หลังข่าว “พ.ต.อ.”ทีมคลี่คลายคดียิง”นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ถูกเบรคโดยนายตำรวจใหญ่ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ทั้งๆที่ใกล้ถึงจุดไคลแม็ก เต็มที ทำให้ชื่อเสียงของเขา ขจร ขจาย ทั้งในหมู่ประชาชนผู้รักความยุติธรรม หรือเหล่าสีกากีที่ยืนอยู่บนความเป็นธรรมและถูกต้อง พ.ต.อ.ดาวเด่น ผู้นี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงกล้าหาญรับงานใหญ่เกินตัวและกล้าขัดใจผู้บังคับบัญชาของตัวเอง ไปทำความรู้จักกับเขาดีกว่า
พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ชื่อเล่นว่า"ตุ้ม" เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2512 ใน ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม จ.กำแพงเพชร ก่อนเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนนายร้อยสามพราน รุ่น 45 และจบปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตร์ที่นั่น ต่อมาจบปริญญาโทด้าน บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผลงานวิจัยทางวิชาการ"การตั้งข้อหา คดีอาญาและพ.ร.บ.ทุกประเภท พ.ศ.2536" และได้รับรางวัลดีเด่นงานในด้านการปราบปราม
พ.ต.อ.วิวัฒน์ เคยดำรงค์ตำแหน่งสารวัตรกองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.บก.ทล.) ก่อนมาเป็น สารวัตรกองบังคับการปราบปราม (สว.บก.ป.)จากนั้นได้ขึ้นเป็น รอง ผกก.1 บก.ป. และย้ายไปเป็น รอง ผกก.1 บก.ปดส. ก่อนขึ้นตำแหน่ง ผกก.6 รน. จ.สุราษฎร์ธานี ถึงปัจจุบัน
พ.ต.อ.วิวัฒน์ มีความเชี่ยวชาญ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เป็นอันดับต้นๆของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะแกะรอยโทรศัพท์มือถือ แฮกเกอร์ ซึ่งเป็นการสืบสวนสอบสวนแนวใหม่ มีตำรวจน้อยคนในยุคนั้นที่จะมีความรู้เรื่องดังกล่าว ตอนเป็น รอง ผกก.1 ป.ได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น)ให้ทำคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อ พล.ต.ต.วินัย ย้ายเป็น รอง ผบช.สันติบาล ได้เห็นความสามารถจึงให้ไปช่วยราชการที่สันติบาลด้วย ต่อมา ขณะที่”เดอะตุ้ม” เป็น รอง ผกก.1 บก.ป.ทำงานเข้าตา พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์กุล ผกก.1 บก.ป.(ตำแหน่งขณะนั้น) เขาพิชิตคดีสำคัญๆหลายคดีจนชื่อเสียงในความเก่งกล้าและเข้าหู พล.ต.ท. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก. พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. (ยศและตำแหน่งขณะนั้น ) นอกจากนี้ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ได้มอบหมายให้เป็นหัวหน้าศูนย์สืบสวนไฮเทค ของกองปราบปราม ซึ่งศูนย์ควบคุม สั่งการ พัฒนา และฝึกอบรม ตลอดจนสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับตำรวจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้กับงานสืบสวนสอบสวน โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
ต่อมา พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.ท.อัศวิน สองนายตำรวจตงฉิน ได้รับมอบหมายจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้คลี่คลายคดีถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ด้วยความที่เห็นฝีมือสมัย สองสีกากีน้ำดีดูแลสอบสวนกลาง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ถูกเรียกให้มาช่วยแกะรอยหลักฐานการใช้โทรศัพท์ของ ทีมสังหาร นายสนธิ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้อดีตผู้บังคับบัญชาทั้งสองผิดหวัง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ได้หลักฐานจากการใช้ซิม 6 เบอร์ ของ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ สังกัด บช.ปส.ช่วยราชการดีเอสไอ มา แต่ปรากกว่ามีไส้ศึกรายงานให้ผู้ใหญ่ ว่าเขาเป็นกุญแจสำคัญของทีมคลี่คลายคดี จึงถูก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แม่ทัพใหญ่สีกากี สั่ง ห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่ด้วยความที่รักและเคารพในตัว “นายพลไม้บรรทัด”และ”บิ๊กวิน “ อีกทั้งเป็นคนรักความยุติธรรม ภูมิใจในหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เขากล้าแข็งขืน นายใหญ่สีกากี ด้วยการเอาหูทวนลมและเร่งทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปโดยคิดเสียว่าคำสั่งนั้นเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง เมื่อทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี มีการประกบผู้ต้องหาหลายรายรอเพียงหมายจับเท่านั้น
แล้วฟ้าก็ผ่าเปรี๊ยงอีกครั้ง เมื่อเขาโดนดาบสอง ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่ง ผกก.6 รน. จ.สุราษฎร์ธานี ตามเดิม คดีจึงสะดุดลงแค่นั้น
นั่นอาจเป็นที่มาของคำว่า “เจอตอ”จากปากนายพลไม้บรรทัดก็เป็นได้
ต่อมาเรื่องเข้าหู นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงสั่ง พล.ต.อ.พัชรวาท เซ็นคำสั่งให้ พ.ต.อวิวัฒน์ กลับมาร่วมชุดคลี่คลายคดีอีกครั้ง และนำไปสู่การออกหมายจับ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ สังกัด บช.ปส.ช่วยราชการดีเอสไอ และ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา พลร่มป่าหวาย หากไม่มีมารผจญ ผู้ต้องหาทั้งสองรายคงถูกจับไปนานแล้ว.
พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ชื่อเล่นว่า"ตุ้ม" เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2512 ใน ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม จ.กำแพงเพชร ก่อนเข้าเรียนต่อที่ โรงเรียนนายร้อยสามพราน รุ่น 45 และจบปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตร์ที่นั่น ต่อมาจบปริญญาโทด้าน บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผลงานวิจัยทางวิชาการ"การตั้งข้อหา คดีอาญาและพ.ร.บ.ทุกประเภท พ.ศ.2536" และได้รับรางวัลดีเด่นงานในด้านการปราบปราม
พ.ต.อ.วิวัฒน์ เคยดำรงค์ตำแหน่งสารวัตรกองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.บก.ทล.) ก่อนมาเป็น สารวัตรกองบังคับการปราบปราม (สว.บก.ป.)จากนั้นได้ขึ้นเป็น รอง ผกก.1 บก.ป. และย้ายไปเป็น รอง ผกก.1 บก.ปดส. ก่อนขึ้นตำแหน่ง ผกก.6 รน. จ.สุราษฎร์ธานี ถึงปัจจุบัน
พ.ต.อ.วิวัฒน์ มีความเชี่ยวชาญ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เป็นอันดับต้นๆของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะแกะรอยโทรศัพท์มือถือ แฮกเกอร์ ซึ่งเป็นการสืบสวนสอบสวนแนวใหม่ มีตำรวจน้อยคนในยุคนั้นที่จะมีความรู้เรื่องดังกล่าว ตอนเป็น รอง ผกก.1 ป.ได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป.(ยศและตำแหน่งขณะนั้น)ให้ทำคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อ พล.ต.ต.วินัย ย้ายเป็น รอง ผบช.สันติบาล ได้เห็นความสามารถจึงให้ไปช่วยราชการที่สันติบาลด้วย ต่อมา ขณะที่”เดอะตุ้ม” เป็น รอง ผกก.1 บก.ป.ทำงานเข้าตา พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์กุล ผกก.1 บก.ป.(ตำแหน่งขณะนั้น) เขาพิชิตคดีสำคัญๆหลายคดีจนชื่อเสียงในความเก่งกล้าและเข้าหู พล.ต.ท. ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ผบช.ก. พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก. (ยศและตำแหน่งขณะนั้น ) นอกจากนี้ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.ได้มอบหมายให้เป็นหัวหน้าศูนย์สืบสวนไฮเทค ของกองปราบปราม ซึ่งศูนย์ควบคุม สั่งการ พัฒนา และฝึกอบรม ตลอดจนสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับตำรวจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้กับงานสืบสวนสอบสวน โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
ต่อมา พล.ต.อ.ธานี และ พล.ต.ท.อัศวิน สองนายตำรวจตงฉิน ได้รับมอบหมายจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้คลี่คลายคดีถล่มนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ด้วยความที่เห็นฝีมือสมัย สองสีกากีน้ำดีดูแลสอบสวนกลาง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ถูกเรียกให้มาช่วยแกะรอยหลักฐานการใช้โทรศัพท์ของ ทีมสังหาร นายสนธิ ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้อดีตผู้บังคับบัญชาทั้งสองผิดหวัง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ได้หลักฐานจากการใช้ซิม 6 เบอร์ ของ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ สังกัด บช.ปส.ช่วยราชการดีเอสไอ มา แต่ปรากกว่ามีไส้ศึกรายงานให้ผู้ใหญ่ ว่าเขาเป็นกุญแจสำคัญของทีมคลี่คลายคดี จึงถูก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แม่ทัพใหญ่สีกากี สั่ง ห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่ด้วยความที่รักและเคารพในตัว “นายพลไม้บรรทัด”และ”บิ๊กวิน “ อีกทั้งเป็นคนรักความยุติธรรม ภูมิใจในหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เขากล้าแข็งขืน นายใหญ่สีกากี ด้วยการเอาหูทวนลมและเร่งทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปโดยคิดเสียว่าคำสั่งนั้นเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง เมื่อทุกอย่างกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี มีการประกบผู้ต้องหาหลายรายรอเพียงหมายจับเท่านั้น
แล้วฟ้าก็ผ่าเปรี๊ยงอีกครั้ง เมื่อเขาโดนดาบสอง ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่ง ผกก.6 รน. จ.สุราษฎร์ธานี ตามเดิม คดีจึงสะดุดลงแค่นั้น
นั่นอาจเป็นที่มาของคำว่า “เจอตอ”จากปากนายพลไม้บรรทัดก็เป็นได้
ต่อมาเรื่องเข้าหู นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จึงสั่ง พล.ต.อ.พัชรวาท เซ็นคำสั่งให้ พ.ต.อวิวัฒน์ กลับมาร่วมชุดคลี่คลายคดีอีกครั้ง และนำไปสู่การออกหมายจับ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ สังกัด บช.ปส.ช่วยราชการดีเอสไอ และ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา พลร่มป่าหวาย หากไม่มีมารผจญ ผู้ต้องหาทั้งสองรายคงถูกจับไปนานแล้ว.