xs
xsm
sm
md
lg

เปิดชื่อ-สังกัด 2 ตำรวจยัดยารีดเงิน นศ.-ส่ง ป.ป.ช.เชือดซ้ำ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพ 1 ใน 2 คนร้ายที่ก่อเหตุอุ้มนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังไปยัดยาเสพติดรีดทรัพย์ภายในขนส่งสายใต้ใหม่ ซึ่งมีใบหน้าคล้ายตำรวจสังกัดคอมมานโดกองปราบปราม ชื่อเล่นว่า “ดาบเชษฐ์”
ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน เข้าพบ ผบก.น.7 เพื่อรายงานข้อเท็จจริงคดี 2 ตำรวจอุ้มไถเงินเหยื่อ นศ.ในขนส่งสายใต้ใหม่ พร้อมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.-ป.ป.ท.ดำเนินการเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายภายใน 30 วัน และทำหนังสือถึงต้นสังกัดให้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคนมาพบพนักงานสอบสวน 7 เม.ย.นี้

จากกรณีที่นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปี ทั้ง 2 ราย เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ ถูกคนร้ายชาย 2 คนอ้างตัวเป็นตำรวจเข้ามาขอตรวจค้นยาเสพติดขณะนั่งรอรถอยู่ในขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี จากนั้นถูกควบคุมตัวขึ้นไปกักขังไว้ภายในรถซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถชั้น 2 โซนเอ็ม 9 แล้วยัดยาเสพติดให้เพื่อรีดไถเงิน จำนวน 20,000 บาท ก่อนจะได้รับอิสรภาพตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้นำเอกสารเดินทางเข้าไปพบ พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 เพื่อรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว ซึ่งจากผลการสรุปข้อมูลในขณะนี้ชัดเจนว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย เป็นข้าราชการตำรวจจริงๆ คนแรกเป็นตำรวจในสังกัด บก.น.7

ส่วนอีกคนอยู่สังกัดกองปราบปราม ทั้งนี้ เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการทางพนักงานสอบสวนก็จำเป็นต้องส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ท.เป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยมีกรอบระยะเวลาในการทำงานเพียง 30 วัน

พ.ต.ท.สุกิจ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดีในขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 ราย และพยานอีก 2-3 ปาก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน.ตลิ่งชัน ก็ได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย เพื่อให้นำตัวเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นต่อพนักงานสอบสวน ในวันอังคารที่ 7 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. หากทั้ง 2 รายยังเพิกเฉยไม่ยอมเข้ามาพบ ทางผู้บังคับบัญชาก็จะเป็นผู้พิจารณาต่อไปว่าจะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. เลยหรือไม่เพราะถือว่ากระบวนการสอบสวนผู้เสียหายและพยานนั้นเสร็จสิ้นไปแล้ว

“เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ข้อกล่าวหากับตำรวจทั้ง 2 นายว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น โดยขั้นตอนต่อจากนี้คือเราจะต้องเดินทางไปประสานกับทางผู้บริหารสายใต้ใหม่ เพื่อขอภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด และไปประสานกับธนาคารกรุงไทย เพื่อขอสลิปหลักฐานการโอนเงินที่ญาติโอนเข้ามาที่บัญชีของผู้เสียหายในวันเกิดเหตุ ก่อนนำมาเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดียื่นให้ ป.ป.ช.ต่อไป” พ.ต.ท.สุกิจ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผบช.น.กล่าวยอมรับว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของสถานีขนส่งสายใต้ ผู้เสียหายได้ชี้ตัวยืนยันว่าเป็นคนร้าย ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นตำรวจจริง ชื่อ ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ สังกัด สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนชัย ต่ายจันทร์ สังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และได้ประสานผู้บังคับบัญชาให้นำตัวมารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่นแล้ว หากไม่มาจะพิจารณาออกหมายจับต่อไป และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับประสานจากต้นสังกัดว่า จะนำเข้ามอบตัวเมื่อใด

ต่อมาที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป.กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบผู้ที่ถูกพาดพิง คือ ด.ต.ชัยชนะ ต่ายจันทร์ ตำรวจคอมมานโด กองร้อย 4 กก.ปพ.บก.ป.ซึ่งขณะนี้ทางกองปราบปรามได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชัยทัต บุญขำ ผกก.ปพ.บก.ป.เป็นหัวหน้า และหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงทาง พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบก.ป. จะพิจารณาลงโทษทางวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก

ทั้งนี้ต้องรอให้ทาง สน.ตลิ่งชัน ท้องที่เกิดเหตุ ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ส่งเรื่องให้ทาง ปปช.ชี้มูลความผิดเสียก่อน

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายการทำงานของตำรวจกองปราบปราม ทาง พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ได้กำชับในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่มาโดยตลอดว่าจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส หากมีตำรวจรายใดในสังกัดใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางที่มิชอบ ร่วมกระทำความผิด หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าเป็น “นักบิน” เรียกรับผลประโยชน์ หากพบพยานหลักฐานก็จะลงโทษอย่างเฉียบขาด ไม่ปล่อยไว้และจะไม่มีการปกป้องช่วยเหลือแต่อย่างใด เพื่อไม่ให้ส่วนร่วมหรือในนามของหน่วยงานต้องเสียหายไปด้วย

ออกหมายจับตำรวจนอกรีตอุ้มไถเงินเหยื่อ นศ.ในสายใต้
คนร้ายอ้างเป็นตำรวจข่มขู่รีดทรัพย์ 2 นักศึกษาหนุ่มสาว
กำลังโหลดความคิดเห็น