นครศรีธรรมราช – ตำรวจสกัดรวบ “เอียดเป๋” สมุน “ไข่หมูก” ระหว่างเดินทางเข้าป่วนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบแผ่นปลิวเรียกค่าคุ้มครอง 3 โรงแรมดัง หาดใหญ่ - ยะลา มูลค่า 100 ล้าน ขู่หากไม่ได้ตามเรียกร้องจะวางระเบิด จากการสอบสวนพบมีหมายจับเพียบ ทั้งคดีฆ่า ,พยายามฆ่านักการเมืองท้องถิ่น เรียกค่าคุ้มครองกรรโชกทรัพย์ 4 จังหวัด
จากกรณีที่ไข่หมูก “ส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองนักธุรกิจ เจ้าของสถานประกอบการ เจ้าของสวนยางในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้ ล่าสุดนางปราณี กิ้มต้อง เจ้าของกิจการร้าน “ส.การเกษตร” ใน ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จนสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้ ซึ่งตำรวจทั้งภาค 8 และ ภาค 9 รวมทั้งฝ่ายปกครองต้องระดมกำลังในการสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมแก๊งไข่หมูก และส่งกำลังคุ้มครองบรรดาผู้เสียหายที่ถูกเรียกค่าคุ้มครอง ตามที่เสนอข่าวมาตามลำดับแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมาพล.ต.ต.สัณฐาน ชยานนท์ ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.อำพล บัวรับพร รอง ผบก.หน.ศูนย์สืบสวน ภาค 9 และนายตำรวจระดับ ผกก. รอง ผกก.ในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช สงขลา ตรัง และพัทลุง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายวิโรจน์ ทนงาน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 หมู่ 5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง มือปืนชื่อดังเจ้าของฉายา “เอียดเป๋” ลูกสมุนคนสนิทของนายเจิม เส้งเอียด หรือ “ไข่หมูก” ที่ก่อคดีฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น รวมทั้งคดีเรียกค่าคุ้มครอง กรรโชกทรัพย์ มีหมายจับของ สภ.ป่าพะยอม ศาลจังหวัดพัทลุง สภ.ห้วยยอด ศาล จ.ตรัง และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงอีกหลายคดี
หัวหน้าชุดจับกุมคือ พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจรวม 3 นายได้เดินทางไปสืบสวนคลี่คลายคดีไข่หมูกเรียกค่าคุ้มครอง รวมทั้งคดีฆ่า และพยายามฆ่าที่นายปราโมทย์ คงจันทร์ และนายวิโรจน์ ทนงาน สองสมุนของไข่หมูก ก่อเหตุในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยเดินทางเข้าไปประสานงานกับ พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
ทั้งนี้ มีสายรายงานว่านายปราโมทย์ และนายวิโรจน์ จะเดินทางโดยสารรถตู้สายป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กำลังตำรวจจึงดักซุ่มสังเกตุการณ์บริเวณหน้าโรงพยาบาลป่าพะยอม ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง กระทั้งเห็นนายวิโรจน์ มาขึ้นรถตู้โดยสารสายป่าพะยอม-หาดใหญ่ เพียงคนเดียวโดยไม่มีนายปราโมย์ มาด้วย พ.ต.ท.โชคดี พร้อมกำลังตำรวจจึงขับรถยนต์ติดตามไปห่างๆ พร้อมประสานขอกำลังตำรวจสมทบจากจาก สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เมื่อรถตู้โดยสารขับไปตามถนนเพชรเกษม - บ้านโคกทรายเขตรอยต่อ อ.ป่าพะยอมกับ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง รถตู้โดยสารได้จอดข้างถนน จากนั้นนายวิโรจน์ ได้ลงจากรถตู้โดยสาร สะพายเป้สีดำอยู่ด้านหลัง พ.ต.ท.โชคดี พร้อมกำลังจึงตัดสินใจบุกเข้าชาร์ทจับกุมตัวนายวิโรจน์ เอาไว้ได้จากการตรวจค้นในกระเป๋าเป้พบอาวุธปืนขนาด .357 ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนในลูกโม่ 6 นัด กระสุนสำรองอีก 6 นัด ซองพกหนังสีดำ 1 ซอง เงินสด 5,000 บาท ในกระเป๋าเป้ นอกจากจะมีเสื้อผ้า 2-3 ชุดแล้วยังมีเปลสนามอีก 1 ชุด ด้วย
นอกจากนี้ ยังพบแผ่นปลิวกระดาษ เอ.4 ประมาณ 100 แผ่น อยู่ในซองสีน้ำตาล โดยมีข้อความเรียกค่าคุ้มครองกรรโชกทรัพย์จากโรงแรมดัง 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงแรมลีการ์เด้นท์ โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และโรงแรมเบตงเมอร์ลิน รวมกันเป็นเงิน 100 ล้านบาท โดยให้เวลาทั้ง 3 แห่งเป็นเวลา 3 เดือน หากไม่ได้รับเงินตามที่เรียกร้องจะทำการวางระเบิดและใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบกับโรงแรมทั้ง 3 แห่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายวิโรจน์ พร้อมหลักฐานมาลงบันทึกการจับกุมและบันทึกประจำวันที่ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง จากนั้นจึงควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล ที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช
นายวิโรจน์ ทนงาน ผู้ต้องหาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างไม่สะทกสะท้าน โดยให้การรับสารภาพในทุกข้อหา ยกเว้นข้อหาฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ส่วนคดีเรียกค่าคุ้มครองและกรรโชกทรัพย์ ซึ่งทำสำเร็จมาแล้วหลายพื้นที่ เช่น อ.รัษฎา จ.ตรัง นายวิโรจน์ได้รับส่วนแบ่ง 14,000 บาท และในท้องที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง อีกหลายแห่ง ส่วนการเรียกค่าคุ้มครองอดีตครูเจ้าของสวนยางพารารายใหญ่ ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราชนั้นจอมโจรไข่หมูกเรียกค่าคุ้มครองเพียงแค่ 3 แสนบาทเท่านั้น แต่มีผู้สวมรอยเรียกเพิ่มเป็น 2 ล้านผู้เสียหายจึงไม่ยอมจ่าย จอมโจรไข่หมูกจึงนำสมุนบุกใช้อาวุธสงครามยิงกราดข่มขู่และตัดต้นยางพาราทิ้งเกือบ 100 ต้น
หลังจากมีการออกหมายจับโจรไข่หมูก และตำรวจติดตามไล่ล่าจับกุมอย่างกระชันชิด โจรไข่หมูก จึงหลบหนีไปอยู่กรุงเทพ โดยไปอยู่ที่ค่ายมวยแห่งหนึ่งย่านอ้อมน้อยนานประมาณ 2 เดือน เพิ่งเดินทางกลับมาในพื้นที่เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ล่าสุดที่มีจดหมายเรียกค่าคุ้มครองนางปราณี กิ้มต้อง เจ้าของร้าน ส.การเกษตร ใน ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด นั้นไม่ใช่ฝีมือของตนคาดว่าเป็นลูกสมุนคนอื่นของโจรไข่หมูก และในส่วนของโรงแรมดัง 3 แห่งนั้น จอมโจรไข่หมูก ได้มอบหมายให้ตนนำใบปลิวไปโปรยทิ้งตามสี่แยก ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยให้ค่าจ้างตน 3,000 บาท และตนกำลังจะเดินทางไปโปรยใบปลิวตามคำสั่งของไข่หมูก และจะแวะเยี่ยมญาติที่บ้านโคกทราย ก็มาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว
นายวิโรจน์ ผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพด้วยอารมณ์ดีว่า จดหมายเรียกค่าคุ้มครองที่ลงชื่อ “ห้าอินทรีย์พยัคเถื่อน “ในอดีตสมัยที่โจรไข่หมูกโด่งดังก่อนถูกจับติดคุกนั้นจะใช้ชื่อนี้ส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองทั่วภาคใต้ ซึ่งในปัจจุบันในวงการจะรู้ว่านั่นคือโจรไข่หมูก แลปัจจุบันจอมโจรไข่หมูกมีลูกสมุนคนสนิทจำนวน 3 คน มีอาวุธสงครามประกอบด้วยปืนอาร์ก้า 1 กระบอก ปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก โดยไข่หมูกจะอาศัยอยู่กับนางแหว่ว ภรรยาคนล่าสุดวัย 50 ปี อยู่ที่บ้านห้วยลำพัน หมู่ 5 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
ทางด้านพล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การส่งจดหมายข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองของนายเจิม เส้งเอียด หรือ”ไข่หมูก” เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั้งในท้องที่ ภาค 8 และ ภาค 9 และมีแนวโน้มว่าจะขยายพื้นที่กว้างขวางออกไปเรื่อยๆ จนถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการทิ้งใบปลิวในลักษณะนี้ ผู้เสียหายที่ถูกระบุในใบปลิวจะหวาดกลัวมาก หลายรายต้องรีบจ่ายเงินให้กับไข่หมูกทันที บางรายถึงกับนำเงินไปฝากไปให้ไข่หมูกทันที ทำให้มีกลุ่มบุคคลเข้าไปสอดแทรกเรียกค่าคุ้มครองในนาม “ไข่หมูก”เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ตนได้สั่งการให้ทุกโรงพักในภาค 8 และประสานกับทางภาค 9 เพื่อให้รวบรวมคดีการเรียกค่าคุ้มครองที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่ามีกี่คดี ที่ไหนบ้าง จากนั้นจะมีการสนธิกำลังตำรวจภาค 8 และภาค 9 เพื่อไล่ล่าติดตามจับกุมนายเจิม เส้งเอียด หรือไข่หมูก “พร้อมลูกสมุนมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จอมโจรชื่อดังรายนี้จะแผ่ขยายอิทธิพลสร้างความเดือดร้อนไปมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายวิโรจน์ ทนงาน หรือ “เอียดเป๋” สมุนของโจรไข่หมูก ที่ตำรวจจับกุมได้นั้นตามประวัติพัวพันคดีสังหารผู้นำท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง 3 คดี ใน อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง 1 คดี ทั้งหมดศาลออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับอีกนับ 10 คดี บางคดีร่วมก่อเหตุกับนายปราโมทย์ คงจันทร์ คู่หูที่ยังหลบหนี ล่าสุดทั้งสองสังหารชาวบ้านในท้องที่ ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ที่ออกไปหาปลา เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นับเป็น 2 มือปืนที่ก่อเหตุอย่างอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจทั้งภาค 8 และภาค 9 เป็นอย่างมาก
หลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้มอบตัวนายวิโรจน์ หรือ เอียดเป๋ ให้กับ พ.ต.อ.สมภพ สังข์กรทอง ผกก.สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป