“ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ-ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์” สองตำรวจอุ้มไถเงิน นศ.ในสายใต้ใหม่ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาล ขณะที่ ผกก.สน.บางขุนนนท์ ได้ทำเรื่องถึงต้นสังกัดให้ “ด.ต.ถวิล” ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วน “ด.ต.ธนะชัย” ยังไม่ได้รับรายงานว่าต้นสังกัดดำเนินการเช่นไร ด้านพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน พิมพ์ลายนิ้วมือก่อนปล่อยตัวไป อ้างไม่มีอำนาจควบคุมตัว แต่จะส่งให้ ป.ป.ช.ชี้ขาด
วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม 2 ผู้ต้องสงสัยในคดียัดยาเสพติดและกรรโชกทรัพย์ นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชีย ภายในลานจอดรถขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน.ตลิ่งชัน
โดย พ.ต.อ.วราพงษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเบื้องต้นในชั้นการสอบสวนได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่า วันเกิดเหตุอยู่ในขนส่งสายใต้ใหม่จริง โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
พ.ต.อ.วราพงษ์ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการออกหมายจับ หรือดำเนินคดีใดๆ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจมีหน้าที่เพียงแค่รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งเรื่องทั้งหมดให้กับ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินคดีตามกฏหมาย ขณะนี้ทาง ผกก.สน.บางขุนนนท์ ได้ทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ ด.ต.ถวิล ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนด.ต.ธนะชัย ยังไม่ทราบว่าทางต้นสังกัดดำเนินการอย่างไร หลังจากนี้ จะให้ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนปล่อยตัวไปเพราะไม่มีอำนาจในการควบตุมตัว และจะส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ขณะนี้ได้กำชับให้ทาง ผกก.สน.ตลิ่งชัน สรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดมาให้ และจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากทราบว่ายังมีแก๊งอื่นๆ ที่ก่อเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับตำรวจทั้ง 2 นาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม 2 ผู้ต้องสงสัย เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ได้พยายามหลบผู้สื่อข่าว และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกแก๊งหนึ่งที่มักจะก่อเหตุกับชาวต่างด้าว โดยจะมีคนขับรถแท็กซี่ร่วมอยู่ในแก๊งด้วย ซึ่งคนขับแท๊กซี่จะขับรถพาผู้โดยสารชาวต่างด้าวเข้าไปให้กับสายตรวจนอกรีตทำการข่มขืนและปลดทรัพย์ ส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์มือถือและเงินสด โดยโทรศัพท์จะนำไปขายที่ชั้น 3 ของสายใต้ ซึ่งเปิดเป็นพลาซ่า ซึ่งแต่ละครั้งที่เกิดเหตุจะไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเนื่องจากผู้เสียหายเองก็เป็นชาวต่างด้าว
วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม 2 ผู้ต้องสงสัยในคดียัดยาเสพติดและกรรโชกทรัพย์ นายณัฐพงษ์ ภิรมย์รักษ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวริศา ชัยเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์วิทยาศาสตร์ เอกรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชีย ภายในลานจอดรถขนส่งสายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ พ.ต.อ.วราพงษ์ มโนลีหกุล ผกก.สน.ตลิ่งชัน
โดย พ.ต.อ.วราพงษ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้เดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเบื้องต้นในชั้นการสอบสวนได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่า วันเกิดเหตุอยู่ในขนส่งสายใต้ใหม่จริง โดยจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
พ.ต.อ.วราพงษ์ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการออกหมายจับ หรือดำเนินคดีใดๆ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจมีหน้าที่เพียงแค่รวบรวมพยานหลักฐาน และส่งเรื่องทั้งหมดให้กับ ป.ป.ช.เป็นผู้ดำเนินคดีตามกฏหมาย ขณะนี้ทาง ผกก.สน.บางขุนนนท์ ได้ทำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ ด.ต.ถวิล ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนด.ต.ธนะชัย ยังไม่ทราบว่าทางต้นสังกัดดำเนินการอย่างไร หลังจากนี้ จะให้ทางพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนปล่อยตัวไปเพราะไม่มีอำนาจในการควบตุมตัว และจะส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ขณะนี้ได้กำชับให้ทาง ผกก.สน.ตลิ่งชัน สรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดมาให้ และจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากทราบว่ายังมีแก๊งอื่นๆ ที่ก่อเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับตำรวจทั้ง 2 นาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ด.ต.ถวิล ม่วงเกตุ ผบ.หมู่ฝ่ายสืบสวนปราบปราม สน.บางขุนนนท์ และ ด.ต.ธนะชัย ต่ายจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม 2 ผู้ต้องสงสัย เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ได้พยายามหลบผู้สื่อข่าว และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกแก๊งหนึ่งที่มักจะก่อเหตุกับชาวต่างด้าว โดยจะมีคนขับรถแท็กซี่ร่วมอยู่ในแก๊งด้วย ซึ่งคนขับแท๊กซี่จะขับรถพาผู้โดยสารชาวต่างด้าวเข้าไปให้กับสายตรวจนอกรีตทำการข่มขืนและปลดทรัพย์ ส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์มือถือและเงินสด โดยโทรศัพท์จะนำไปขายที่ชั้น 3 ของสายใต้ ซึ่งเปิดเป็นพลาซ่า ซึ่งแต่ละครั้งที่เกิดเหตุจะไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเนื่องจากผู้เสียหายเองก็เป็นชาวต่างด้าว