xs
xsm
sm
md
lg

รำลึกครบ40ปีก้าวแรกบนดวงจันทร์ นาซายันภาพร่องรอย-รัสเซียยังคาใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเยนซีส์ - ครบรอบ 40 ปีที่รอยเท้ามนุษย์คนแรกได้สัมผัสดวงจันทร์ นาซาเพิ่งจะได้โอกาสปล่อยภาพร่องรอยยานสำรวจต่างๆ ในโครงการอพอลโลที่เคยทิ้งไว้บนดวงจันทร์ ท่ามกลางความหลังฝังใจรัสเซีย หมายตา "ดาวอังคาร" เป็นเส้นชัยใหม่
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 1969 ยาน "อพอลโล 11" ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) พา 3 นักบินมุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ และ "นีล อาร์มสตรอง" ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นมนุษย์คนแรกที่เหยียบลงบนพื้นผิวดวงจันทร์
อาร์มสตรองและบัซ อัลดริน นำอีเกิล แยกตัวออกจากยานอพอลโล 11 เพื่อมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์ โดยมีไมเคิล คอลลินส์ประจำที่ในหน่วยบัญชาการ "โคลัมเบีย" โคจรรอยู่ด้านนอกของดวงจันทร์
อีเกิลลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ที่บริเวณ "ทะเลแห่งความสงบ" (Sea of Tranquility) จากนั้นอาร์มสตรองค่อยๆ ไต่บันไดยานลงมาเบื้องล่าง พร้อมกับกล่าวประโยคแรกว่า "นี่เป็นก้าวเล็กๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ " (That's one small step for a man, one giant leap for mankind.) ท่ามกลางสายตาของคนทั่วโลก ที่เฝ้าจดจ้องรอดูวินาทีประวัติศาสตร์ผ่านหน้าจอโทรทัศน์
พร้อมกันนี้ยังได้ปักแผ่นจารึกไว้ที่ฐานของอีเกิล ซึ่งมีข้อความว่า "พวกเราเป็นมนุษย์จากดาวโลก ที่ได้ย่างเท้าเหยียบบนดวงจันทร์ ในเดือนกรกฎาคม 1969 พวกเรามาโดยสันติเพื่อมวลมนุษยชาติ" (Here men from the planet Earth first set foot upon the moon. July 1969 A.D. We came in peace for all mankind.)
อพอลโล 11 และนักบินทั้ง 3 นายเดินทางกลับมาถึงโลกอย่างปลอดภัยในวันที่ 24 ก.ค. โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากประธานาธิบดีและประชาชนชาวสหรัฐฯ
ตลอดช่วงเวลา 4 ปี หลังจากนั้น นาซาก็ได้ส่งนักบินอวกาศอีก 10 คน ลงสำรวจดวงจันทร์ ซึ่งยูจีน เคอร์แนน ผู้บังคับการอพอลโล 17 ได้กล่าวอำลาดวงจันทร์ไว้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสำรวจครั้งสุดท้ายของโครงการอพอลโลในปี 1972 ว่า พวกเขาจะกลับไปอีกครั้งด้วยสันติภาพและความหวังแห่งมวลมนุษยชาติ
ทว่า จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ยังไม่มีมนุษย์ผู้ใดได้มีโอกาส "กลับไป" เหยียบดวงจันทร์ดั่งที่ตั้งใจไว้ ทั้งที่เทคโนโลยีอวกาศมีความก้าวหน้าทันสมัยมากขึ้น พร้อมๆ กับคำกล่าวหา ว่าการเดินทางสู่ดวงจันทร์ของสหรัฐฯ นั้นเป็นการลวงโลกอย่างไม่ขาดสาย
กระทั่งล่าสุดยานลูนาร์ รีคอนเนสซองซ์ ออร์บิเตอร์ หรือ LRO ของนาซา ที่เพิ่งเดินทางไปถึงวงโคจรของดวงจันทร์เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้บันทึกภาพพื้นที่ลงจอดของยานอพอลโล 11 และ อพอลโล 14-17 โดยอพอลโล 13 เป็นปฏิบัติการที่ไม่ประสบความสำเร็จในการลงจอดยาน แต่ลูกเรือนำยานกลับสู่โลกได้ ส่วนพื้นที่ลงจอดของอพอลโล 12 ไม่อยู่ในขอบเขตที่ยานแอลอาร์โอจะบันทึกได้ และจะบันทึกต่อในภายหลัง
อย่างไรก็ดี ในภาพจะเห็นโมดูลด้วย ซึ่งมีลักษณะคล้ายก้อนเหลี่ยมๆ สีขาว ตั้งอยู่บริเวณปากหลุมบนดวงจันทร์ ภาพโมดูลของอพอลโล 14-17 โดยในส่วนของอพอลโล 14 นั้น นาซายังได้ขยายภาพให้เห็นถึงร่องรอยของเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทิ้งไว้พร้อมโมดูล และเชื่อมด้วยรอยเท้าของนักบินอวกาศที่ลากเป็นทางยาว
นอกจากยานแอลอาร์โอของนาซาแล้ว ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นและอินเดียก็มียานสำรวจดวงจันทร์ เพื่อหาร่องรอยของมนุษย์ที่เคยไปเยือนดวงจันทร์เช่นกัน แต่กล้องจากยานสำรวจของประเทศเหล่านั้นไม่คมชัดพอ จึงไม่สามารถบันทึกภาพดังกล่าวส่งมาได้
แม้ว่าจะผ่านมา 40 ปีแล้ว การสูญเสียตำแหน่งผู้เหยียบดวงจันทร์ครั้งแรกนั้นยังคงทิ่มแทงจิตใจชาวรัสเซีย ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ "รอสซิยา" ของรัสเซีย
เพราะกว่า 10 ปีก่อนที่สหรัฐฯ จะลงจอดบนดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรก อดีตสหภาพโซเวียตอยู่ในอันดับสูงสุดของการแข่งขันทางด้านอวกาศ ไม่ว่าจะเป็นที่หนึ่งในการส่ง "ดาวเทียมสปุตนิก" วัตถุอวกาศครั้งแรกของโลก ตามมาด้วยมนุษย์อวกาศคนแรกของโลก และอื่นๆ อีกมากมาย
ที่สำคัญโซเวียตยังเป็นชาติแรกที่ไปถึงดวงจันทร์ด้วยยานไร้คนขับ "ลูน่า 2" ซึ่งโหม่งพื้นผิวดวงจันทร์ ก่อนที่อาร์มสตรองจะได้เหยียบดวงจันทร์ไม่กี่สัปดาห์ แต่ทั้งหมดที่ทำมาด้วยดูเหมือนจะสูญสิ้นไปกับรอยเท้ามนุษย์ที่ประทับบนดวงจันทร์
"การเริ่มต้นกับเที่ยวบินแรกด้วยแคปซูลแบบพื้นฐาน แล้วไปถึงดวงจันทร์ เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับมนุษย์โลก แน่นอนว่าเราอยากจะเห็นมนุษย์คนแรกที่ไปถึงดวงจันทร์เป็นชาวโซเวียต-รัสเซีย แต่ความสำเร็จของเราเองก็มีตั้งมาก" ความเห็นของ เซอร์กี ครีกาเลฟ นักบินอวกาศรัสเซีย
ตอนนี้สหรัฐฯ กำลังยุ่งอยู่กับการยานมาทดแทนกระสวยอวกาศ แต่ปีที่ผ่านมารัสเซียก็ได้ว่าจ้างผู้ออกแบบยานอวกาศรุ่นต่อไปที่จะมาแทนยานโซยุซ ความพยายามที่จะแข่งขันครั้งนี้อาจจะลั่นไกให้เกิดการแข่งขันทางด้านอวกาศครั้งใหม่ก็เป็นได้ และตอนนี้รัสเซียก็จะพูดถึงการแข่งขันอวกาศในขั้นต่อไป นั่นคือการปฏิบัติการส่งคนไปดาวอังคาร แม้ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดกันนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 20 ปีก็ตาม.
กำลังโหลดความคิดเห็น