ศาลระนองอนุมัติหมายจับ"ชาญชัย ชิ้นศิริ"สามีนางกันต์กนิษฐ์ ลูกสาวนายปิยะ อังกินันท์ ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน กรณีแอบอ้างว่าเสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิเพื่อหนีหนี้
จากกรณีที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปรามได้เข้าจับกุมนางกันต์กนิษฐ์ อังกินันทน์ หรือนางปานจิต ชิ้นศิริ อายุ 48 ปี ลูกสาวนายปิยะ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี หลายสมัยพร้อมกับนายชาญชัย ชิ้นศิริ สามี ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งหลังสืบทราบว่านางกันต์กนิษฐ์ ร่วมกับพวกจัดฉากว่าตัวเองเสียชีวิตจากเหตุพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อ 26 ธ.ค. 2547 เพื่อหลบหนีหมายจับคดีฉ้อโกงหลายคดี โดยนายชาญชัย ชิ้นศิริ ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง เมื่อวันที่31 ธันวาคม 2547 และมีการออกใบรับรองการเผาศพและใบมรณะบัตรไปรับเงินประกันชีวิตด้วย นั้น
ความคืบหน้าในส่วนของจังหวัดระนองเมื่อวันที่ 28 มี.ค.52 พ.ต.อ.วีระศิลป์ ขวัญเซ่ง ผกก.สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง เปิดเผยว่า ทางสภ.ปากน้ำ ได้ขออำนาจศาลจังหวัดระนองในการออกหมายจับนายชาญชัย ชิ้นศิริ เมื่อเย็นวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้ว ตามหมายจับที่ จ.57/2552 ลงวันที่ 27 มี.ค. 2552
หมายจับระบุว่าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2547เวลา 16.00 น. และเวลา 19.00 น. นายชาญชัย ชิ้นศิริ อายุ อายุ 46 ปี มีภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 218 ซ.ริมน้ำ ถ.พานิชเจริญ อ.เมืองจ.เพชรบุรี ได้แจ้งความเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ต่อมาผู้ต้องหานี้ได้ถูกจับกุมที่ท้องที่อื่น สำหรับมูลฐานความผิดที่ระบุในหมายจับของศาลจังหวัดระนองระบุกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่หวั่นใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
พ.ต.อ.วีรศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งหมายจับของศาลจังหวัดระนองไปให้ สภ.เมืองสมุทรสาครได้รับทราบแล้ว เพื่อขออายัดตัวนายชาญชัย มาดำเนินคดีต่อที่ สภ.ปากน้ำ จ.ระนองต่อไป และทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค8 ได้สั่งกำชับให้ดูแลคดีนี้เป็นกรณีพิเศษ พร้อมให้ศึกษาเป็นกรณตัวอย่าง โดยเฉพาะช่องว่าง และช่องโหว่ต่างๆที่ทำให้ผู้ต้องหาสามารถใช้หลบเลี่ยง หรือหลอกเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ใช้เป็นบทเรียนในการทำคดีอื่นๆต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ร.ต.อ.ศรายุทธ มีบุญ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต อดีตร้อยเวร สภ.ปากน้ำ ที่ทำหน้าที่รับแจ้งความ และเป็นผู้ที่เคยได้พบกับนายชาญชัย เมื่อครั้งที่นายชาญชัยมาแจ้งลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2547ได้เข้าพบเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำเพื่อให้ปากคำในรายละเอียด พร้อมกันนั้น ร.ต.อ. ศรายุทธ ได้แจ้งความร้องทุกข์กับจนท.พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายชาญชัย ชิ้นศิริในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน
จากกรณีที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบปรามได้เข้าจับกุมนางกันต์กนิษฐ์ อังกินันทน์ หรือนางปานจิต ชิ้นศิริ อายุ 48 ปี ลูกสาวนายปิยะ อังกินันทน์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี หลายสมัยพร้อมกับนายชาญชัย ชิ้นศิริ สามี ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่งหลังสืบทราบว่านางกันต์กนิษฐ์ ร่วมกับพวกจัดฉากว่าตัวเองเสียชีวิตจากเหตุพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อ 26 ธ.ค. 2547 เพื่อหลบหนีหมายจับคดีฉ้อโกงหลายคดี โดยนายชาญชัย ชิ้นศิริ ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง เมื่อวันที่31 ธันวาคม 2547 และมีการออกใบรับรองการเผาศพและใบมรณะบัตรไปรับเงินประกันชีวิตด้วย นั้น
ความคืบหน้าในส่วนของจังหวัดระนองเมื่อวันที่ 28 มี.ค.52 พ.ต.อ.วีระศิลป์ ขวัญเซ่ง ผกก.สภ.ปากน้ำ จ.ระนอง เปิดเผยว่า ทางสภ.ปากน้ำ ได้ขออำนาจศาลจังหวัดระนองในการออกหมายจับนายชาญชัย ชิ้นศิริ เมื่อเย็นวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้ว ตามหมายจับที่ จ.57/2552 ลงวันที่ 27 มี.ค. 2552
หมายจับระบุว่าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2547เวลา 16.00 น. และเวลา 19.00 น. นายชาญชัย ชิ้นศิริ อายุ อายุ 46 ปี มีภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 218 ซ.ริมน้ำ ถ.พานิชเจริญ อ.เมืองจ.เพชรบุรี ได้แจ้งความเท็จ และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ต่อมาผู้ต้องหานี้ได้ถูกจับกุมที่ท้องที่อื่น สำหรับมูลฐานความผิดที่ระบุในหมายจับของศาลจังหวัดระนองระบุกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่หวั่นใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
พ.ต.อ.วีรศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งหมายจับของศาลจังหวัดระนองไปให้ สภ.เมืองสมุทรสาครได้รับทราบแล้ว เพื่อขออายัดตัวนายชาญชัย มาดำเนินคดีต่อที่ สภ.ปากน้ำ จ.ระนองต่อไป และทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค8 ได้สั่งกำชับให้ดูแลคดีนี้เป็นกรณีพิเศษ พร้อมให้ศึกษาเป็นกรณตัวอย่าง โดยเฉพาะช่องว่าง และช่องโหว่ต่างๆที่ทำให้ผู้ต้องหาสามารถใช้หลบเลี่ยง หรือหลอกเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ใช้เป็นบทเรียนในการทำคดีอื่นๆต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ร.ต.อ.ศรายุทธ มีบุญ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต อดีตร้อยเวร สภ.ปากน้ำ ที่ทำหน้าที่รับแจ้งความ และเป็นผู้ที่เคยได้พบกับนายชาญชัย เมื่อครั้งที่นายชาญชัยมาแจ้งลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2547ได้เข้าพบเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำเพื่อให้ปากคำในรายละเอียด พร้อมกันนั้น ร.ต.อ. ศรายุทธ ได้แจ้งความร้องทุกข์กับจนท.พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายชาญชัย ชิ้นศิริในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน