ASTV ผู้จัดการรายวัน – สหรัฐฯเร่งฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ล่าสุดรัฐเนวาดา ไฟเขียว NREDC ตัวแทนด้านส่งเสริมการลงทุนบินตรงให้ข้อมูลชาวเอเชีย ประเดิมไทยแห่งแรก หวังชวนเข้าลงทุนขั้นต่ำ รายละ 5 แสนเหรียญ ตั้งเป้ากวาดเม็ดเงิน 75 ล้านยูเอสรุกธุรกิจโรมแรมคาสิโนในลาสเวกัส ก่อนบินกล่อมนักลงทุนจีนและเกาหลี ต่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ล่อใจด้วยกรีนการ์ดระยะยาวและโอกาสได้เป็นประชาชนแดนมะกันทั้งครอบครัว ดึงดูด
นางดี มัลลาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nevada Regional Economic Development Center หรือ NREDC ว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในการส่งเสริมการลงทุนประจำรัฐเนวาดา ซึ่งหมายถึงการเป็นศูนย์กลางพัฒนาการลงทุนเพียงแห่งเดียวของรัฐดังกล่าว และขณะนี้มีแผนที่จะหาเงินระดมทุนเข้าไปลงทุนในรัฐแห่งนี้ผ่านโครงการใหม่ๆ ใน 7 กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม ได้แก่อสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและที่อยู่อาศัย ศูนย์การแพทย์ ศูนย์ดูแลคนชรา ธุรกิจไอที การบำบัดของเสีย ร้อนอาหาร และเกษตรกรรม
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นตัวแทนของบริษัท จึงเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อชักชวนนักลงทุนที่สนใจเข้าไปร่วมลงทุนในโครงการต่างๆเหล่านี้ด้วย เพราะโครงการดังกล่าวที่มานำเสนอนั้นเป็นโครงการที่สภาครองเกรสแห่งสหรัฐฯได้ทำการอนุมัติการลงทุนพิเศษ EB-5 โดยเปิดโอกาสให้คนต่างชาติสามารถมีวีซ่าถาวรเพื่อเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯได้ในระยะยาว หรือสามารถยื่นขอเป็นประชากรของสหรัฐฯได้ในอนาคต
“โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในรัฐต่างๆของสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบทั่วโลก จากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีต้นตอมาจากสหรัฐฯและลุกลามไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย”นาง ดี มัลลาส กล่าว
สำหรับ EB-5 ถือเป็นการลงทุนที่ออกตามบทบัญญัติว่าด้วยการเข้าเมืองของชาวต่างชาติปี 1990 ซึ่งอนุมัติให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในสหรัฐฯได้เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงานตามรัฐต่างๆ โดยให้สิทธิประโยชน์สูงสุดคือการให้กรีนการ์ดถาวรทั่วประเทศสหรัฐฯ ทั้งครอบครัวรวมลูกที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี และจะได้รับสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับประชากรของสหรัฐฯ
แต่มีข้อกำหนดคือ ต้องเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 ดอลลาร์ ไม่รวมค่าปรึกษาทางกฎหมายซึ่งอยู่ระหว่าง 15,000 – 25,000 ดอลลาร์ และมีหลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่รูปแบบการลงทุนนั้น ถือว่าไม่ใช่การลงทุนโดยตรงอีก แต่เป็นการถือหุ้นหรือเข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ(พาร์ทเนอร์)ของบริษัท ซึ่งเงินทุนดังกล่าวต้องในสหรัฐฯเป็นระยะเวลา 5ปีผ่านทางธนาคารที่เป็นผู้รับดูแล และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนกลับคืนได้ในแต่ทุกปี หากการลงทุนดังกล่าวมีผลกำไร
นอกจากนี้เมื่อครบกำหนด 5ปี ผู้ลงทุนสามารถรับเงินคืนได้ และลงทุนต่อหากผลตอบแทนที่ได้รับเป็นที่พอใจ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการส่งลูกหลานไปเรียนในสหรัฐฯ เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปในประเทศแห่งนี้ เนื่องจากกรีนการ์ดที่ได้รับสามารถใช้ได้ในรัฐของสหรัฐอเมริกา ซึ่งระยะยาวจะได้รับการพิจารณาถึงขั้นอาจได้รับสิทธิ์เป็นประชากรของประเทศแห่งนี้ด้วย หากทำการยื่นขอไป
ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายในการระดมทุนครั้งนี้ จึงแบ่งออกเป็ฯ 3 กลุ่มได้แก่ 1.ผู้ต้องการส่งลูกหลานไปเรียนหนังสือ 2.ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปที่นั่น และ 3 .ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการหาประสบการณ์ในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากไทยแล้ว NREDC จะเข้าไปเจาะตลาดนักลงทุนเอเชียชาติอื่นๆเพิ่มเติมอีก 2 – 3 ประเทศ ได้แก่ จีน และเกาหลี ซึ่งในส่วนของจีนเองนักลงทุนได้รับรู้และเข้าใจในโครงการลงทุนประเภทนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากได้มีผู้ประกอบการของจีนหลายรายเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯผ่านโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 1992
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา ซีอีโอ NREDC กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการประชุมของนักเศรษฐศาสตร์ทั่วสหรัฐฯ มีมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ประมาณ 4-55 และที่ผ่านมาจากวิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาบ้านในสหรัฐฯปรับตัวลดลงไปมาก
ดังนั้นทาง NREDC จึงสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นโครงการแรก โดยตั้งเป้าก่อสร้างโรงแรมขึ้นในลาสเวกัส ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของรัฐเนวาดา โดยระดมทุนรวมประมาณ 75 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนักลงทุนไทยประมาณ 40 -50 ราย และที่เหลือมาจากจีน เกาหลี รวมกับนักลงทุนของสหรัฐฯบางส่วนโดยผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ประมาณ 5-7% ซึ่งภายในโรงแรมจะมีการให้บริการคาสิโนเสริม เพราะบริษัทมีไลเซนส์ในการทำธุรกิจดังกล่าวด้วย ส่วนสาเหตุที่สนใจเข้าดำเนินธุรกิจนี้ เนื่องจากแม้ปัจจุบันลาสเวกัสจะมีห้องพักมากถึง 150,000 ห้อง แต่กลับไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แวะมาใช้บริการในแต่ละปี
นางดี มัลลาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nevada Regional Economic Development Center หรือ NREDC ว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในการส่งเสริมการลงทุนประจำรัฐเนวาดา ซึ่งหมายถึงการเป็นศูนย์กลางพัฒนาการลงทุนเพียงแห่งเดียวของรัฐดังกล่าว และขณะนี้มีแผนที่จะหาเงินระดมทุนเข้าไปลงทุนในรัฐแห่งนี้ผ่านโครงการใหม่ๆ ใน 7 กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม ได้แก่อสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและที่อยู่อาศัย ศูนย์การแพทย์ ศูนย์ดูแลคนชรา ธุรกิจไอที การบำบัดของเสีย ร้อนอาหาร และเกษตรกรรม
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นตัวแทนของบริษัท จึงเดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อชักชวนนักลงทุนที่สนใจเข้าไปร่วมลงทุนในโครงการต่างๆเหล่านี้ด้วย เพราะโครงการดังกล่าวที่มานำเสนอนั้นเป็นโครงการที่สภาครองเกรสแห่งสหรัฐฯได้ทำการอนุมัติการลงทุนพิเศษ EB-5 โดยเปิดโอกาสให้คนต่างชาติสามารถมีวีซ่าถาวรเพื่อเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯได้ในระยะยาว หรือสามารถยื่นขอเป็นประชากรของสหรัฐฯได้ในอนาคต
“โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในรัฐต่างๆของสหรัฐฯ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบทั่วโลก จากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีต้นตอมาจากสหรัฐฯและลุกลามไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย”นาง ดี มัลลาส กล่าว
สำหรับ EB-5 ถือเป็นการลงทุนที่ออกตามบทบัญญัติว่าด้วยการเข้าเมืองของชาวต่างชาติปี 1990 ซึ่งอนุมัติให้ชาวต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในสหรัฐฯได้เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงานตามรัฐต่างๆ โดยให้สิทธิประโยชน์สูงสุดคือการให้กรีนการ์ดถาวรทั่วประเทศสหรัฐฯ ทั้งครอบครัวรวมลูกที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี และจะได้รับสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับประชากรของสหรัฐฯ
แต่มีข้อกำหนดคือ ต้องเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 ดอลลาร์ ไม่รวมค่าปรึกษาทางกฎหมายซึ่งอยู่ระหว่าง 15,000 – 25,000 ดอลลาร์ และมีหลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่รูปแบบการลงทุนนั้น ถือว่าไม่ใช่การลงทุนโดยตรงอีก แต่เป็นการถือหุ้นหรือเข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ(พาร์ทเนอร์)ของบริษัท ซึ่งเงินทุนดังกล่าวต้องในสหรัฐฯเป็นระยะเวลา 5ปีผ่านทางธนาคารที่เป็นผู้รับดูแล และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนกลับคืนได้ในแต่ทุกปี หากการลงทุนดังกล่าวมีผลกำไร
นอกจากนี้เมื่อครบกำหนด 5ปี ผู้ลงทุนสามารถรับเงินคืนได้ และลงทุนต่อหากผลตอบแทนที่ได้รับเป็นที่พอใจ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการส่งลูกหลานไปเรียนในสหรัฐฯ เพราะจะช่วยลดค่าใช้จ่าย รวมทั้งผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปในประเทศแห่งนี้ เนื่องจากกรีนการ์ดที่ได้รับสามารถใช้ได้ในรัฐของสหรัฐอเมริกา ซึ่งระยะยาวจะได้รับการพิจารณาถึงขั้นอาจได้รับสิทธิ์เป็นประชากรของประเทศแห่งนี้ด้วย หากทำการยื่นขอไป
ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายในการระดมทุนครั้งนี้ จึงแบ่งออกเป็ฯ 3 กลุ่มได้แก่ 1.ผู้ต้องการส่งลูกหลานไปเรียนหนังสือ 2.ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปที่นั่น และ 3 .ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการหาประสบการณ์ในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากไทยแล้ว NREDC จะเข้าไปเจาะตลาดนักลงทุนเอเชียชาติอื่นๆเพิ่มเติมอีก 2 – 3 ประเทศ ได้แก่ จีน และเกาหลี ซึ่งในส่วนของจีนเองนักลงทุนได้รับรู้และเข้าใจในโครงการลงทุนประเภทนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากได้มีผู้ประกอบการของจีนหลายรายเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯผ่านโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 1992
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา ซีอีโอ NREDC กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการประชุมของนักเศรษฐศาสตร์ทั่วสหรัฐฯ มีมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ประมาณ 4-55 และที่ผ่านมาจากวิกฤตที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาบ้านในสหรัฐฯปรับตัวลดลงไปมาก
ดังนั้นทาง NREDC จึงสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นโครงการแรก โดยตั้งเป้าก่อสร้างโรงแรมขึ้นในลาสเวกัส ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของรัฐเนวาดา โดยระดมทุนรวมประมาณ 75 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนักลงทุนไทยประมาณ 40 -50 ราย และที่เหลือมาจากจีน เกาหลี รวมกับนักลงทุนของสหรัฐฯบางส่วนโดยผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ประมาณ 5-7% ซึ่งภายในโรงแรมจะมีการให้บริการคาสิโนเสริม เพราะบริษัทมีไลเซนส์ในการทำธุรกิจดังกล่าวด้วย ส่วนสาเหตุที่สนใจเข้าดำเนินธุรกิจนี้ เนื่องจากแม้ปัจจุบันลาสเวกัสจะมีห้องพักมากถึง 150,000 ห้อง แต่กลับไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวที่แวะมาใช้บริการในแต่ละปี