สุราษฎร์ธานี- “มนตรี เพชรขุ้ม” ล้มช้างผู้สมัครรับเลือกตั้งจากตระกูล “เทือกสุบรรณ” มาจากคนเริ่มเบื่อการเมืองที่ผูกขาดโดยตระกูลเทือกสุบรรณ มาเป็นเวลานานสิบปี แถม ปชป.ส่งคนแย่งคะแนนกันเอง และสำคัญกว่านั้น ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จากกรณีผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า “นายมนตรี เพชรขุ้ม” ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 113,340 คะแนน ตามมาด้วย นายดำรง เทือกุบรรณ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 111,776 คะแนน และนายประวิช นิลวชรมณี ผู้สมัครหมายเลข 2 คะแนน 72,136 คะแนน
การเลือกตั้งครั้งนี้ ถือว่าเป็นการล้มช้าง หรือล้มตระกูล “เทือกสุบรรณ” ที่ครองตำแหน่งพื้นที่การเมืองระดับท้องถิ่นและระดับชาติของ จ.สุราษฎร์ธานี มานานนับสิบปี พร้อมเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นฐานเสียงสำคัญของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ผู้จัดการรัฐบาล เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ผลจากการที่คนในตระกูลเทือกสุบรรณ แพ้การเลือกตั้งครังนี้ ถือว่าเป็นการหักหน้าผู้ทรงอิทธิพลอย่างนายสุเทพ เป็นอย่างยิ่ง
สาเหตุที่ทำให้ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคประชาธิปัตย์ พ่ายแพ้อย่างหมดรูปถึง 2 คนด้วยกันในครั้งนี้ อาจจะมาจากการที่ผู้สมัครอย่าง นายดำรง เทือกสุบรรณ ที่เป็นสายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายประวิช นิลวัชรมณี ผู้สมัครหมายเลข 2 เป็นสายของ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ลงแข่งขันกันเองเป็นจนเป็นเหตุให้ฐานเสียงของพรรค ปชป.แตกออกเป็น 2 เสี่ยง ซึ่งเป็นการตัดคะแนนซึ่งกันและกัน จนทำให้คะแนนเสียงนายมนตรี มาเป็นอันดับ 1 หรืออาจเป็นไปได้ว่าประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีเริ่มเบื่อหน่ายการเมืองที่ผูกขาดโดยตระกูลเทือกสุบรรณ มาเป็นเวลานาน แต่ไม่เกิดประโยชน์อะไรต่อภาพรวมของคนสุราษฎร์ธานี และส่วนหนึ่งที่ นายมนตรี ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
สำหรับ นายมนตรี เพชรขุ้ม ปัจจุบันอายุ 47 ปี เกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.2505 ที่บ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นบุตร นายเอก เพชรขุ้ม และ นางทรงศรี ช่วยจันทร์ เข้าศึกษาโรงเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดปัฎนาราม (ท่าเรือ) อ.บ้านนาดิม จบปริญญาตรี ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี และกำลังศึกษาปริญญาโท ม.ราชภัฏฯ ปัจจุบันได้สมรสกับนางอัจฉราวดี เกื้อหนุน (ไก่) อายุ 43 ปี มีบุตรชาย 1 คน ชื่อ ด.ช.เทพประทาน เพชรขุ้ม อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ประกอบธุรกิจส่วนตัว ถือว่าเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีเป้าหมายทางการเมืองในระดับชาติ และได้มีโอกาสเล่นการเมืองระดับท้องถิ่น โดยลงสมัครสมาชิก อบต.ตำบลท่าเรือ และได้รับการคัดเลือกเข้ามา
ต่อมาได้รับการคัดเลือกเป็นนายก อบต.ท่าเรือ จนได้ฉายานายกเพลย์บอย และได้รับการคัดสรรเป็น ส.ส.ร.ในส่วนของภาคองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในปี 50 (ยุค คมช.) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยลงมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี แต่ได้พ่ายแพ้ต่อ นายธานี เทือกสุบรรณ จนทำให้มีเรื่องร้องเรียน กกต.จนเป็นเหตุให้ กกต.ชี้มูลความผิดแจกใบเหลืองนายธานีจนมีการเลือกตั้งใหม่ในครั้งนี้
นายมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่กล้าลงสมัครนายก อบจ.แข่งกับคนของพรรค ปชป.หรือคนในตระกูลเทือกสุบรรณ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว สนใจการเมืองมาตั้งแต่เป็นเด็ก และเฝ้าติดตามการเมืองมาโดยตลอด และมีโอกาสลงสมัครเล่นการเมืองท้องถิ่น เมื่อขึ้นเวทีแล้วต้องสู้ให้เต็มที่ ใจเต็มร้อย เปรียบเสมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อน ประกอบกับตนเป็นคนสุราษฎร์ธานีโดยกำเนิด และวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ประชาชนกำลังเบื่อหน่ายการเมือง เบื่อการเมืองแบบผูกขาดที่เป็นของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง และอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองท้องถิ่น
“ยอมรับว่า การชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ สิ่งสำคัญส่วนหนึ่งที่ผลักดัน และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่ขึ้นป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่สนับสนุน เช่น ที่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า พร้อมทั้งสมาชิกในจังหวัดทุกคนที่ช่วยเหลือการหาเสียง”
นายมนตรี กล่าวต่อว่า การลงสมัครเล่นการเมืองครั้งนี้ ไม่มีพรรคการเมืองใดให้การสนับสนุนด้านเงินทอง ซึ่งตนพร้อมที่จะสาบานหา ว่า หากได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมือง ขอให้มีอันเป็นไป พร้อมทั้งขอขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ตน ตนพร้อมทีมผู้บริหารจะทำงานอย่างโปร่งใส่สามารถตรวจสอบได้
นางอัจราวดี ภรรยา นายมนตรี กล่าวว่า ตลอดเวลาการลงพื้นที่หาเสียง ไม่มีความกดดันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมมองเห็นประชาชนต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเชื่อมั่นว่า จะชนะคนของเทือกสุบรรณ พร้อมยอมรับฉายานายกเพลย์บอยของสามี ถือเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย ซึ่งสามีเป็นคนดีรักครอบครัวโดยเฉพาะลูกชายคนเดียว
สำหรับ นายดำรง เทือกสุบรรณ เป็นน้องชาย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเป็นสมาชิก อบจ.เขต อ.ท่าชนะ ดำรงตำแหน่งล่าสุดเป็นประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ธานี ลาออกมาลงสมัครนายก อบจ.สายของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ส่วน นายประวิทย์ นิลวัชรมณี เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย และไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา เพื่อเปิดทางให้ นายประพันธ์ นิลวัชรมณี น้องชายแท้ๆ ลงสมัครแทน และอยู่ในสาย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน จากพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดียวกัน