00 ผ่านไปแล้วสำหรับงานแซยิดของเศรษฐีหนีคุกนามว่า ทักษิณ ชินวัตร (นช.) ผ่านไปพร้อมกับการทิ้งร่องรอยความมิบังควร ความแตกแยกให้บ้านเมืองมากมายจนไม่รู้ว่าจะเป็นการ “ตัดกรรม” หรือ “เพิ่มกรรม” กันแน่ แม้หลายคนต่างบอกว่ารู้จัก “สร้างกระแส” ให้สังคมติดตามความเคลื่อนไหวชนิดเกาะติดขอบจออยู่ตลอดเวลาก็จริงอยู่ แต่ในที่สุดแล้วมันก็ต้องขึ้นอยู่กับ “ความจริง” และทุกอย่างต้องเป็น “ธรรมชาติ” ด้วย
00 การบอกให้รอดู “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ที่คุยโววันละสามเวลาว่า เมื่อเปิดออกมาแล้ว “โลกตะลึง” นั้นเอาเข้าจริงมันก็แค่ “ปาหี่” ธรรมดา ทั้งในเรื่องร้องเพลงในแผ่นซีดี ฟูมฟายความทุกข์ยากของตัวเอง หรือโม้จะเปิดทีวีดาวเทียม 100 ช่อง ขายสินค้า เรียลลิตี้แก้จน ฯลฯ มันก็สะท้อนถึงภูมิปัญญาที่แท้จริงว่า ที่ผ่านมาก็ใช้นิสัยแบบนักพนัน กล้าได้กล้าเสีย ยอมค้อมกายกุมไข่เข้าหาผู้มีอำนาจ ขอสัมปทานผูกขาดจนร่ำรวย
00 จากนั้นก็จ้างนักโฆษณาการตลาดมาโฆษณาชวนเชื่อ จนสร้างกระแสแห่แหน “รวยแล้วคิดว่าไม่โกง” กันยกใหญ่ แม้ว่าหลายคนจะ “รู้ทัน” และเชื่อว่าต้อง “หลอกต้ม” กันแบบนี้ แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากดูว่ามีอะไร ขณะเดียวกันยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังลังเล ก็จะได้เห็นกันคราวนี้แหละ
00 ว่ากันตามตรงในเมื่อลงทุนสร้างกระแสกันเต็มเหนี่ยว แต่เมื่อตั้งสติพิจารณาทั้งในด้านของยอดจำนวนเสื้อแดงที่มาร่วม ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมาแค่นี้ถือว่า “หรอมแหรม” ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ถ้าไม่เชื่อลองเทียบบรรยากาศในช่วง “ก่อนเมษาเลือด” เหมือนหนังคนละม้วน แถมยิ่งมาเจอกับแรงต้านกรณี “ถวายฎีกา” ก้าวล่วงเข้าไปอีก ถือว่างานนี้ “แม้ว” เสียหายหนัก
00 นี่ก็ถือว่าผิดสังเกตกับผลโพลของสำนักเอแบค ที่ออกมาในช่วงวันแซยิดนักโทษ ทั้งที่ในทางกฎหมายแล้วก็เป็นไปได้ แม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบความนิยมระหว่าง “มาร์ค” กับ “แม้ว” ฝ่ายหลังจะนำเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ที่สำคัญเมื่อพิจารณาจากระดับการศึกษา พบว่าคนที่จบปริญญาตรีขึ้นไป รวมทั้งพ่อค้า และวัยรุ่นต่างหันมานิยมนายกฯรูปหล่อกันมากขึ้น
00 มองอีกมุมหนึ่งถือว่า ถึงเวลาที่ “มาร์ค” ต้องลุยพื้นที่พบปะรากหญ้าให้จริงจังเสียที ต้องอาศัยบุคลิกที่โดดเด่นในตัวเองออกมา “ขาย” เพราะถ้าเทียบกันช็อตต่อช็อตไม่ได้เป็นรองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ความรู้ ก็กินขาด แต่ขึ้นอยู่กันว่ารู้จักนำมาใช้แค่ไหน !!
00 เป็นเรื่องใหญ่แล้วซิพี่น้อง เมื่อผลการเลือกตั้งนายกฯอบจ.สุราษฎร์ธานี ผู้สมัครคือ “ดำรง เทือกสุบรรณ” ที่เป็นญาติของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ขาใหญ่ที่นั่น กลับพ่ายแพ้แบบพลิกความคาดหมาย และที่สำคัญ “ประวิช นิลวัชรมณี” อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ หลายสมัยสายของ บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ก็พ่ายอย่างหมดรูปเช่นเดียวกัน
00 ที่น่าสนใจไปอีกก็คือในการใช้สิทธิ์คราวนี้มีผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ใครมากถึงเกือบ 2 หมื่นคนอีกด้วย แม้ว่า “เทพเทือก” พยายามออกตัวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้สมัครที่เป็นญาติ ไม่เกี่ยวกับพรรคก็น่าเป็นเพียงคำ “แก้เกี้ยว” มากกว่า แต่ไม่ว่ากัน ให้รอดูผลเลือกตั้งซ่อมปลายเดือนหน้าดีกว่า แต่รับรองว่าผลเลือกตั้งนายกฯอบจ. มันสะท้อนนัยยะบางอย่างแน่นอน !!
00 การบอกให้รอดู “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ที่คุยโววันละสามเวลาว่า เมื่อเปิดออกมาแล้ว “โลกตะลึง” นั้นเอาเข้าจริงมันก็แค่ “ปาหี่” ธรรมดา ทั้งในเรื่องร้องเพลงในแผ่นซีดี ฟูมฟายความทุกข์ยากของตัวเอง หรือโม้จะเปิดทีวีดาวเทียม 100 ช่อง ขายสินค้า เรียลลิตี้แก้จน ฯลฯ มันก็สะท้อนถึงภูมิปัญญาที่แท้จริงว่า ที่ผ่านมาก็ใช้นิสัยแบบนักพนัน กล้าได้กล้าเสีย ยอมค้อมกายกุมไข่เข้าหาผู้มีอำนาจ ขอสัมปทานผูกขาดจนร่ำรวย
00 จากนั้นก็จ้างนักโฆษณาการตลาดมาโฆษณาชวนเชื่อ จนสร้างกระแสแห่แหน “รวยแล้วคิดว่าไม่โกง” กันยกใหญ่ แม้ว่าหลายคนจะ “รู้ทัน” และเชื่อว่าต้อง “หลอกต้ม” กันแบบนี้ แต่ใจหนึ่งก็ยังอยากดูว่ามีอะไร ขณะเดียวกันยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังลังเล ก็จะได้เห็นกันคราวนี้แหละ
00 ว่ากันตามตรงในเมื่อลงทุนสร้างกระแสกันเต็มเหนี่ยว แต่เมื่อตั้งสติพิจารณาทั้งในด้านของยอดจำนวนเสื้อแดงที่มาร่วม ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมาแค่นี้ถือว่า “หรอมแหรม” ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ถ้าไม่เชื่อลองเทียบบรรยากาศในช่วง “ก่อนเมษาเลือด” เหมือนหนังคนละม้วน แถมยิ่งมาเจอกับแรงต้านกรณี “ถวายฎีกา” ก้าวล่วงเข้าไปอีก ถือว่างานนี้ “แม้ว” เสียหายหนัก
00 นี่ก็ถือว่าผิดสังเกตกับผลโพลของสำนักเอแบค ที่ออกมาในช่วงวันแซยิดนักโทษ ทั้งที่ในทางกฎหมายแล้วก็เป็นไปได้ แม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบความนิยมระหว่าง “มาร์ค” กับ “แม้ว” ฝ่ายหลังจะนำเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกัน ที่สำคัญเมื่อพิจารณาจากระดับการศึกษา พบว่าคนที่จบปริญญาตรีขึ้นไป รวมทั้งพ่อค้า และวัยรุ่นต่างหันมานิยมนายกฯรูปหล่อกันมากขึ้น
00 มองอีกมุมหนึ่งถือว่า ถึงเวลาที่ “มาร์ค” ต้องลุยพื้นที่พบปะรากหญ้าให้จริงจังเสียที ต้องอาศัยบุคลิกที่โดดเด่นในตัวเองออกมา “ขาย” เพราะถ้าเทียบกันช็อตต่อช็อตไม่ได้เป็นรองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ความรู้ ก็กินขาด แต่ขึ้นอยู่กันว่ารู้จักนำมาใช้แค่ไหน !!
00 เป็นเรื่องใหญ่แล้วซิพี่น้อง เมื่อผลการเลือกตั้งนายกฯอบจ.สุราษฎร์ธานี ผู้สมัครคือ “ดำรง เทือกสุบรรณ” ที่เป็นญาติของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ขาใหญ่ที่นั่น กลับพ่ายแพ้แบบพลิกความคาดหมาย และที่สำคัญ “ประวิช นิลวัชรมณี” อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ หลายสมัยสายของ บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ก็พ่ายอย่างหมดรูปเช่นเดียวกัน
00 ที่น่าสนใจไปอีกก็คือในการใช้สิทธิ์คราวนี้มีผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนให้ใครมากถึงเกือบ 2 หมื่นคนอีกด้วย แม้ว่า “เทพเทือก” พยายามออกตัวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้สมัครที่เป็นญาติ ไม่เกี่ยวกับพรรคก็น่าเป็นเพียงคำ “แก้เกี้ยว” มากกว่า แต่ไม่ว่ากัน ให้รอดูผลเลือกตั้งซ่อมปลายเดือนหน้าดีกว่า แต่รับรองว่าผลเลือกตั้งนายกฯอบจ. มันสะท้อนนัยยะบางอย่างแน่นอน !!