“สุชาติ เหมือนแก้ว” ก้มหน้ารับสภาพ! บอกไม่รู้สึกน้อยใจถูกเตะโด่งคุมภาคอีสาน พร้อมทำงานตามมอบหมายเต็มที่ ยกย่อง “วรพงษ์ ชิวปรีชา” เป็นคนเก่งเหมาะสมกับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถมเป็นคนทำงานดีมาตลอด
วันนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) ที่มีมติโยกย้าย พล.ต.ท.สุชาติ ไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.4 และให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก.มาดำรงตำแหน่ง ผบช.น.แทนว่า ไม่รู้สึกน้อยใจที่ถูกไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เนื่องจากตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่จนถึงวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และต้องไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานที่ใหม่อย่างเต็มที่เช่นกัน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ใหม่จากที่เคยได้ปฏิบัติงานมา ถึงแม้ว่าพื้นที่ทางภาคอีสานจะมีกลุ่มเสื้อแดงไม่ถือว่าเป็นปัญหา
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง จะมาดำรงตำแหน่งแทนนั้น โดยมองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วกับตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจาก พล.ต.ท.วรพงษ์ เป็นคนเก่งและทำงานดีมาตลอด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สุชาติ เปิดเผยถึงผลการประชุมหารือร่วมกับทหารเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานสำหรับการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ในอนาคตว่า ปัญหาที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกี่ยวกับกำลังพล และอุปกรณ์การควบคุมฝูงชน รวมถึงการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านการข่าว และการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศจะนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 17 หรือ 24 ก.พ.นี้ ยังต้องมีการตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงจะจัดงานระดมทุนในชื่องาน “วันแห่งความรักประชาธิปไตย” ที่วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือมาตรการรับมือ แต่ได้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เมื่อเข้ามานั่งตำแหน่งนี้ได้เพียง 5 เดือน และมีผลงานเข้าสลายการชุมนุมประชาชนที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา และด้านหน้า บช.น. เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยพล.ต.ท.สุชาติ ปัจจุบันอายุ 57 ปี จะเกษียณอายุราชการในปี 2554 เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2494 จบ ร.ร.นายร้อยตำรวจ “นรต.รุ่น 26” รุนเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จาก ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2538 และนิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2543 ผ่านอบรมหลักสูตร ร.ร.ผบก.รุ่น 18 และ วปอ.รุ่น 48
เติบโตในเส้นทางสีกากีเริ่มตั้งแต่ปี 2516 เป็น ผบ.มว.ประจำ กก.สอ.ตชด.จากนั้นเติบโตผ่านตำแหน่งสำคัญในกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อาทิ รอง สว.ผ.5 กก.5 ป. รอง สว.ผ.4 กก.2 ป. ผู้ช่วย นว.ผบก.ป. นว.ผบก.ป. สว.ผ.ธุรการ กก.นผ.บก.อก.บช.ก. สว.ผ.7 กก.8 ป. สว.ผ.8 กก.8 ป. รอง ผกก.1 ป. ผกก.1 ป. รอง ผบก.ป. รอง ผบก.อก.บช.ก.
พล.ต.ท.สุชาติ เป็นนายพลติดยศ พล.ต.ต.ครั้งแรก เมื่อปี 2544 เป็น ผบก.อก.บช.ก.โยกเป็น ผบก.ทล.ปี 2546 ในครั้งนั้นใครก็รู้ว่า ไปเป็น ผบก.ทล.ได้เพราะใคร และเพราะเหตุผลใด ก็รถตำรวจทางหลวงในยุคนั้นนั่นแหละ ที่ลือสะพัดกันว่า มีการใช้รถตราโล่ขนธนบัตรไปใช้ในการเลือกตั้งตามหัวเมืองต่างๆ จากนั้นก็ได้ดิบได้ดี ขึ้นเป็นรอง ผบช.ก.ในปี 2547 และโยกมาเป็นรอง ผบช.น.เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2551 ต่อมาได้รับการคาดหมายว่าจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบช.ก.ทว่าโค้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และทำเนียบรัฐบาล ซึ่งครั้งนั้นก็เกิดเหตุการณ์ทุบตีประชาชนจากฝีมือตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าไปปิดหมายศาล
แฉเหตุ ก.ตร.ล่ม! “พัชรวาท” ไม่ยอม-เด็กแม้วขู่งัดข้อ “เทือก”
ก.ตร.ล่ม! ถกไม่ลงเก้าอี้รอง ผบ.ตร. - “วรพงษ์” เสียบนครบาล!
วันนี้ (7 ก.พ.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) ที่มีมติโยกย้าย พล.ต.ท.สุชาติ ไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.4 และให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ก.มาดำรงตำแหน่ง ผบช.น.แทนว่า ไม่รู้สึกน้อยใจที่ถูกไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เนื่องจากตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่จนถึงวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และต้องไปปฏิบัติหน้าที่ยังสถานที่ใหม่อย่างเต็มที่เช่นกัน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ใหม่จากที่เคยได้ปฏิบัติงานมา ถึงแม้ว่าพื้นที่ทางภาคอีสานจะมีกลุ่มเสื้อแดงไม่ถือว่าเป็นปัญหา
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง จะมาดำรงตำแหน่งแทนนั้น โดยมองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วกับตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจาก พล.ต.ท.วรพงษ์ เป็นคนเก่งและทำงานดีมาตลอด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สุชาติ เปิดเผยถึงผลการประชุมหารือร่วมกับทหารเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานสำหรับการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ในอนาคตว่า ปัญหาที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกี่ยวกับกำลังพล และอุปกรณ์การควบคุมฝูงชน รวมถึงการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านการข่าว และการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศจะนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 17 หรือ 24 ก.พ.นี้ ยังต้องมีการตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงจะจัดงานระดมทุนในชื่องาน “วันแห่งความรักประชาธิปไตย” ที่วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือมาตรการรับมือ แต่ได้ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เมื่อเข้ามานั่งตำแหน่งนี้ได้เพียง 5 เดือน และมีผลงานเข้าสลายการชุมนุมประชาชนที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา และด้านหน้า บช.น. เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยพล.ต.ท.สุชาติ ปัจจุบันอายุ 57 ปี จะเกษียณอายุราชการในปี 2554 เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2494 จบ ร.ร.นายร้อยตำรวจ “นรต.รุ่น 26” รุนเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จาก ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2538 และนิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2543 ผ่านอบรมหลักสูตร ร.ร.ผบก.รุ่น 18 และ วปอ.รุ่น 48
เติบโตในเส้นทางสีกากีเริ่มตั้งแต่ปี 2516 เป็น ผบ.มว.ประจำ กก.สอ.ตชด.จากนั้นเติบโตผ่านตำแหน่งสำคัญในกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อาทิ รอง สว.ผ.5 กก.5 ป. รอง สว.ผ.4 กก.2 ป. ผู้ช่วย นว.ผบก.ป. นว.ผบก.ป. สว.ผ.ธุรการ กก.นผ.บก.อก.บช.ก. สว.ผ.7 กก.8 ป. สว.ผ.8 กก.8 ป. รอง ผกก.1 ป. ผกก.1 ป. รอง ผบก.ป. รอง ผบก.อก.บช.ก.
พล.ต.ท.สุชาติ เป็นนายพลติดยศ พล.ต.ต.ครั้งแรก เมื่อปี 2544 เป็น ผบก.อก.บช.ก.โยกเป็น ผบก.ทล.ปี 2546 ในครั้งนั้นใครก็รู้ว่า ไปเป็น ผบก.ทล.ได้เพราะใคร และเพราะเหตุผลใด ก็รถตำรวจทางหลวงในยุคนั้นนั่นแหละ ที่ลือสะพัดกันว่า มีการใช้รถตราโล่ขนธนบัตรไปใช้ในการเลือกตั้งตามหัวเมืองต่างๆ จากนั้นก็ได้ดิบได้ดี ขึ้นเป็นรอง ผบช.ก.ในปี 2547 และโยกมาเป็นรอง ผบช.น.เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2551 ต่อมาได้รับการคาดหมายว่าจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบช.ก.ทว่าโค้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และทำเนียบรัฐบาล ซึ่งครั้งนั้นก็เกิดเหตุการณ์ทุบตีประชาชนจากฝีมือตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าไปปิดหมายศาล
แฉเหตุ ก.ตร.ล่ม! “พัชรวาท” ไม่ยอม-เด็กแม้วขู่งัดข้อ “เทือก”
ก.ตร.ล่ม! ถกไม่ลงเก้าอี้รอง ผบ.ตร. - “วรพงษ์” เสียบนครบาล!