ผมเคยได้ยินนักลงทุนหลายท่านกล่าวแบบนี้ จำเป็นหรือไม่ที่เราต้องติดตามทุกวัน ก่อนกล่าวถึงอนุพันธ์ เราลองมาพูดถึงการลงทุนทั่วๆไปก่อน
มีการลงทุนประเภทใดที่ไม่ต้องติดตาม?
คำตอบคือ.... ไม่มีครับ
หากท่านลงทุนในเงินฝาก แล้วไม่ติดตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแต่และแห่ง ท่านจะไม่ทราบว่าที่ไหนให้ผลตอบแทนดี และอาจนำไปสู่การเสียโอกาส
หากท่านลงทุนในที่ดิน แล้วไม่ไปดูที่ดินของท่านเป็นระยะ ที่ดินท่านอาจถูกบุกรุก
หากท่านลงทุนในบ้านเช่า แล้วไปได้ไปเยี่ยมผู้เช่าเลย ท่านจะทราบได้อย่างไรว่า บ้านเช่าไม่ได้กลายเป็นที่เก็บสิ่งของผิดกฎหมายไปแล้ว
หากท่านร่วมหุ้นในกิจการใดๆ แล้วไม่ได้ไปดูแลบ้างเลย อาจถูกหุ้นส่วนโกงได้
แล้วการลงทุนในอนุพันธ์จะไม่ต้องติดตามได้อย่างไร?
ในความเป็นจริงก็พอจะมีอนุพันธ์บางประเภทครับที่ไม่จำเป็นต้องติดตามเช่น 1. หากลงทุนใน Structure Note หรือกองทุนตราสารหนี้ ที่อ้างอิงผลตอบแทนกับความเคลื่อนไหวของสินค้าอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมัน ทองคำ ราคาหุ้น เวลาไปซื้อกองทุนประเภทนี้แล้ว เงินจะถูก lock ยาวจนครบ due ผู้จัดการกองทุนจะกันเอาเงินบางส่วนของเราไปลงทุนใน Options ของสินค้าอ้างอิงประเภทนั้นๆ ซื้อแล้วลืมไปได้เลย พอครบ due จึงมาดูว่าผลตอบแทนเป็นเท่าไหร่
หรือ 2. การซื้อประกันก็ถือเป็นการซื้อ Options ได้เหมือนกันครับ เวลาซื้อไปแล้วมักไม่ค่อยอยากมีใครใช้สิทธิ์ เพราะต้องเกิดความเสียหายก่อนจึงเรียกร้องได้ ซึ่งอาจไม่คุ้ม การซื้อ Options รูปแบบนี้ ซื้อแล้วคงไม่ต้องการลุ้นให้ได้กำไร ถ้าจะลุ้น ลุ้นให้จ่าย Premium ไปฟรีๆจะดีกว่า
แต่ 2 ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นส่วนน้อยครับที่ไม่จำเป็นต้องติดตาม ในการลงทุนไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ ก็ต้องติดตามทั้งสิ้น โดยเฉพาะการลงทุนในเชิงเก็งกำไร ย่อมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อนุพันธ์ในตลาดส่วนใหญ่ก็ถูกนำมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์นี้
ถ้าอยากไม่อยากติดตามทุกวัน Trade อนุพันธ์ได้หรือไม่?
คำตอบคือ พอทำได้ครับแต่คงต้องหาเครื่องมือช่วยเหลืออื่นๆประกอบ เช่น
วางหลักประกันไว้เกินจำนวนมากๆหน่อย
ไม่ติดตามเองก็ต้องให้เจ้าหน้าที่การตลาดช่วย ติดตามให้ครับ แต่ต้องแจ้งเงื่อนไขของเราให้ชัดเจน และไม่ลืมเรื่อง Human error คือทุกคนผิดพลาดได้ และไม่มีอะไรได้อย่างใจเหมือนเราลงมือทำเอง
ใช้ Stop Order ช่วย
ใช้เครื่องมือทางเทคนิคซึ่งให้รอบการลงทุนระยะกลาง
ช่วงที่ประเมินว่ามีโอกาสติดตามน้อย อาจพิจารณาสร้าง position ที่ เป็นการ hedge กันเองเช่น spread position
อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกรูปแบบย่อมต้องติดตามครับ หากท่านผู้อ่านต้องการเสริมความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถลงทะเบียนอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวกับอนุพันธ์ของ บล. ฟิลลิป ได้ที่ www.poems.in.th หรือส่งคำถามที่ท่านสงสัย หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ มาได้ที่ Futures@phillip.co.th นะครับ
มีการลงทุนประเภทใดที่ไม่ต้องติดตาม?
คำตอบคือ.... ไม่มีครับ
หากท่านลงทุนในเงินฝาก แล้วไม่ติดตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแต่และแห่ง ท่านจะไม่ทราบว่าที่ไหนให้ผลตอบแทนดี และอาจนำไปสู่การเสียโอกาส
หากท่านลงทุนในที่ดิน แล้วไม่ไปดูที่ดินของท่านเป็นระยะ ที่ดินท่านอาจถูกบุกรุก
หากท่านลงทุนในบ้านเช่า แล้วไปได้ไปเยี่ยมผู้เช่าเลย ท่านจะทราบได้อย่างไรว่า บ้านเช่าไม่ได้กลายเป็นที่เก็บสิ่งของผิดกฎหมายไปแล้ว
หากท่านร่วมหุ้นในกิจการใดๆ แล้วไม่ได้ไปดูแลบ้างเลย อาจถูกหุ้นส่วนโกงได้
แล้วการลงทุนในอนุพันธ์จะไม่ต้องติดตามได้อย่างไร?
ในความเป็นจริงก็พอจะมีอนุพันธ์บางประเภทครับที่ไม่จำเป็นต้องติดตามเช่น 1. หากลงทุนใน Structure Note หรือกองทุนตราสารหนี้ ที่อ้างอิงผลตอบแทนกับความเคลื่อนไหวของสินค้าอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมัน ทองคำ ราคาหุ้น เวลาไปซื้อกองทุนประเภทนี้แล้ว เงินจะถูก lock ยาวจนครบ due ผู้จัดการกองทุนจะกันเอาเงินบางส่วนของเราไปลงทุนใน Options ของสินค้าอ้างอิงประเภทนั้นๆ ซื้อแล้วลืมไปได้เลย พอครบ due จึงมาดูว่าผลตอบแทนเป็นเท่าไหร่
หรือ 2. การซื้อประกันก็ถือเป็นการซื้อ Options ได้เหมือนกันครับ เวลาซื้อไปแล้วมักไม่ค่อยอยากมีใครใช้สิทธิ์ เพราะต้องเกิดความเสียหายก่อนจึงเรียกร้องได้ ซึ่งอาจไม่คุ้ม การซื้อ Options รูปแบบนี้ ซื้อแล้วคงไม่ต้องการลุ้นให้ได้กำไร ถ้าจะลุ้น ลุ้นให้จ่าย Premium ไปฟรีๆจะดีกว่า
แต่ 2 ตัวอย่างข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างที่เป็นส่วนน้อยครับที่ไม่จำเป็นต้องติดตาม ในการลงทุนไม่ว่าจะในรูปแบบใดๆ ก็ต้องติดตามทั้งสิ้น โดยเฉพาะการลงทุนในเชิงเก็งกำไร ย่อมต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อนุพันธ์ในตลาดส่วนใหญ่ก็ถูกนำมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์นี้
ถ้าอยากไม่อยากติดตามทุกวัน Trade อนุพันธ์ได้หรือไม่?
คำตอบคือ พอทำได้ครับแต่คงต้องหาเครื่องมือช่วยเหลืออื่นๆประกอบ เช่น
วางหลักประกันไว้เกินจำนวนมากๆหน่อย
ไม่ติดตามเองก็ต้องให้เจ้าหน้าที่การตลาดช่วย ติดตามให้ครับ แต่ต้องแจ้งเงื่อนไขของเราให้ชัดเจน และไม่ลืมเรื่อง Human error คือทุกคนผิดพลาดได้ และไม่มีอะไรได้อย่างใจเหมือนเราลงมือทำเอง
ใช้ Stop Order ช่วย
ใช้เครื่องมือทางเทคนิคซึ่งให้รอบการลงทุนระยะกลาง
ช่วงที่ประเมินว่ามีโอกาสติดตามน้อย อาจพิจารณาสร้าง position ที่ เป็นการ hedge กันเองเช่น spread position
อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกรูปแบบย่อมต้องติดตามครับ หากท่านผู้อ่านต้องการเสริมความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถลงทะเบียนอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวกับอนุพันธ์ของ บล. ฟิลลิป ได้ที่ www.poems.in.th หรือส่งคำถามที่ท่านสงสัย หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ มาได้ที่ Futures@phillip.co.th นะครับ