ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งให้มีการสอบสวนขยายผลกรณี 2 ตำรวจนอกรีตกรรโชกทรัพย์ ยัดยาบ้านักศึกษาในสายใต้ใหม่ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐส่วนใดเข้าไปพัวพันด้วยหรือไม่ อีกทั้งตำรวจทั้ง 2 นายก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วกี่ครั้ง แต่เบื้องต้นยังไม่มีใครเป็นเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความเพิ่มเติม ขณะที่ ผบก.น.7 สั่งพิจารณาให้จัดตั้งสถานีตำรวจย่อยในสายใต้ใหม่ เพื่อป้องกันเหตุต่างๆ
วันนี้ (4 เม.ย.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวถึงคดีที่ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียัดยาเสพติดและกรรโชกทรัพย์ นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชีย ภายในลานจอดรถขนส่งสายใต้ใหม่ว่า ได้ส่งสำนวนที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดไปให้กับพล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พิจารณาแล้ว แต่ทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงไม่สามารถออกหมายจับหรือดำเนินคดีใดๆ ได้ ทำได้เพียงรวบรวมพยานและหลักฐานส่งให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการต่อไป แต่ทั้งนี้จะต้องขยายผลต่อไปว่าตำรวจทั้งสองมีพฤติกรรมการก่อเหตุในแบบเดียวกันอีกหรือไม่ ในขณะเดียวกัน บชน.ก็มีคำสั่งให้หารือในเรื่องการก่อเหตุดังกล่าวของเจ้าพนักงานทั้งสองอยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
“ในเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ของสถานีให้ข้อมูลมาว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติกรรมเดียวกันกับตำรวจนอกรีตทั้งสองนั้น ทางเจ้าพนักงานกำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หลักฐานและพยานต่อไป เพราะในขณะนี้ ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ อีกทั้งทราบว่าทาง ผบก.น.7 ได้สั่งให้พิจารณาการจัดตั้งสถานีตำรวจย่อยที่สถานีขนส่งใต้ใหม่ขึ้นด้วย” พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าว
ด้าน พล.ต.ตไพศาล เชื้อรอต ผบช.น.7 กล่าวว่า ได้ผลสรุปจาก ผกก.สน.ตลิ่งชันแล้ว ในเบื้องต้นทางต้นสังกัดของตำรวจทั้งสองนายได้เสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ซึ่งทางขนส่งมีหน้าที่ในการรับผิดชอบสถานีโดยตรง แต่ทางตำรวจได้เข้าไปช่วยเหลือ ดูแล ด้วยการส่งสายตรวจเข้าไปตรวจเป็นระยะๆ ทั้งนี้ หน่วยงานที่ดูแลภายในสถานีนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น สน.ตลิ่งชัน กองปราบปราม และจะมีมาตราการการป้องกันเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยให้ ผกก.สน.ตลิ่งชัน สับเปลี่ยนกำลังตำรวจใหม่ คัดเลือกจากผู้ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม เพราะสถานีอยู่ในพื้นที่การดูแลของ สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้ามาดูแลร่วมก็ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดจะพิจารณาว่าจะสับเปลี่ยน โยกย้ายหรือไม่อย่างไร เพื่อระดมกวาดล้างผู้ที่อยู่นอกรีตให้หมดไป
“ในส่วนการจัดตั้งสถานีตำรวจย่อยนั้น ได้สั่งการให้ ผกก.สน.ตลิ่งชัน พิจารณาแล้ว หากเห็นสมควรก็จะดำเนินการโดยเร็ว เพราะในอดีตเคยมีสถานีย่อยเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย เพราะมีผู้มาใช้บริการน้อยจึงได้เปลี่ยนเป็นกำลังสายตรวจเข้าไปดูแลแทน” ผบก.น.7 กล่าว
2 ดาบตำรวจ! ไม่สำนึก มอบตัวสู้ข้อหาอุ้มรีดเงิน นศ.
เปิดชื่อ-สังกัด 2 ตำรวจยัดยารีดเงิน นศ.-ส่ง ป.ป.ช.เชือดซ้ำ!
ออกหมายจับตำรวจนอกรีตอุ้มไถเงินเหยื่อ นศ.ในสายใต้
คนร้ายอ้างเป็นตำรวจข่มขู่รีดทรัพย์ 2 นักศึกษาหนุ่มสาว
วันนี้ (4 เม.ย.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวถึงคดีที่ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียัดยาเสพติดและกรรโชกทรัพย์ นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชีย ภายในลานจอดรถขนส่งสายใต้ใหม่ว่า ได้ส่งสำนวนที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดไปให้กับพล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พิจารณาแล้ว แต่ทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงไม่สามารถออกหมายจับหรือดำเนินคดีใดๆ ได้ ทำได้เพียงรวบรวมพยานและหลักฐานส่งให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินการต่อไป แต่ทั้งนี้จะต้องขยายผลต่อไปว่าตำรวจทั้งสองมีพฤติกรรมการก่อเหตุในแบบเดียวกันอีกหรือไม่ ในขณะเดียวกัน บชน.ก็มีคำสั่งให้หารือในเรื่องการก่อเหตุดังกล่าวของเจ้าพนักงานทั้งสองอยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
“ในเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่ของสถานีให้ข้อมูลมาว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติกรรมเดียวกันกับตำรวจนอกรีตทั้งสองนั้น ทางเจ้าพนักงานกำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริง หลักฐานและพยานต่อไป เพราะในขณะนี้ ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ อีกทั้งทราบว่าทาง ผบก.น.7 ได้สั่งให้พิจารณาการจัดตั้งสถานีตำรวจย่อยที่สถานีขนส่งใต้ใหม่ขึ้นด้วย” พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าว
ด้าน พล.ต.ตไพศาล เชื้อรอต ผบช.น.7 กล่าวว่า ได้ผลสรุปจาก ผกก.สน.ตลิ่งชันแล้ว ในเบื้องต้นทางต้นสังกัดของตำรวจทั้งสองนายได้เสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ซึ่งทางขนส่งมีหน้าที่ในการรับผิดชอบสถานีโดยตรง แต่ทางตำรวจได้เข้าไปช่วยเหลือ ดูแล ด้วยการส่งสายตรวจเข้าไปตรวจเป็นระยะๆ ทั้งนี้ หน่วยงานที่ดูแลภายในสถานีนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น สน.ตลิ่งชัน กองปราบปราม และจะมีมาตราการการป้องกันเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยให้ ผกก.สน.ตลิ่งชัน สับเปลี่ยนกำลังตำรวจใหม่ คัดเลือกจากผู้ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม เพราะสถานีอยู่ในพื้นที่การดูแลของ สน.ตลิ่งชัน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้ามาดูแลร่วมก็ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดจะพิจารณาว่าจะสับเปลี่ยน โยกย้ายหรือไม่อย่างไร เพื่อระดมกวาดล้างผู้ที่อยู่นอกรีตให้หมดไป
“ในส่วนการจัดตั้งสถานีตำรวจย่อยนั้น ได้สั่งการให้ ผกก.สน.ตลิ่งชัน พิจารณาแล้ว หากเห็นสมควรก็จะดำเนินการโดยเร็ว เพราะในอดีตเคยมีสถานีย่อยเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย เพราะมีผู้มาใช้บริการน้อยจึงได้เปลี่ยนเป็นกำลังสายตรวจเข้าไปดูแลแทน” ผบก.น.7 กล่าว
2 ดาบตำรวจ! ไม่สำนึก มอบตัวสู้ข้อหาอุ้มรีดเงิน นศ.
เปิดชื่อ-สังกัด 2 ตำรวจยัดยารีดเงิน นศ.-ส่ง ป.ป.ช.เชือดซ้ำ!
ออกหมายจับตำรวจนอกรีตอุ้มไถเงินเหยื่อ นศ.ในสายใต้
คนร้ายอ้างเป็นตำรวจข่มขู่รีดทรัพย์ 2 นักศึกษาหนุ่มสาว
