ประกันไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ แจ้งจับสามีลูกสาว “แป๋ง ปิยะ” จัดฉากฆาตกรรมเอาเงินประกันกว่า 7 ล้านบาท ส่วน จนท.รัฐช่วยทำบัตรประชาชนให้ลูกสาวแป๋งได้ถูกลงโทษวินัยแล้ว ด้านคดีอาญากำลังเร่งสอบสวนหาหลักฐานเชื่อมโยงเพื่อออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำขยายต่อไป
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.00 น. นายวินัย จีรวงศ์สุนทร นิติกร บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ จำกัด เข้าพบ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัญยเลขา รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วันชัย ชัยชูโชติ สว.กก.5 บก.ป. และพ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.5 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม นายชาญชัย ชิ้นศิริ สามีนางกันต์กนิษฐ์ อังกินันท์ หรือชิ้นศิริ บุตรสาวนายปิยะ อังกินันท์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี หลายสมัย ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ หลังทั้งคู่จัดฉากว่าเสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิเพื่อหนีคดีร่วมกันฉ้อโกงมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท โดยจากการตรวจสอบธุรกรรมข้อมูลลูกค้าของ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ จำกัด พบว่า นายชาญชัยได้ทำกรมธรรม์ประกันชีวิตในชื่อผู้อื่นเพื่อจัดฉากฆาตกรรมเอาเงินประกันจากบริษัทดังกล่าว
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่ กก.5 บก.ป.จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบก.ป.ได้มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติตตามดำเนินคดีที่ทั้งสองร่วมกันกระทำความผิด โดยเฉพาะประเด็นที่สร้างความเสียหายในวงธุรกิจ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ จำกัด ซึ่งจากการตรวจสอบธุรกรรมข้อมูลลูกค้าพบว่า นายชาญชัยได้ทำกรมธรรม์ประกันชีวิตในชื่อของนายวิลาศ แซ่ล้อ ในวงเงินเอาประกันจำนวน 7 ล้านบาท และในชื่อนายพงศวิทย์ ศรีวิทยพงศ์ จำนวน 150,000 บาท แต่ทั้งสองชื่อยังไม่มีการเรียกรับเงินประกันชีวิต
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า จากแนวทางการสืบสวนกรณีการทำประกันชีวิตของนายชาญชัย กับบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ฯ มีการยื่นคำร้องทำประกันชีวิตในชื่อของนายวิลาศ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2548 และในชื่อนายพงศวิทย์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2548 ซึ่งตรวจสอบพบการใช้เอกสารปลอมทำธุรกรรมดังกล่าว ส่วนในบัตรประชาชนใช้รูปใบหน้าเป็นของนายชาญชัย โดยระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นกองมรดก และจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายชาญชัยได้เตรียมวางแผนสวมศพเพื่อเรียกเอาเงินประกันคล้ายกับกรณีของนางกันต์กนิษฐ์
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ฯ ยังพบว่านายชาญชัย ได้ทำประกันสินเชื่อกู้เงินซื้อบ้านในวงเงิน 7 ล้านบาท กับทางธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ฯ อีกด้วย ซึ่งความเสียหายในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวนเชื่อว่าน่าจะมีการผูกโยงกับการทำธุรกรรมอื่นๆ อีกหลายกรณี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามเส้นทางการเงินและการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ปลอมและใช้เอกสารปลอมต่อนายชาญชัยต่อไป
“จากการสอบสวนพบผู้ร่วมกระทำความผิดที่อยู่ระหว่างสืบหาข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนหรือไม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายฝ่ายที่ให้ความร่วมมือให้ความช่วยเหลือกับผู้ต้องหาในการกระทำความผิด ซึ่งเท่าที่ทราบมีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้ความช่วยเหลือในการทำบัตรประจำตัวประชาชนแก่ผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกทางสังกัดลงโทษทางวินัยไปแล้ว ในส่วนทางอาญาขณะนี้ทราบว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ อย่างไรก็ตาม หากมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาออกหมายเรียก เชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป” ผกก.5 บก.ป.กล่าว
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.00 น. นายวินัย จีรวงศ์สุนทร นิติกร บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ จำกัด เข้าพบ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัญยเลขา รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.วันชัย ชัยชูโชติ สว.กก.5 บก.ป. และพ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.5 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม นายชาญชัย ชิ้นศิริ สามีนางกันต์กนิษฐ์ อังกินันท์ หรือชิ้นศิริ บุตรสาวนายปิยะ อังกินันท์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี หลายสมัย ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ หลังทั้งคู่จัดฉากว่าเสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิเพื่อหนีคดีร่วมกันฉ้อโกงมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท โดยจากการตรวจสอบธุรกรรมข้อมูลลูกค้าของ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ จำกัด พบว่า นายชาญชัยได้ทำกรมธรรม์ประกันชีวิตในชื่อผู้อื่นเพื่อจัดฉากฆาตกรรมเอาเงินประกันจากบริษัทดังกล่าว
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่ กก.5 บก.ป.จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบก.ป.ได้มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติตตามดำเนินคดีที่ทั้งสองร่วมกันกระทำความผิด โดยเฉพาะประเด็นที่สร้างความเสียหายในวงธุรกิจ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ของบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ จำกัด ซึ่งจากการตรวจสอบธุรกรรมข้อมูลลูกค้าพบว่า นายชาญชัยได้ทำกรมธรรม์ประกันชีวิตในชื่อของนายวิลาศ แซ่ล้อ ในวงเงินเอาประกันจำนวน 7 ล้านบาท และในชื่อนายพงศวิทย์ ศรีวิทยพงศ์ จำนวน 150,000 บาท แต่ทั้งสองชื่อยังไม่มีการเรียกรับเงินประกันชีวิต
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า จากแนวทางการสืบสวนกรณีการทำประกันชีวิตของนายชาญชัย กับบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ฯ มีการยื่นคำร้องทำประกันชีวิตในชื่อของนายวิลาศ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2548 และในชื่อนายพงศวิทย์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2548 ซึ่งตรวจสอบพบการใช้เอกสารปลอมทำธุรกรรมดังกล่าว ส่วนในบัตรประชาชนใช้รูปใบหน้าเป็นของนายชาญชัย โดยระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นกองมรดก และจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายชาญชัยได้เตรียมวางแผนสวมศพเพื่อเรียกเอาเงินประกันคล้ายกับกรณีของนางกันต์กนิษฐ์
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ฯ ยังพบว่านายชาญชัย ได้ทำประกันสินเชื่อกู้เงินซื้อบ้านในวงเงิน 7 ล้านบาท กับทางธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์กไลฟ์ฯ อีกด้วย ซึ่งความเสียหายในส่วนนี้ทางพนักงานสอบสวนเชื่อว่าน่าจะมีการผูกโยงกับการทำธุรกรรมอื่นๆ อีกหลายกรณี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามเส้นทางการเงินและการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ปลอมและใช้เอกสารปลอมต่อนายชาญชัยต่อไป
“จากการสอบสวนพบผู้ร่วมกระทำความผิดที่อยู่ระหว่างสืบหาข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนหรือไม่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายฝ่ายที่ให้ความร่วมมือให้ความช่วยเหลือกับผู้ต้องหาในการกระทำความผิด ซึ่งเท่าที่ทราบมีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้ความช่วยเหลือในการทำบัตรประจำตัวประชาชนแก่ผู้ต้องหาทั้งสองรายถูกทางสังกัดลงโทษทางวินัยไปแล้ว ในส่วนทางอาญาขณะนี้ทราบว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ อย่างไรก็ตาม หากมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาออกหมายเรียก เชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป” ผกก.5 บก.ป.กล่าว