยุดแยกประชาชน” ออกไป
โดย หม่อมหลวง ปนัดดา แถลงว่า การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แก่นักการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสับสนและวุ่นวาย รวมถึงสร้างความแตกแยกให้กับคนไทย และการถวายฎีกาดังกล่าวมีลักษณะของการดำเนินการที่ขัดต่อกระบวนวิธีทางกฎหมาย และก้าวล่วงจารีตประเพณีอันดีงามของแผ่นดินไทย ดังนั้น ตนในฐานะข้าราชการ รวมทั้งสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ครู อาจารย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด จึงต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนี้
“การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแก่อดีตนักการเมือง เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ เพราะไม่ใช่เรื่องของราชประชาสมาสัยอย่างที่กล่าวอ้างกัน เพราะตามคำนิยามหมายถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชาติ กับสถาบันพระมหากษัตริย์ในเรื่องหนึ่งๆ ที่จะก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีระหว่างผู้คนพลเมือง สำหรับการถวายฎีกาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ ยังไม่สามารถหาความเป็นเอกภาพของประชาชนได้แม้แต่น้อย อีกทั้งกลับเป็นการเพิ่มปัญหาสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชนคนไทย” หม่อมหลวง ปนัดดา กล่าว
หม่อมหลวง ปนัดดา กล่าวต่อว่า การถวายฎีกาไม่ใช่เรื่องของจำนวนผู้คนที่ร่วมลงชื่อ แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ที่สอดคล้องกับระบบนิติรัฐ และปัญหาที่เกิดขึ้นก็มาจากพฤติกรรมของนักการเมืองบางคน ซึ่งเป็นความผิดพลาดทางจารีตประเพณี จึงไม่สามารถนำไปสู่กระบวนการขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยได้
พ.ท.กมล กล่าวว่า ประจวบเหมาะ ส.ว.สรรหา และนายกสมาคมนักปกครองแห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไม่ทราบว่า สิ่งที่กลุ่มคนเสื้อแดงกำลังทำอยู่นั้น เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือ การร้องทุกข์กันแน่ เพราะคนที่จะขอพระราชทานอภัยโทษต้องเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจำคุก หรือ พ่อ แม่ ลูก เมีย ของผู้ต้องหาเท่านั้น จึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ไม่ทราบว่า คนชี้นำการล่ารายชื่อนั้นต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่ต้องโทษจำคุก และยังมีอีก 7 คดี ที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังอยู่ในขั้นดำเนินการของศาล
“คนที่จะยื่นขอถวายฎีกาได้นั้น จะต้องเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจำคุก มีความประพฤติดี และต้องสำนึกผิด แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บอกว่าถูกศาลตัดสินไม่ถูก ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน ดังนั้น รัฐบาลควรจะไปเจรจากับคนที่ต้องการถวายฎีกาก่อน เพราะหากยื่นไปอย่างนี้ ราชเลขาก็รับไม่ได้ องคมนตรีก็ต้องดูอีก ถือเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ถือว่ามีความผิดมาก ทางที่ดีเขาควรกลับมารับโทษจะดีกว่า เรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องไปชี้แจงกับประชาชนให้ทั่วประเทศ โดยในวันเสาร์นี้ ฝ่ายปกครองนำโดยสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแห่งเทศไทย และตัวแทนฝ่ายท้องถิ่นต่างๆ เช่น เทศมนตรี จะมีการนัดแถลงข่าวเพื่อเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านในเรื่องนี้ เช่น กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จะไปบอกกับประชาชนว่าขอให้ถอนรายชื่อที่เคยเซ็นไว้โดยด่วน เพราะการไปร่วมลงชื่อโดยไม่ทราบขั้นตอนและข้อเท็จจริงอาจทำให้มีความผิดในเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วย” พ.ท.กมล ระบุ
ม.ร.ว.ปรียานันทนา รังสิต ส.ว.สรรหา กล่าวว่า กลุ่ม ส.ว.มีความกังวลและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในเรื่องการถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้มาหารือกับกลุ่ม ส.ว.ในเรื่องดังกล่าวด้วยความไม่สบายใจ อยากบอกกับผู้ที่ยังไม่ได้ลงชื่อถวายฎีกาก็ไม่สมควรไปลงชื่อ เพราะอย่างไรก็ผิดขั้นตอน ส่วนผู้ที่ลงชื่อไปแล้วก็ควรไปถอนชื่อออก เพราะการกระทำดังกล่าวถือว่ากดดันพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ในหลวงไม่สบายพระฤทัย ดังนั้น ควรหยุดกระทำในสิ่งดังกล่าว เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ เพียงแต่เกิดประโยชน์กับคนบางกลุ่มเท่านั้น
พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผช.ผบ.ตร.คนสนิท นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นข้าราชการตำรวจ รู้สึกเป็นห่วงว่าการล่าชื่อถวายฎีกาจะนำไปสู่ความขัดแย้ง วุ่นวาย นำความแตกแยกมาสู่คนไทยอย่างรุนแรง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความกังวลใจของตำรวจ
ด้าน นายคำตา แคนบุญจันทร์ ผู้แทนคาราวานคนจนภาคอีสาน กล่าวว่า อยากสะท้อนความรู้สึกไปยังประชาชนทั่วประเทศ ว่า กลุ่มคาราวานคนจนรู้สึกไม่สบายใจ ตั้งแต่มีกระแสล่ารายชื่อถวายฎีกา เพราะการทำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่บังควร จึงอยากให้ยุติการล่ารายชื่อ ขณะที่ตัวแทนสหพันธ์ครูแห่งประเทศไทย กล่าวบนเวทีว่าวันนี้ครูหลายแสนคนทั่วประเทศไม่รู้จะสอนหนังสือเด็กว่าอย่างไร เพราะกระบวนการนี้มันผิดหมดและยืนยันว่าครูทั่วประเทศไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้