นครศรีธรรมราช – แก๊งไข่หมูกเครือข่ายของ นายเจิม เซ่งเอียด หัวหน้าโจรเรียกค่าไถ่ชื่อดังในภาคใต้โผล่อีกแล้ว คราวนี้เรียกค่าคุ้มครองเจ้าของธุรกิจเคมีภัณฑ์และอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ของ อ.ชะอวด โดยส่งจดหมายผ่านไปรษณีย์เหน็บหน้าประตูร้าน ขู่ไม่ให้จะจับตัวลูกสาวเป็นตัวประกันอีก ด้านเจ้าของบ้านผวาโร่แจ้งตำรวจขอคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฝีมือของโจรกลุ่มนี้หรือมีการแอบอ้างจากบุคคลอื่น
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รับรายงานด่วนที่สุดจาก สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในกรณีคนร้ายส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองกับ นางปราณี กิ้มต้อง อายุ 59 ปี ผู้ประกอบกิจการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ ปุ๋ย และอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างในจดหมายเรียกค่าคุ้มครองว่าเป็น “กลุ่มผู้ปฏิบัติการแทนไข่หมูก” และยังขู่จับบุตรสาวเป็นตัวประกันในการเรียกค่าคุ้มครอง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 29 มี.ค.นางปราณี หรือ เจ๊ล้าน กิ้มต้อง อายุ 59 ปี อยู่ 268/5 หมู่ 5 ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย น.ส.สุจิตรา กิ้มต้อง อายุ 27 ปี บุตรสาว ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการในเครือ ส.การเกษตร ซึ่งเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยเคมีและอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และยังเป็นเจ้าของสวนยางพาราหลายร้อยไร่อยู่ในขั้นเศรษฐีของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำจดหมายจำนวน 2 ฉบับ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมพงศ์ จุลเรือง สารวัตรเวร (พนักงานสอบสวน สบ3) สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
นางปราณี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันได้รับจดหมายที่บุรุษไปรษณีย์นำมาส่งที่ร้าน จ่าหน้าถึงตน ข้อความในจดหมายระบุให้จัดเตรียมเงินไว้จำนวนหนึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ เพื่อเป็นค่าคุ้มครองกิจการ โดยทางเราจะติดต่อมาอีกครั้ง ห้ามแจ้งตำรวจ หากไม่ปฏิบัติตามเราจะแจกจ่ายใบปลิวให้ชาวชะอวดและลูกน้องเจ๊ทุกคนทราบ เพื่อปิดกิจการทั้งหมดในเครือ ส.การเกษตร และจะปฏิบัติการจับลูกสาวเจ๊เป็นตัวประกันภายใน 15 วัน ลงท้ายในจดหมายว่า กลุ่มผู้ปฏิบัติการแทนไข่หมูก
นอกจากจดหมายที่ได้รับทางไรษณีย์แล้ว ยังได้รับจดหมายที่มีข้อความเหมือนกัน ที่มีคนแอบนำมาเหน็บไว้ที่ประตูร้านในช่วงเช้ามืด หลังได้รับจดหมายทั้งสองฉบับ ได้ปรึกษาหารือกันในครอบครัวแล้ว เห็นว่ากำลังถูกคุมคามเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.สมพงศ์ ได้ทำการสอบปากคำนางปราณี และ น.ส.สุจิตรา บุตรสาว และรายงานให้ พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน ผกก.ทราบ ซึ่ง พ.ต.อ.ชำนาญ ได้สั่งการให้เชิญลูกจ้างพนักงานในร้านมาทำการสอบปากคำด้วย เพื่อหาแบะแสของคนที่แอบนำจดหมายมาเหน็บไว้ที่ประตูร้าน และสั่งการให้จัดกำลังหน่วยเฉพาะกิจ 1 ชุด เพื่อให้ความคุ้มครองนางปราณี กับครอบครัว ทั้งนี้ ในพื้นที่ อ.ชะอวด และอำเภอใกล้เคียงเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มโจรไข่หมูก หรือ นายเจิม เซ่งเอียด หัวหน้าโจรเรียกค่าไถ่ชื่อดังในภาคใต้ ที่กำลังหลบหนีหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์ของ สภ.ชะอวด อยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าการส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองดังกล่าว เป็นฝีมือของกลุ่มโจรไข่หมูก แต่อาจมีการแอบอ้างจากบุคคลอื่น หรืออาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนบางกลุ่ม รวมทั้งอาจเป็นการกระทำของกลุ่มโจรไข่หมูกเองก็มีความเป็นไปได้ทั้ง 3 กรณี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช รับรายงานด่วนที่สุดจาก สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในกรณีคนร้ายส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองกับ นางปราณี กิ้มต้อง อายุ 59 ปี ผู้ประกอบกิจการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ ปุ๋ย และอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยอ้างในจดหมายเรียกค่าคุ้มครองว่าเป็น “กลุ่มผู้ปฏิบัติการแทนไข่หมูก” และยังขู่จับบุตรสาวเป็นตัวประกันในการเรียกค่าคุ้มครอง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 29 มี.ค.นางปราณี หรือ เจ๊ล้าน กิ้มต้อง อายุ 59 ปี อยู่ 268/5 หมู่ 5 ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย น.ส.สุจิตรา กิ้มต้อง อายุ 27 ปี บุตรสาว ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการในเครือ ส.การเกษตร ซึ่งเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยเคมีและอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และยังเป็นเจ้าของสวนยางพาราหลายร้อยไร่อยู่ในขั้นเศรษฐีของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำจดหมายจำนวน 2 ฉบับ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมพงศ์ จุลเรือง สารวัตรเวร (พนักงานสอบสวน สบ3) สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
นางปราณี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันได้รับจดหมายที่บุรุษไปรษณีย์นำมาส่งที่ร้าน จ่าหน้าถึงตน ข้อความในจดหมายระบุให้จัดเตรียมเงินไว้จำนวนหนึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ เพื่อเป็นค่าคุ้มครองกิจการ โดยทางเราจะติดต่อมาอีกครั้ง ห้ามแจ้งตำรวจ หากไม่ปฏิบัติตามเราจะแจกจ่ายใบปลิวให้ชาวชะอวดและลูกน้องเจ๊ทุกคนทราบ เพื่อปิดกิจการทั้งหมดในเครือ ส.การเกษตร และจะปฏิบัติการจับลูกสาวเจ๊เป็นตัวประกันภายใน 15 วัน ลงท้ายในจดหมายว่า กลุ่มผู้ปฏิบัติการแทนไข่หมูก
นอกจากจดหมายที่ได้รับทางไรษณีย์แล้ว ยังได้รับจดหมายที่มีข้อความเหมือนกัน ที่มีคนแอบนำมาเหน็บไว้ที่ประตูร้านในช่วงเช้ามืด หลังได้รับจดหมายทั้งสองฉบับ ได้ปรึกษาหารือกันในครอบครัวแล้ว เห็นว่ากำลังถูกคุมคามเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.สมพงศ์ ได้ทำการสอบปากคำนางปราณี และ น.ส.สุจิตรา บุตรสาว และรายงานให้ พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน ผกก.ทราบ ซึ่ง พ.ต.อ.ชำนาญ ได้สั่งการให้เชิญลูกจ้างพนักงานในร้านมาทำการสอบปากคำด้วย เพื่อหาแบะแสของคนที่แอบนำจดหมายมาเหน็บไว้ที่ประตูร้าน และสั่งการให้จัดกำลังหน่วยเฉพาะกิจ 1 ชุด เพื่อให้ความคุ้มครองนางปราณี กับครอบครัว ทั้งนี้ ในพื้นที่ อ.ชะอวด และอำเภอใกล้เคียงเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มโจรไข่หมูก หรือ นายเจิม เซ่งเอียด หัวหน้าโจรเรียกค่าไถ่ชื่อดังในภาคใต้ ที่กำลังหลบหนีหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์ของ สภ.ชะอวด อยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าการส่งจดหมายเรียกค่าคุ้มครองดังกล่าว เป็นฝีมือของกลุ่มโจรไข่หมูก แต่อาจมีการแอบอ้างจากบุคคลอื่น หรืออาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนบางกลุ่ม รวมทั้งอาจเป็นการกระทำของกลุ่มโจรไข่หมูกเองก็มีความเป็นไปได้ทั้ง 3 กรณี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
