ซีแอตเติลไทม์ - เจ้าของร้านอาหารไทยชื่อดังในเมืองซีแอตเติล ถูกทางการสหรัฐฯจับตัวในข้อกล่าวหาว่า จ่ายเงินหลานแสนดอลลาร์จ้างให้กับพนักงานเพื่อให้สมรสกับเครือญาติซึ่งจะทำให้พวกเธอได้สิทธิ์พำนักในสหรัฐฯได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม เธอให้การปฏิเสธ
วารี แบรดฟอร์ด วัย 43 ปี เจ้าของร้านอาหาร “ไทยจิงเจอร์” ที่มีถึง 5 สาขาในมลรัฐวอชิงตันถูกศาลในเขตเมืองซีแอตเติลจับตัวในข้อกล่าวหาว่า จ้างพนักงานให้แต่งงานกับเครือญาติของตัวเอง เพื่อให้กรีนการ์ด หรือสิทธิพำนักในสหรัฐฯอย่างถาวรได้ง่ายขึ้น รวมถึงข้อหาปลอมแปลงเอกสารเข้าเมืองอื่นๆ ด้วย โดยนางวารีถูกจับตัวเมื่อเช้าวานนี้ (23) แต่ได้รับการประกันตัวออกไปในเวลาบ่าย
ข้อกล่าวนี้ ระบุว่า นางวารี จัดการจ้างคนงานแต่งงานกับญาติตัวเอง 4 ราย ระหว่างปี 2001-2007 แลกกับเงินระหว่าง 10,000-20,000 ดอลลาร์ (ราว 350,000-700,000 บาท) ซึ่งจะช่วยให้ได้กรีนการ์ดได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ พนักงานเป็นผู้ชาย 3 คนและอีกคนเป็นผู้หญิง นางวารีบอกกับพวกเขา ว่า การสมรสจะกินเวลาเพียง 2 ปีจนกว่าญาติชาวไทยของพวกเธอจะได้กรีนการ์ด
ในคำฟ้องเดียวกันยังระบุผู้เกี่ยวข้องอีกคน คือ นายปรมินทร์ ตังชัยวรรณา วัน 32 ปี หรือ กอล์ฟ เขาถูกกล่าวหาว่าช่วยนางวารีจัดการเรื่องการสมรสครั้งที่ 5 ของสาวไทย โดยติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองคนหนึ่ง แต่เขาให้การปฏิเสธเช่นเดียวกัน
คำฟ้องยังระบุว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรปลอมตัวไปพบกับนางวารีและนายปรมินทร์ และนางวารีได้เสนอเงิน 20,000 ดอลลาร์ให้กับเจ้าหน้าที่คนนี้เพื่อแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อนิกกี้
โดยเธอได้บอกกับเขาว่า เขาควรจะ “สื่อสารกับนิกกี้ให้คุ้นเคยและเตรียมตัวเข้าสอบสัมภาษณ์” ขอกรีนการ์ด โดยเธอจะจ่ายเงินให้ก่อน 5,000 ดอลลาร์ ส่วนที่เหลือจะจ่ายให้เมื่อนิกกี้ได้กรีนการ์ดเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ นางวารียังถูกตั้งข้อหาว่าช่วยกรอกเอกสารเข้าเมืองที่ยืนยันว่ามีการสมรัสกันจริงๆ แต่ก็ถูกเปิดโปงออกมาว่าเป็นการแต่งงานจอมปลอมดังกล่าว
หากมีความผิดจริง นางวารี จะติดคุกถึง 5 ปี ในข้อหาสมคบคิดเพียงข้อหาเดียว แต่ 10 ปี สำหรับแต่ละข้อหาในการปลอมแปลงเอกสาร ส่วนนายปรมินทร์อาจถึงคุกถึง 5 ปี ในข้อหาสมคบคิดปลอมแปลงการเข้าเมือง