อดีตนายกฯ ทักษิณเซยิดก็คิดอะไรง่ายๆ ครับ
มีการทำบุญทำทาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติวิสัย เพราะว่าเป็นการบำรุงขวัญสำหรับคนหนีคดี
มีคนดังไปร่วมเยอะครับ แต่เห็นมีเพื่อนคนหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้ว่าไปเข้ากับพวกเสื้อแดงซึ่งไม่รู้ไปมีอุดมการณ์อะไรกับเขา คือ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ซึ่งเรียกชื่อเล่นว่า “ป๋อม”
ไม่รู้ว่าทักษิณเคยมีบุญคุณอะไรหนักหนากับป๋อม
ทักษิณนั้นพยายามทำเซอร์ไพรส์ โดยกล่าวว่าจะนำ “โอทอป” ออกโทรทัศน์ขายทั่วโลก
ทำให้ผมทราบว่าแกกำลังหาเครือข่ายทีวีผ่านดาวเทียม ไม่ก็ใช้อินเทอร์เน็ตทีวีขายของก็เป็นได้
แต่โอทอปที่ว่านี้จะมีใครซื้อล่ะ
เรามีสินค้าหลากหลายพอหรือเปล่า ที่จะทำตลาดทั่วโลกน่ะ
ของขายตัวผ่านจอทีวีนั้น อย่างน้อยระบบจัดส่งมันต้องดีพอๆ กับระบบเก็บเงินด้วย กำไรไม่ต้องพูด ทางทีวีเก็บไว้อย่างขี้หมูขี้หมา 20 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างต่ำ ที่เหลือก็ต้องเข้ากระเป๋าคุณทักษิณถือเป็นค่าแมนเนจเมนต์
เข้ากระเป๋าชาวบ้าน ผมว่า 40 เปอร์เซ็นต์ก็เก่งแล้ว
เรื่องนี้พูดนะง่าย
ทำมันไม่ง่ายเหมือนพูด 4-5 ปีไม่รู้จะสำเร็จเป็นมรรคผลหรือเปล่า
หมดเรื่องแม้วแล้ว ก็อยากมาดูมาติดตามเรื่องการลอบสังหารคุณสนธิกันต่อดีกว่า
เวลานั้นบุคคลซึ่งถือว่าเป็น “คีย์แมน” กลับกลายเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไปแล้วครับท่าน
เพราะตกเป็นข่าวต่อเนื่องมาได้หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
นี่ท่านก็ไปพบนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวสั้นๆ ว่ามารายงานคดีอื่น (ปล้นทองคำ)
แต่ท่านไม่ได้บอกว่ามารายงานคดีคุณสนธิแต่ประการใด
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นทีมของ พล.ต.อ.ธานี เข้าไปก่อนแล้ว ซึ่งพบว่าข้อมูลของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ กับของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ตรงกัน
เวลานี้ พล.ต.ท.อัศวิน ได้รับมอบหมายให้เข้าทำงานติดตามจับกุม ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ และ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ซึ่งก่อนหน้านี้มีหมายจับออกไปแล้ว
สำหรับกระแสข่าวซึ่งหนาหูมากว่าจะปลด ผบ.ตร.ออกมาจากตำแหน่งนั้น ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้รีบร้อนออกมาให้ข่าวว่าการทำงานนั้นจะยึดข้อเท็จจริง และจะไม่ให้มีใครมาก่อกระแสกดดัน รวมทั้งมาสร้างข่าวว่ารัฐบาลจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.อย่างเด็ดขาด
ทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็ให้ข่าวว่า จะไม่ให้องค์กรใดมาเป็นอุปสรรคในการสอบสวนคดีลอบฆ่าคุณสนธิ
ความคืบหน้าของคดีนี้ คงจะดูว่าผู้ร่วมขบวนการมี 2 พวก คือตำรวจกับทหาร
แต่การสอบสวนนี้ดูจะมีความพยายาม “จัดฉาก” กันขึ้น และจะเหมือนที่จะตั้งขั้วที่ 3 เป็นขั้วที่จะแยกพันธมิตรฯ และทักษิณออกจากกัน
และถ้ามีการโยกย้ายทหารหรือตำรวจเกิดขึ้นก็จะรู้ถึงเครือข่ายเหล่านี้
ครับ... อย่างที่เคยอธิบายแล้วว่าคดีคุณสนธิ มีการเข้ามาพัวพันกันมาก
ทั้งๆ ที่คดีคืบหน้า
มีการปล่อยข่าว เพื่อช่วยให้ผู้ต้องสงสัย ได้จังหวะหลบหนี
มีการใช้วิธีการสกปรกที่จะทำให้คดีล่าช้าลง
จน ผบ.ตร.ต้องออกมาพูดว่า บางส่วนไม่ได้จงใจทำงานคืออยู่เฉยๆ ทั้งๆ ที่เป็นลูกน้องท่านแท้ๆ
เห็นได้ชัดๆ ว่า มีความพยายามใช้อิทธิพลทุกทางที่จะบิดเบือนทั้งรูปคดี และหาทางทำให้คดียืดเวลาออกไปส่วนหนึ่ง เพื่อให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เกษียณอายุไปก่อน
มีข่าวว่าถ้าหลังเกษียณอายุไปก็จะปรับเปลี่ยนรูปคดีใหม่
แต่ก็จะต้องมีการต่อรองกันใหม่
ข้อต่อรองก็คือ จะมีผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่จะถูกจับกุม โดยส่วนหนึ่งจะทำการมอบตัว (ในกรณีที่ยังหลบหนีอยู่)
ข้อต่อรองที่สอง ผู้ต้องหาที่โดนจับกุมจะไม่ซัดทอดให้ถึงตัวผู้บงการเพราะผู้บงการเชื่อว่าหลักฐานไม่น่าจะสาวไปถึงตัวเองได้ (แม้เจ้าหน้าที่จะเคยระบุว่าคือ “ป” ก็ตาม)
อีกวิธีหนึ่งก็คือให้กระบวนการทางศาล ซึ่งผู้เขียนเองก็ยังไม่อาจเข้าใจว่า ขั้นตอนนี้หมายถึงการที่จะวิ่งเต้นหรืออย่างไร แต่ที่ทราบมาก็ได้เค้าว่า อาจมีการติดต่อกับนักการเมืองบางคนที่ใกล้ชิดกับอัยการบางคนที่เคยเกื้อหนุนกันมาก่อน
ครับ... คดีนี้มีอิทธิพลจริงๆ
ข้อสรุปเวลานี้ซึ่งปรากฏเด่นชัดว่า ความพยายามของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ นั้น ท่านต้องการเร่งคดีนี้จบก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุ
อาจเป็นเพราะท่านทราบถึงเส้นสนกลในที่กลุ่มอิทธิพลจะทำการเล่นแร่แปรธาตุสิ่งที่ท่านได้ดำเนินมาแล้วก็ได้
และท่านเองก็ไม่ได้ประมาท โดยไว้ใจใครไปหมดแต่อย่างใด
สำหรับประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชน ซึ่งเกาะติดตามข่าวสารทุกวันนี้ เราพอจะมองออกว่าคดีนี้น่าจะยืดไปอีกนาน
และก็หวังว่าผู้ผิดจะต้องชดใช้กรรม ถูกเปิดโปงออกมาให้สังคมรับทราบโดยเร็ว
มีการทำบุญทำทาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติวิสัย เพราะว่าเป็นการบำรุงขวัญสำหรับคนหนีคดี
มีคนดังไปร่วมเยอะครับ แต่เห็นมีเพื่อนคนหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้ว่าไปเข้ากับพวกเสื้อแดงซึ่งไม่รู้ไปมีอุดมการณ์อะไรกับเขา คือ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ซึ่งเรียกชื่อเล่นว่า “ป๋อม”
ไม่รู้ว่าทักษิณเคยมีบุญคุณอะไรหนักหนากับป๋อม
ทักษิณนั้นพยายามทำเซอร์ไพรส์ โดยกล่าวว่าจะนำ “โอทอป” ออกโทรทัศน์ขายทั่วโลก
ทำให้ผมทราบว่าแกกำลังหาเครือข่ายทีวีผ่านดาวเทียม ไม่ก็ใช้อินเทอร์เน็ตทีวีขายของก็เป็นได้
แต่โอทอปที่ว่านี้จะมีใครซื้อล่ะ
เรามีสินค้าหลากหลายพอหรือเปล่า ที่จะทำตลาดทั่วโลกน่ะ
ของขายตัวผ่านจอทีวีนั้น อย่างน้อยระบบจัดส่งมันต้องดีพอๆ กับระบบเก็บเงินด้วย กำไรไม่ต้องพูด ทางทีวีเก็บไว้อย่างขี้หมูขี้หมา 20 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างต่ำ ที่เหลือก็ต้องเข้ากระเป๋าคุณทักษิณถือเป็นค่าแมนเนจเมนต์
เข้ากระเป๋าชาวบ้าน ผมว่า 40 เปอร์เซ็นต์ก็เก่งแล้ว
เรื่องนี้พูดนะง่าย
ทำมันไม่ง่ายเหมือนพูด 4-5 ปีไม่รู้จะสำเร็จเป็นมรรคผลหรือเปล่า
หมดเรื่องแม้วแล้ว ก็อยากมาดูมาติดตามเรื่องการลอบสังหารคุณสนธิกันต่อดีกว่า
เวลานั้นบุคคลซึ่งถือว่าเป็น “คีย์แมน” กลับกลายเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ไปแล้วครับท่าน
เพราะตกเป็นข่าวต่อเนื่องมาได้หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
นี่ท่านก็ไปพบนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวสั้นๆ ว่ามารายงานคดีอื่น (ปล้นทองคำ)
แต่ท่านไม่ได้บอกว่ามารายงานคดีคุณสนธิแต่ประการใด
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นทีมของ พล.ต.อ.ธานี เข้าไปก่อนแล้ว ซึ่งพบว่าข้อมูลของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ กับของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ตรงกัน
เวลานี้ พล.ต.ท.อัศวิน ได้รับมอบหมายให้เข้าทำงานติดตามจับกุม ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ และ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ซึ่งก่อนหน้านี้มีหมายจับออกไปแล้ว
สำหรับกระแสข่าวซึ่งหนาหูมากว่าจะปลด ผบ.ตร.ออกมาจากตำแหน่งนั้น ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้รีบร้อนออกมาให้ข่าวว่าการทำงานนั้นจะยึดข้อเท็จจริง และจะไม่ให้มีใครมาก่อกระแสกดดัน รวมทั้งมาสร้างข่าวว่ารัฐบาลจะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.อย่างเด็ดขาด
ทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็ให้ข่าวว่า จะไม่ให้องค์กรใดมาเป็นอุปสรรคในการสอบสวนคดีลอบฆ่าคุณสนธิ
ความคืบหน้าของคดีนี้ คงจะดูว่าผู้ร่วมขบวนการมี 2 พวก คือตำรวจกับทหาร
แต่การสอบสวนนี้ดูจะมีความพยายาม “จัดฉาก” กันขึ้น และจะเหมือนที่จะตั้งขั้วที่ 3 เป็นขั้วที่จะแยกพันธมิตรฯ และทักษิณออกจากกัน
และถ้ามีการโยกย้ายทหารหรือตำรวจเกิดขึ้นก็จะรู้ถึงเครือข่ายเหล่านี้
ครับ... อย่างที่เคยอธิบายแล้วว่าคดีคุณสนธิ มีการเข้ามาพัวพันกันมาก
ทั้งๆ ที่คดีคืบหน้า
มีการปล่อยข่าว เพื่อช่วยให้ผู้ต้องสงสัย ได้จังหวะหลบหนี
มีการใช้วิธีการสกปรกที่จะทำให้คดีล่าช้าลง
จน ผบ.ตร.ต้องออกมาพูดว่า บางส่วนไม่ได้จงใจทำงานคืออยู่เฉยๆ ทั้งๆ ที่เป็นลูกน้องท่านแท้ๆ
เห็นได้ชัดๆ ว่า มีความพยายามใช้อิทธิพลทุกทางที่จะบิดเบือนทั้งรูปคดี และหาทางทำให้คดียืดเวลาออกไปส่วนหนึ่ง เพื่อให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เกษียณอายุไปก่อน
มีข่าวว่าถ้าหลังเกษียณอายุไปก็จะปรับเปลี่ยนรูปคดีใหม่
แต่ก็จะต้องมีการต่อรองกันใหม่
ข้อต่อรองก็คือ จะมีผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่จะถูกจับกุม โดยส่วนหนึ่งจะทำการมอบตัว (ในกรณีที่ยังหลบหนีอยู่)
ข้อต่อรองที่สอง ผู้ต้องหาที่โดนจับกุมจะไม่ซัดทอดให้ถึงตัวผู้บงการเพราะผู้บงการเชื่อว่าหลักฐานไม่น่าจะสาวไปถึงตัวเองได้ (แม้เจ้าหน้าที่จะเคยระบุว่าคือ “ป” ก็ตาม)
อีกวิธีหนึ่งก็คือให้กระบวนการทางศาล ซึ่งผู้เขียนเองก็ยังไม่อาจเข้าใจว่า ขั้นตอนนี้หมายถึงการที่จะวิ่งเต้นหรืออย่างไร แต่ที่ทราบมาก็ได้เค้าว่า อาจมีการติดต่อกับนักการเมืองบางคนที่ใกล้ชิดกับอัยการบางคนที่เคยเกื้อหนุนกันมาก่อน
ครับ... คดีนี้มีอิทธิพลจริงๆ
ข้อสรุปเวลานี้ซึ่งปรากฏเด่นชัดว่า ความพยายามของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ นั้น ท่านต้องการเร่งคดีนี้จบก่อนที่ท่านจะเกษียณอายุ
อาจเป็นเพราะท่านทราบถึงเส้นสนกลในที่กลุ่มอิทธิพลจะทำการเล่นแร่แปรธาตุสิ่งที่ท่านได้ดำเนินมาแล้วก็ได้
และท่านเองก็ไม่ได้ประมาท โดยไว้ใจใครไปหมดแต่อย่างใด
สำหรับประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชน ซึ่งเกาะติดตามข่าวสารทุกวันนี้ เราพอจะมองออกว่าคดีนี้น่าจะยืดไปอีกนาน
และก็หวังว่าผู้ผิดจะต้องชดใช้กรรม ถูกเปิดโปงออกมาให้สังคมรับทราบโดยเร็ว