xs
xsm
sm
md
lg

“ทีโอเอ” มั่นใจ” คว้า “เพรสต้า” รุกตลาดขัดเคลือบสี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ – "ทีโอเอ" รุกตลาดขัดเคลือบสีคว้า “เพรสต้า” ผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบสีเกรดสูงจากอเมริกา หวังเจาะลูกค้าอู่ซ่อมเป็นหลัก เผยมั่นใจยอดขายปีแรกแตะ 50 ล้านบาท พร้อมทุ่มงบการตลาด 30 ล้านบาททำอีเวนท์ ช่วยเสริมให้กลุ่มสีพ่นรถยนต์ขายดีควบคู่กันไป ตั้งเป้าติด 1 ใน 5 กลุ่มผู้นำตลาดภายใน 5 ปี
ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ (3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์ จำกัด
ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ของ “เพรสต้า” (Presta) ผลิตภัณฑ์ขัดสี-เคลือบเงารถยนต์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา

“ก่อนหน้านี้เราผลิตและจำหน่ายสีพ่นซ่อมรถยนต์ภายใต้แบรนด์“ทีโอเอ เมทริกซ์” (TOA MATRIX) อยู่แล้ว การเสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ธุรกิจรถยนต์ของกลุ่มบริษัททีโอเอมีผลิตภัณฑ์สนองตอบต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครบทั้งระบบงานสีพ่นซ่อมรถยนต์ ซึ่งทำให้จุดแข็งนี้เป็นจุดต่างที่ทำให้เราได้เปรียบกว่าบริษัทสีจากต่างประเทศ ที่ไม่มีมีผลิตภัณฑ์ครบทั้งโซลูชั่น”

สำหรับแผนการทำตลาด เพรสต้า เป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยม จะเน้นสร้างฐานลูกค้าใหม่ โดยเจาะกลุ่มไปที่อู่ซ่อมรถยนต์ขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่ทั่วประเทศกว่า 18,000 แห่ง แบ่งเป็น อู่ระดับบน 1,800 แห่ง อู่ระดับกลาง 3,600 แห่ง อู่ระดับล่าง 12,600 แห่ง ซึ่งคาดว่าปลายปีทีโอเอจะมีฐานลูกค้าอู่พ่นสีกว่า 1,710 แห่งทั่วประเทศ โดยใช้งบการตลาด 30 ล้านบาท ทำแคมเปญ ผ่านอีเว้นท์เป็นหลัก เช่น นำรถโมบายออกโรดโชว์ผลิตภัณฑ์ตามภูมิภาคต่างๆ เป็นต้น

ณัฏฐวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดสีรถยนต์มีมูลค่าประมาณ 10,500 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ราว 3,700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายของเพรสด้าในปีนี้ที่ 30-50 ล้านบาท มาร์เก็ตแชร์ประมาณ 3-5% ในขณะที่สีพ่นซ่อมรถยนต์ “ทีโอเอ เมทริกซ์” จะวางจำหน่ายครอบคลุมร้านค้าทั่วประเทศ ผ่านดีลเลอร์จำนวน 90 ราย ในปีที่แล้วมียอดขาย 104 ล้านบาท ส่วนปี 2552 บริษัทจะทำยอดขายรวมได้ 140 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็น 1 ใน 5 ของผู้นำตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันบริษัท มีส่วนแบ่งเพียง 2%

“การตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ อาจดูสวนกระแสตลาดเพราะเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่าตลาดรถยนต์มีแนวโน้มหดตัว แต่บริษัทมองว่าเป้าหมายที่ได้วางนั้นไม่น่าจะพลาดจากเป้า หากมองในทางกลับกันอาจส่งผลให้อัตราผู้ใช้รถต้องรักษาสภาพรถที่มีอยู่แล้วมากขึ้น ใช้รถคันเดิมนานขึ้น ทำให้วิกฤติดังกล่าว อาจเป็นโอกาสให้ตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ขยายตัวตามไปด้วย” ณัฏฐวุฒิ กล่าว

ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกำลังการผลิตสีกว่า 740 ตันต่อปี ซึ่งในปีนี้อัดฉีดเม็ดเงินสร้างเทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ เป็นเงินกว่า 70 ล้านบาท และลงทุนต่อเนื่องเพิ่มอีก 30 ล้านบาท เพื่อนำเข้าเครื่องจักร และเทคโนโลยีในการผลิตแม่สีพ่นรถยนต์ขั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น โดยล่าสุดได้นำเข้าเทคโนโลยีการพ่นสีเสมือนจริง (Virtual Paint) เข้ามาเป็นรายแรกในประเทศไทย

“โปรแกรมดังกล่าวจะช่วยให้ช่างพ่นสีมือใหม่จะได้เรียนรู้วิธีการพ่นสีที่ถูกต้องตั้งแต่การจับปืนพ่นสี ระยะห่างในการพ่นสี รวมถึงน้ำหนักมือก่อนการพ่นซ่อมสีรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ระบบนี้ยังช่วยลดการใช้สีในการฝึกสอนได้ถึง 5 เท่า จึงเหมาะกับเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เจ้าของอู่ต้องรัดเข็มขัดต้นทุนในการใช้สีจริง” ณัฏฐวุฒิ กล่าว

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ขัดสี-เคลือบเงารถยนต์ “เพรสต้า” ที่เปิดตัวในประเทศไทย ประกอบไปด้วย เพรสต้า สตราต้า อัลตร้า คัตติ้ง ครีม (Strata Ultra Cutting Creme) ครีมขัดหยาบ, เพรสต้า โครม่า 1500 โพลิซ (Chroma1500 Polish) ครีมขัดลบเส้นสำหรับสีรถยนต์โทนอ่อน, เพรสต้า โครม่า สเวิร์ล รีมูฟเวอร์ (Chroma Swirl Remover) ครีมขัดลบเส้น สำหรับสีรถยนต์โทนเข้ม, เพรสต้า ออโรร่า 3000 เกลซ (Aurora 3000 Glaze) ครีมเคลือบเงา, เพรสต้า สคัฟ สทัฟ (Scuff Stuff) ยาขัดอเนกประสงค์ และหัวขัดประเภทต่างๆ

ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าทั่วไปสามารถซื้อไปใช้เองที่บ้านคือ เพรสต้า ฟาสท์ แว็กซ์ (Fast Wax) ครีมเคลือบเงาที่ช่วยทำให้ฟิลม์สีรถยนต์เงางาม และเพรสต้า สเปรย์ เอ็น ไชน์ (Spray ‘N Shine) น้ำยาสเปรย์เคลือบเงาขจัดฝุ่น และคราบไขมัน สุดท้ายคือ ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ที่นำเข้ามาเป็นรายแรกของเมืองไทย เพรสต้า เฮดไล้ท์ เรสโตเรชั่น ครีม (PRESTA HEADLIGHT RESTORATION CRÈME) ที่มีประสิทธิภาพทำความสะอาดกระจกไฟหน้ารถที่ซีดเหลือง ให้กลับสดใสเงางามได้ภายในเวลาไม่กี่นาที

ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มบริษัททีโอเอดำเนินกิจการครอบคลุมกลุ่มธุรกิจชั้นนำทั้งภายในประเทศและต่างประเทศถึง 4 สายงานธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสี (Paint industry) กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical industry) กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมี (Petrochemical industry) และกลุ่มธุรกิจยานยนต์ (Automotive industry)

กำลังโหลดความคิดเห็น