กองปราบปรามทำหนังสือถึง ผบก.ป.เพื่อขออนุมัติตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดีลูกสาว “แป๋ง อังกินันทน์” ล่าสุดพบรถยนต์ 2 คันของผู้ต้องหามี “พ.ต.ท.” ครอบครอง ขณะนี้ได้เลื่อนยศขึ้นเป็น ผกก.ในพื้นที่สงขลา แถมนายตำรวจคนดังกล่าวได้โอบอุ้ม “กันต์กนิษฐ์” สวมชื่อบัตรประชาชนเป็นคนอื่นด้วย
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีจับกุมนางกันต์กนิษฐ์ หรือปานจิต อังกินันทน์ หรือชิ้นศิริ บุตรสาวนายปิยะ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรีหลายสมัย และจับกุมนายชาญชัย ชิ้นศิริ สามีนางกันต์กนิษฐ์ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงมูลค่าความเสียหายกว่า 8 พันล้านบาท โดยมีการจัดฉากว่านางกันต์กนิษฐ์เสียชีวิตจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือถึง พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป.เพื่อขออนุมัติตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดีโดยมีตนเป็นหัวหน้าชุด เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนพบว่าคดีนี้มีความเสียหายเกิดขึ้นหลายภาคส่วน และมีหลักฐานเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา รวมทั้งผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
“จากการตรวจสอบรถยนต์ 2 คันของผู้ต้องหา พบว่ามีชื่อของนายตำรวจยศ พ.ต.ท.รายหนึ่งเป็นผู้ครอบครอง ปัจจุบันทราบว่านายตำรวจคนดังกล่าวได้เลื่อนยศเป็น พ.ต.อ.มีตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.แห่งหนึ่งใน จ.สงขลา และเป็นนายตำรวจรายเดียวกับที่มีส่วนให้ความช่วยเหลือนางกันต์กนิษฐ์ เรื่องการสวมบัตรประชาชนเป็นบุคคลอื่น ในชื่อ น.ส.ชัยนคร ทิน่าน โดยเป็นผู้จัดหาบ้านที่เอาชื่อของ น.ส.ชัยนคร ไปไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตบางแค กทม.” พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าว
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สอบปากคำเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวแล้ว โดยทราบว่านายตำรวจคนนี้เป็นผู้มีพระคุณให้การช่วยเหลือเจ้าของบ้านเรื่องคดีความในสมัยที่ยังเป็น รอง ผกก.สน.หลักสอง เมื่อได้ติดต่อให้ตนช่วยเหลือเตรียมเอกสารเกี่ยวกับบ้านของตน จึงเกรงใจมอบให้โดยไม่ได้สอบถามว่าจะถูกนำไปใช้ทำอะไร ต่อมาภายหลังจึงทราบว่ามีชื่อของ น.ส.ชัยนคร ทิน่าน เข้ามาเป็นผู้อาศัยในทะเบียนบ้านของตน อย่างไรก็ดี ทางสำนักงานเขตบางแคได้แจ้งมาว่าได้ทำการยกเลิกบัญชีการย้ายเข้าของชื่อดังกล่าวแล้วเนื่องจากมีการแจ้งเอกสารอันเป็นเท็จ
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนสอบสวนทราบอีกว่าระหว่างที่มีการแจ้งยกเลิกบัญชีการย้ายเข้าบ้านของ น.ส.ชัยนคร ทางด้านของนางกันต์กนิษฐ์ ได้ใช้ชื่อ น.ส.ชัยนคร ที่อยู่ในบ้านดังกล่าวไปทำการเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.ณัฏฐ์ สิริณัฏฐ์ ที่ จ.สระบุรี เรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเส้นทางของการดำเนินการว่าทำได้อย่างไรมีใครให้ความช่วยเหลืออีกบ้าง ในส่วนของบัตรเครดิตที่ยึดมาจากนายชาญชัยจำนวนหลายใบพบว่าเป็นชื่อบุคคลอื่นทั้งหมด และเมื่อตรวจสอบรายชื่อเจ้าของบัตรก็ตรงกับรายชื่อคนในคณะกรรมการบริษัทหลายแห่งที่นายชาญชัยจดทะเบียนบริษัทไว้ ซึ่งทางตำรวจจะเร่งตรวจสอบว่าบุคคลตามรายชื่อบัตรเครดิตนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ และมีความเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร